จ๊อบส์ดีบี ชี้ทักษะภาษาติด 1 ใน 3 ที่ตลาดแรงงานต้องการ เทียบตำแหน่งเดียวกัน เงินเดือนสูงว่าถึง 30 %
จ๊อบส์ดีบี ชี้ทักษะภาษาติด 1 ใน 3 ที่ตลาดแรงงานต้องการ เทียบตำแหน่งเดียวกัน เงินเดือนสูงว่าถึง 30 % ด้านอ.สอนภาษาอังกฤษชื่อดัง เผยเทคนิคการเรียนรู้ “ภาษาอังกฤษ” ด้วยตนเอง
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับบริษัทจัดหางาน จ๊อบส์ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ตอน เตรียมตัวสู่โลกของงาน เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างไรให้ใช้การได้
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า กิจกรรมปิดเทอมส่วนใหญ่ถึง 71% เลือกที่จะทำในช่วงปิดเทอมคือเล่นมือถือ อินเตอร์เน็ต อย่างไรก็ตามหากมีกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์เป็นทางเลือกก็สามารถดึงเด็กและเยาวชนออกจากหน้าจอได้
จากสำรวจข้อมูลพบว่าการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เป็นกิจกรรมที่เยาวชนในกลุ่มอุดมศึกษาส่วนใหญ่ให้ความสนใจ เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญในการก้าวไปสู่โลกของการทำงานในอนาคต และจากข้อมูลผลการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษของสถาบันสอนภาษา Education First ได้รายงานดัชนีวัดระดับความรู้ทางภาษาอังกฤษประจำปี 2560 พบว่าประเทศไทยแม้จะอยู่ในอันดับที่ 53 ซึ่งดีขึ้นกว่าปี 2559 ที่อยู่ในอันดับที่ 56 แต่ก็เป็นลำดับเกือบรั้งท้ายหากเทียบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากกัมพูชาและลาว
"ในโลกของการทำงานไร้พรมแดนทักษะทางภาษาอังกฤษมีความจำเป็นอย่างมากที่จะเชื่อมทุกคนทั้งโลกเข้าด้วยกัน”
นายคริสโตเฟอร์ ไรท์ อาจารย์สอนภาษาอังกฤษชื่อดัง กล่าวว่า คนไทยเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลแต่ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะเราเรียนรู้ในสิ่งที่ยากเกินไป เนื่องจากสังคมไทยไม่ได้ถูกสอนให้เป็น Social English
"เราข้ามไปเรียนรู้ทฤษฎีไวยากรณ์เรียนการสร้างประโยคเพื่อสอบไปเริ่มเรียนภาษาอังกฤษที่ยากและเยอะเกินไป"
นายคริสโตเฟอร์ กล่าวว่า การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อให้ใช้งานได้จริงนั้นมีทฤษฎีง่ายๆ คือ 2M&M ที่หมายถึง Man และ Media M ตัวแรกคือคน คนที่เก่งภาษาอังกฤษจะถูกเลี้ยงดูหรือเจอครูหรือพบเจอสถานการณ์ที่ทำให้เข้ารู้สึกชอบและมีแรงบันดาลใจในการที่จะพูดภาษาอังกฤษ M ตัวที่สองคือ Media หรือสื่อต่างๆ ดูหนังฟังเพลงอ่านหนังสือที่ชอบ แต่ไม่ใช่ดูแบบผ่านๆ ต้องตั้งใจดูและอ่านเนื้อร้องไปด้วย และยังมี M&M คือ Mouth และ Mind ต้องขยันฝึกการพูดและเปิดใจที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ นอกจากนี้
“หลักในการฝึกภาษาอังกฤษง่ายๆ ด้วยตนเองข้อสุดท้ายคือ 4S คือ SEE ดูภาษาอังกฤษ หัดอ่าน หัดดูให้ภาษาอังกฤษกระแทกตามากขึ้นผ่านสื่อต่างๆ SOUND หาอะไรที่เป็นภาษาอังกฤษมาฟังถ้าเป็นภาษาอังกฤษที่ฟังไปด้วยแล้วอ่านไปด้วยได้ก็ยิ่งดี SAY พูด ดู อ่าน ฟัง แล้วก็ต้องพูดตาม เพราะสิ่งที่ดีที่สุดก็คือการการลงมือทำ ฉะนั้นเราจึงต้องหมั่นฝึกพูด SENSE คือสมองและจิตใต้สำนึกหรือ MIND ของเรานั่นเอง ถ้าทำทั้งหมดบ่อยๆ ก็จะจำได้เอง ถ้าคนไทยทำแบบนี้เยอะๆ ก็จะทำให้คนไทยพูดภาษาอังกฤษได้เยอะขึ้น"
นายคริสโตเฟอร์ กล่าวด้วยว่า แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเรามัวแต่ไปให้เด็กไทยและคนไทยไปเรียนอะไรที่ยากๆ ไม่สนุก และน่าเบื่อ ต้องทำยังไงก็ได้ให้ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่าย สนุก และใช้ได้จริง
สำหรับสถานการณ์โลกของงานกับทักษะทางภาษา นางสาวอันธิกา ลิมปิอนันต์ชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทจัดหางาน จ๊อบส์ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผู้ที่มีทักษะภาษาอังกฤษเป็นที่ต้องการค่อนข้างสูงในตลาดแรงงาน จากการสำรวจผู้ประกอบการ 400 กว่าบริษัท พบว่าทักษะที่นายจ้างต้องการจากนักศึกษาที่จบใหม่ประกอบด้วย
1.ทักษะด้านการสื่อสารฟังพูดอ่านเขียน
2.ทักษะภาษาอังกฤษ และ
3.ทักษะในการทำงานที่ตรงกับสาขาวิชาชีพ
และพบว่าทักษะด้านภาษาเป็นสิ่งที่นายจ้างต้องการมากที่สุดติด Top 3 หรือคิดเป็นร้อยละ 62 โดยต้องการผู้มีทักษะด้านภาษาเทียบเท่ากับผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้ว
“ข้อมูลจากการสำรวจภาพรวมตลาดงาน ที่ผ่านมา เห็นว่าสิ่งที่เข้ามาและมีบทบาทมากคือบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนหรือเปิดสาขาหรือบริษัทในประเทศไทย ดังนั้นภาษาจึงมีความจำเป็นมากขึ้น ซึ่งในกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีทักษะภาษาที่ดีจะได้รับการยอมรับมากกว่า ได้ทำงานในระดับพิเศษกว่า และทำงานที่เป็น regional มากกว่าคนไทยอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญที่สุด คนที่มีทักษะทางด้านภาษาจะมีเงินเดือนที่สูงว่าถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบจากในตำแหน่งงานเดียวกัน ซึ่งนอกจากเรื่องของทักษะภาษาแล้วความต้องการในเรื่องทักษะในสายงานปัจจุบันก็มีความเข้มข้นมากขึ้นอีกด้วย”