คุกจริง1เดือน'ชูวิทย์'ยื่นทรัพย์สินเท็จ ยื่น 2 แสนขอประกัน-ศาลไม่ให้หวั่นหนี
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 'ชูวิทย์' 2 เดือน รับสารภาพลดโทษเหลือ 1 เดือน-เว้นวรรคการเมือง 5 ปี คดีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ชี้เคยติดคุก เลยรอลงโทษไม่ได้ เจ้าตัวใช้หลักทรัพย์ 2 แสนขอประกันตัวชั่วคราว แต่ศาลไม่ให้หวั่นหนี
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิจารณาคดีดำที่ อม 26/2561 ระหว่าง คณะกรรมการ ป.ป.ช. โจทก์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จำเลย ในฐานความผิดการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ โดยการอ่านคำพิพากษาเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 13.00 น. โดยผลของการพิจารณาคดีนั้น นายชูวิทย์ได้ให้การรับสารภาพในชั้นศาลยอมรับว่าได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จจริง ในตอนพ้นจากตำแหน่งครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2556 ในส่วนของหุ้นภัตตาคารอาหารเซ็งกี่มูลค่า 150,000 บาท เนื่องจากเข้าใจว่าได้โอนหุ้นดังกล่าวให้กับบุคคลอื่นแล้ว อีกทั้งเป็นหุ้นที่มีมูลค่าไม่มากเมื่อเทียบกับทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ตนมีเยอะมากเป็นจำนวน 500 ล้านบาท จึงไม่ต้องยื่นรายการบัญชีทรัพย์สิน ตนจึงขอแถลงการประกอบเพื่อให้ศาลพิจารณาโทษด้วย
ศาลฎีกาฯจึงพิเคราะห์คำร้องเอกสารประกอบคำฟ้องและคำให้การผู้ถูกกล่าวแล้ว เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อปี 2554 พ้นจากตำแหน่งปี 2556 ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของตนเอง คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแก่ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน นับจากวันเข้ารับตำแหน่ง, วันที่พ้นตำแหน่ง และวันที่พ้นตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32, 33 ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาเคยยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในการดำรงตำแหน่ง ส.ส. ครั้งที่ 1 และ 2 มาแล้ว ย่อมทราบดีว่าผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินฯ ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
แต่ผู้ถูกกล่าวหายื่นรายการแสดงทรัพย์สิน โดยไม่แสดงรายการเงินลงทุนกับภัตตาคารแห่งหนึ่ง มูลค่า 150,000 บาท โดยชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ว่า ได้โอนหุ้นให้พนักงานสถานประกอบการไฮคลาส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ 2 ราย ไปก่อนกำหนดการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งขัดกับคำให้การของพนักงานสถานประกอบการไฮคลาสฯ ทั้ง 2 รายต่ออนุกรรมการไต่สวนว่า พยานเป็นเพียงพนักงานของสถานประกอบการไฮคลาสฯ และมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทนผู้ถูกกล่าวหาเพื่อยื่นเรื่องขอใบอนุญาตสถานประกอบการเท่านั้น แต่ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้ถือหุ้นที่แท้จริง
พฤติการณ์จึงเชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือหุ้นของภัตตาคารที่ร่วมลงทุน แต่มีเจตนาไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าว ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีหน้าที่ยื่นบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องปฏิบัติ เพื่อใช้ตรวจสอบผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ครั้งที่ 2
ศาลฎีกาฯพิพากษาว่า จำเลยจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จหรือปกปิด ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ห้ามจำเลยดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2556 ที่พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ครั้งที่ 2 และให้จำคุก 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน จำเลยเคยรับโทษจำคุกเกิน 6 เดือน ไม่ใช่คดีหมิ่นประมาทหรือลหุโทษ และพ้นโทษมาไม่เกิน 5 ปี จึงไม่อาจรอการลงโทษได้
ต่อมานายชูวิทย์ได้ให้คนสนิทไปกดเงินสดจำนวน 2 แสนบาท เพื่อจะขอยื่นประกันตัวในระหว่างขออุทธรณ์คดีตามตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาคดีของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 แต่องค์คณะผู้พิพากษาไม่อนุญาตให้นายชูวิทย์ประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี นายชูวิทย์จึงถูกคุมตัวขึ้นรถตู้ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เมื่อเวลาประมาณ 15.45 น.
ปัจจุบันนายชูวิทย์ ทำหน้าที่เป็นพิธีกรเล่าข่าวในรายการช "ชูวิทย์ ตีแสกหน้า" ทางช่องไทยรัฐทีวี และรายการ "ชูวิทย์ มีเรื่องเล่า" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3
อนึ่งสำนักข่าวอิศราได้เคยลงข้อมูลการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายชูวิทย์ต่อ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2554 ระบุมีทรัพย์สิน 174.7 ล้านบาท บุตรไม่บรรลุนิติภาวะ 4 คน มีทรัพย์สิน 699.9 ล้านบาท รวมทรัพย์สิน 874.6 ล้านบาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 864.9 ล้าน บาท ในการยื่นครั้งต่อมาอีก 2 ครั้ง ลดลงจำนวนมาก ล่าสุดช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส. 1 ปี เมื่อ 8 ธ.ค. 2557 นายชูวิทย์และบุตร แจ้งว่า มีทรัพย์สิน 345.5 ล้านบาท เปรียบเทียบครั้งแรกกับครั้งล่าสุดลดลงประมาณ 519.3 ล้านบาท (อ่านประกอบ:ป.ป.ช.ฟันเงียบ‘ชูวิทย์’คดีบัญชีทรัพย์สิน ศาลฎีกาฯ นัด 21 มิ.ย.61)
อ่านประกอบ:
พลิกบัญชีทรัพย์สิน‘เสี่ยชูวิทย์’ 3 ปี หาย 500 ล้าน
ป.ป.ช.ฟันเงียบ‘ชูวิทย์’คดีบัญชีทรัพย์สิน ศาลฎีกาฯ นัด 21 มิ.ย.61
สแกนทรัพย์สิน 347 ล. ‘เสี่ยชูวิทย์’ก่อนศาลสั่งจำคุก 2 ปีคดีรื้อบาร์เบียร์