ก่อนบุกทำเนียบ 19 มิ.ย. เครือข่ายคนอินทรีย์วิถีเมืองลุง ยื่นคำขาด รบ.3 ข้อ แบนพาราควอต-คลอร์ไพริฟอส
เครือข่ายคนอินทรีย์วิถีเมืองลุง ยื่นคำขาด รบ.ต้องตอบรับ 3 ข้อเสนอ แบนพาราควอต-คลอร์ไพริฟอส ก่อน 9 นาฬิกา 19 มิ.ย. 61 มิฉะนั้นจะบุกทำเนียบฯ ‘อำนาจ เกตุขาว’ แกนนำ เผยรัฐควรเอาจริง ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช่แค่วาทกรรม เร่งสร้างปรากฎการณ์ไฟลามทุ่ง เปลี่ยน ‘ทุ่งเคมี’ เป็น ‘ทุ่งอินทรีย์’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย. 2561) เครือข่ายคนอินทรีย์วิถีเมืองลุง นำโดยนายอำนาจ เกตุขาว จะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลในเวลา 09.00 น. เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช พาราควอต คลอร์ไพริฟอส อย่างไม่มีเงื่อนไข หลังจากปักหลักอยู่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2561
ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจเดินยาตราไปทำเนียบรัฐบาล 1 วัน เครือข่ายคนอินทรีย์ฯ ได้ยื่นหนังสือถึงนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมว.กษ.) ผ่านนายดิเรก ตนพยอม ผู้ตรวจราชการ กษ. เพื่อเสนอ 3 ข้อเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดังนี้
1.ขอให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายดำเนินการตามมติ 5 กระทรวงหลักและมิติกระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 15 ก.พ. 2561 แบนพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ภายในเดือน ธ.ค. 2562 และมีแนวทางชัดเจนในการจำกัดการใช้ไกลโฟเซตอย่างเข้มงวด โดยไม่ใช้ในพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่ผลิตอาหาร
2.ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการณรงค์ให้ประชาชนรับทราบถึงพิษภัยของสารเคมีในระบบการผลิตอาหารดังกล่าวอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3.ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการโดยทันทีไม่จำเป็นต้องตั้งกรรมการศึกษาตามที่ รมว.กษ. เสนอ เพราะการตั้งกรรมการเป็นเพียงเกมการถ่วงเวลาที่คนทั้งประเทศรับรู้ มิต้องพูดถึงกรรมการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบรรษัทสารเคมี ซึ่งมีมติไม่แบนสารเคมีไปแล้ว เมื่อ 23 พ.ค. 2561 การตั้งกรรมการจึงเป็นเกมเพื่อประโยชน์ของบริษัทเท่านั้น ยังไม่นับรวมว่ามีมติ 5 กระทรวงออกมาแล้ว ซึ่งฐานะและความศักดิ์สิทธิ์เหนือกรรมการที่ รมว.กษ.เสนอตั้งมา
โดยรัฐบาลจะต้องตอบรับข้อเสนอทั้งหมดของเครือข่ายคนอินทรีย์ฯ ภายใน 09.00 น. มิฉะนั้นเราจะเดินไปหานายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล
อำนาจ เกตุขาว
นายอำนาจ เกตุขาว ระบุกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายไม่ยอมตัดสินใจแบนสารเคมี เพราะมีวาระแฝงเรื่องผลประโยชน์ โดยกล่าวอ้างว่า “ข้อมูลไม่เพียงพอ” หยิบข้อมูลของบริษัทเอกชนขึ้นมาหักล้างข้อมูลที่มูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) และเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ไทยแพน) ทำไว้ แต่ไม่เคยคำนึงถึงสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ต้องสูญเสียไปกับค่ารักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยจากผลกระทบของสารเคมี
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า นโยบายขับเคลื่อนประเทศเป็นเมืองเกษตรปลอดภัย เป็นแค่วาทกรรมที่พูดให้ดูดีเฉย ๆ เพราะปัจจุบันยังไม่มีการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส ความจริงใจตรงนี้จึงสัมผัสไม่ได้ว่า “คุณเอาจริง” ทั้งที่ควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรเห็นว่า รัฐเอาจริงกับเกษตรอินทรีย์ เมื่อนั้นปรากฎการณ์ไฟลามทุ่งก็จะเกิดขึ้น จาก “ทุ่งเคมี” เป็น “ทุ่งอินทรีย์”
“เกษตรอินทรีย์ช่วยยกระดับราคาให้สูงขึ้น จากนาข้าวขายเกวียนละ 5-6 พันบาท จะเพิ่มขึ้นเป็น 1-2 หมื่นบาท ดังนั้น รัฐอย่าดูเฉพาะจีดีพีทางเศรษฐกิจ อย่างนั้นเงินเข้ากระเป๋าใคร แต่อินทรีย์เงินเข้ากระเป๋าชาวบ้าน และเมื่อตอกเสาเข็มลงไปในชนบทไทยทั่วประเทศแล้ว จะเกิดความมั่นคงทางอาหารและลัทธิเอาอย่าง ขยายจากครัวเรือนสู่ชุมชน จังหวัด และประเทศ”
แกนนำเครือข่ายคนอินทรีย์ฯ ถึงพูดหลายหนว่า “ถ้าผมชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมจะพาประเทศไทยเข้าสู่สงครามชีวภาพอินทรีย์ คู่ต่อสู้ของผมคือ ทุนเคมีและสาวก แม้รัฐจะไม่เอา แต่เราเอาแน่”
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมองว่า เกษตรกรมีความรอบรู้เรื่องพิษภัยจากสารเคมีมากขึ้น แต่พวกเขายังหาวิธีการทดแทนการใช้เดิมไม่ได้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนคุณภาพของดิน ต้องใส่ปุ๋ยหมัก 5 ตันขึ้นไป/ไร่ ดินจึงจะฟื้นคืนสภาพ ซึ่งปุ๋ยหมักราคาตันละ 4 พันบาท เมื่อรวมกับค่าแรงและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกษตรกรต้องเสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3-4 หมื่นบาท/ไร่ ในขณะที่ผลผลิตอย่างนาข้าวขายได้เกวียนละ 5 พันบาท อีก 10 ปี ยังไม่คืนต้นทุน
“รมว.กษ.ตัวกะเปี๊ยก ทำอะไรไม่ได้ เพราะทุนเคมีข้ามชาติ”
นายอำนาจ กล่าวอีกว่า พรุ่งนี้ไม่กลัวแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แม้จะทราบว่า รมว.กษ. และรัฐบาลไม่ให้ราคาเครือข่ายคนอินทรีย์ฯ เพราะมาปักหลักเรียกร้องกันจำนวนไม่มาก ไม่ได้มีการจัดตั้งเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ในเมื่อไม่ให้ราคาเรา เราก็จะไม่ให้ราคาคุณเช่นเดียวกัน .
อ่านประกอบ:คกก.วัตถุอันตราย มติไม่แบน ‘พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส’-แค่จำกัดการใช้
ขาดลอย! เปิดตัวเลขผลโหวตไม่แบน 'พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส-ไกลโฟเซต'
เครือข่ายแบนสารพิษจี้นายกฯ สั่งการให้ทบทวนมติ คกก.วัตถุอันตราย ไม่ยกเลิก ‘พาราควอต’