ครบ 6 ปี ซากบ่อบำบัดน้ำเสียร้างพันล. จ.อุทัยธานี ยังหาตัวคนทุจริตไม่ได้?
ไทม์ไลน์ โครงการบ่อบำบัดน้ำเสียฉาว จ.อุทัยธานีจากปี 50-61 หมดเงินเกือบพันล. ครบรอบ 6 ปีหลังบอกเลิกสัญญาเอกชน 30 ก.ค.56 กระบวนการตรวจสอบ-บังคับใช้กฎหมาย ยังเอาคนผิดมาลงโทษไม่ได้? ตัวละครเกี่ยวข้องจ่อคืนอำนาจ
30 ก.ค.2561 เป็นวันครบรอบ 6 ปี ที่เทศบาลเมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี ทำหนังสือถึงผู้รับเหมา บอกเลิกสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียจังหวัดอุทัยธานี วงเงิน 488,535,000 บาท ที่เทศบาล ทำสัญญาจ้างกิจการร่วมค้า เอ เอส แซด เป็นผู้รับเหมาเมื่อ 11 มิ.ย.50 ทว่าเมื่อสิ้นสุดสัญญา 12 มี.ค.2556 กลับก่อสร้างไม่แล้วเสร็จและเกิดปัญหาทิ้งร้างมาจนปัจจุบันนี้
สำนักข่าวอิศรารายงาน www.isranews.org ประมวลข้อมูลมาเสนอ
การจัดซื้อจัดจ้าง
11 มิ.ย.2550 เทศบาลเมืองอุทัยธานี โดยนางเตือนจิตรา แสงไกร นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ทำสัญญารับเหมาก่อสร้างโครงการระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียจังหวัดอุทัยธานี กับ กิจการร่วมค้า เอ เอส แซด โดยนายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา วงเงิน 488,535,000 บาท มาจาก งบอุดหนุน 413,286,300 บาท เทศบาลเมืองอุทัยฯ 88 ,684,400 บาท สิ้นสุด 18 ต.ค.54 (ใช้เวลาก่อสร้าง 1,590 วัน) ไม่รวมค่าควบคุมงาน 13,437,700 บาท (รวมทั้งสิ้น 501,970,700 บาท)
ผู้รับเหมา มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองใหญ่ในขณะนั้น
การบริหารสัญญา
ภายหลังทำสัญญา ปรากฏว่าต่อมามีการแก้ไขสัญญา 5 ครั้ง
ครั้งแรก 12 ก.ย.2551 โดย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอุทัยธานี (น้องสาวนายธาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี) สรุปสาระสำคัญ
1.ขยายเวลาออกไปอีก 180 วัน
2.จ่ายเงินค่าจ้างล่วงหน้าเพิ่มอีก 22,814,650 บาท (5%) จากเดิมจ่ายไปแล้ว 10% หรือ 48,853,600 บาท รวมเป็น 71,668,250 บาท โดยผู้รับเหมาอ้างว่าค่าวัสดุก่อสร้างปรับราคาสูงขึ้น
3.แบ่งงวดงานใหม่เป็น 53 งวดงาน
18 ม.ค.2553 แก้ไขเพิ่มสัญญาครั้งที่สอง โดย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ สาระสำคัญคือ 1. ปรับลดปริมาณงานก่อสร้าง ในงวดงานที่ 26-36 ต้องปรับลดวงเงินก่อสร้าง 17,574,273 บาท 2. ปรับลดปริมาณก่อสร้างในงวดงานที่ 43 และปรับลดวงเงินค่าก่อสร้างจำนวน 25,220,000 บาท
30 ธ.ค.2553 แก้ไขเพิ่มสัญญาครั้งที่สาม โดย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ สาระสำคัญ คือเปลี่ยนแปลงแบบแปลน ขนาดของท่อน้ำและบ่อพักน้ำ และปรับลดปริมาณงานซ่อมแซมผิวจราจร และ เปลี่ยนแปลงแบบอาคารดักน้ำเสีย (ODSI)
4 เม.ย.2555 แก้ไขเพิ่มสัญญาครั้งที่สี่ โดย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ สาระสำคัญคือ 1.ขยายเวลาออกไปอีก 150 วัน โดยอ้างว่าผู้รับเหมาได้ร้องขอได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.53
4 ต.ค.2555 แก้ไขเพิ่มสัญญาครั้งที่ห้า โดย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ สาระสำคัญคือ 1.ขยายเวลาก่อสร้างจนถึง 12 มี.ค. 2556 และ 2.แก้ไขแบบแปลนและปรับราคางาน และ 3.ตัดปริมาณงานทั้งหมดในงวดงานที่ 41 -43 เป็นจำนวน 18,366,700 บาท
เบ็ดเสร็จ แก้ไขสัญญา 5 ครั้ง ขยายเวลา การก่อสร้างเป็น 2,100 วัน (5.75 ปี) กำหนดระยะเวลาก่อสร้างสิ้นสุดสัญญา 12 มี.ค.56 ทว่าผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนด
กระทั่ง 30 ก.ค.56 เทศบาลเมืองอุทัยธานี ทำหนังสือถึงผู้รับเหมา บอกเลิกสัญญาจ้าง และส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี พิจารณาเป็นผู้ทิ้งงานเมื่อ 28 ก.พ.57
การดำเนินการหลังหมดสัญญา
12 มิ.ย.56 นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ส่งหนังสือ ถึงนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี อ้างถึงหนังสือเทศบาลเมืองอุทัยธานี ลงวันที่ 3 มิ.ย.56 และมีความเห็นสรุปว่า หากเทศบาลเมืองอุทัยธานีแล้วเห็นควรใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาดังกล่าว เทศบาลเมืองอุทัยธานีควรพิจารณาด้วยว่า มีเหตุอันใดหรือไม่ ที่จะทำให้กิจการร่วมค้า เอเอสแซด มีสิทธิเกี่ยวกับการงดค่าปรับหรือลดค่าปรับ ตามข้อ 132 แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุขอหน่วยการบริหารราชการท้องถิ่น พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2553 ต่อไปด้วย
20 มิ.ย.56 นางนันวดี เรืองวงษ์งาม ผู้อำนวยการกอง ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการตรวจการจ้าง อ้างถึงความเห็นของผู้ว่าฯ กรณีพิจารณาบอกเลิกสัญญา พร้อมทั้งพิจารณาด้วยว่ามีเหตุอันใดหรือไม่ ที่จะทำให้ กิจการร่วมค้า เอเอสแซด มีสิทธิเกี่ยวกับการงดค่าปรับหรือลดค่าปรับ เป็นระยะเวลาเท่าใด เพื่อที่จะได้นำเสนอนายกเทศมนตรี พิจารณาดำเนินการตามระเบียบพัสดุ ตามข้อ 132
25 มิ.ย.56 นายพลภัทร โตส้ม ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ประธานกรรมการ นายสมพร กาญจน์นิรันดร์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด กรรมการ นายนรังสรรค์ บุญสรรค์ กรรมการ ส.อ.สวาสดิ์ สุธนาประดิษฐ์ กรรมการ และ พ.อ.อ.ธวัช รื่นอารมณ์ กรรมการ ทำบันทึกข้อความถึงนายกเทศมนตรี อ้างถึงผู้รับเหมาขอขยายระยะเวลาก่อสร้าง ยกเหตุ 4 ข้อ และความเห็นของผู้ว่าฯกรณีให้เทศบาลพิจารณาด้วยว่า มีเหตุอันใดหรือไม่ ที่จะทำให้กิจการร่วมค้า เอเอสแซด “มีสิทธิเกี่ยวกับการงดค่าปรับหรือลดค่าปรับ”
คณะกรรมการชุดนี้มีความเห็นว่าไม่ควรลดหรืองดค่าปรับในทุกกรณี
นายมนูญ บุญมี รองปลัดเทศบาล มีความเห็น “ควรตามเสนอ” และ น.ส. มนัญญา มีความเห็น “ดำเนินการตามเสนอ”
28 ก.พ.57 น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ แจ้งว่าเทศบาลได้เร่งรัดการก่อสร้าง และทางจังหวัดได้เร่งรัดการเบิกจ่าย แต่ผู้รับจ้างไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามสัญญาจ้าง เทศบาลเมืองอุทัยธานีจึงขอเสนอให้ผู้ว่าฯพิจารณาลงโทษกิจการร่วมค้า เอ เอส แซด เป็นผู้ละทิ้งงาน
25 เม.ย.57 นายเสถียรพงศ์ มากศิริ รองผู้ว่าฯ ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯ ส่งเรื่องคืนให้เทศบาล โดยระบุว่า เทศบาลฯยังลงนามในเอกสารแบบ ทง. 2(เอกสารการพิจารณาผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา หรือข้อตกลงให้เป็นผู้ทิ้งงาน) และเอกสารยังไม่ครบถ้วน
18 ก.ค.57 น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ ส่งเอกสารเพิ่มเติมประกอบการพิจารณาให้กิจการร่วมค้า เอ เอส แซด เป็นผู้ละทิ้งงาน อีกครั้ง
เทศบาลเตรียมถมอีก 247 ล.-สตง.ขวาง
เทศบาลเมืองอุทัยฯ พยายาม ก่อสร้างโครงการดังกล่าวต่อ โดยมีแผน จะใช้เงินอีกอย่างน้อย 247 ล้านบาท แต่ถูก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ขวาง
9 ธ.ค.57 สตง.มีหนังสือถึงเทศบาลฯ ขอทราบรายละเอียดการก่อสร้างโครงการว่า ได้บอกเลิกสัญญากับผู้รับเหมารายเดิมแล้วหรือไม่ การแจ้งเวียนให้เป็นผู้ทิ้งงาน เอกสารสัญญา และอื่นๆตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่าได้ดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไร
24 ธ.ค.57 เทศบาลได้ออกประกาศประกวดราคารับเหมาก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย (งานก่อสร้างเดิมที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน) วงเงิน 247 ล้านบาท นัดผู้ซื้อเอกสารดูสถานที่ก่อสร้าง 12 ม.ค.58 กำหนดยื่นซองประมูล 19 ม.ค.58
16 ม.ค.58 น.ส. มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ประกาศยกเลิกประกาศประมูล โดยให้เหตุผลว่าไม่มีผู้มาขอซื้อเอกสารประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
สถานะปัจจุบันของกลุ่มผู้รับเหมา
บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นพันธมิตร กิจการร่วมค้า เอ เอส แซด ถูกศาลล้มละลายมีคำสั่ง ให้พิทักษ์ทรัพย์ เด็ดขาดโดยมี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โจทก์ วันที่ 21 ธ.ค.2560 (คดีหมายเลขแดงที่ ล.5472/2560) ขณะที่ นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ผู้ลงนามในสัญญาก็ถูกศาลล้มละลายสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดด้วยเช่นกัน (อ่านประกอบ:ตามรอย บ.แอสคอนฯ! ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ กก.บ.รับเหมาบ่อบำบัดน้ำเสีย จ.อุทัยฯร้าง)
ความคืบหน้ากระบวนการตรวจสอบ
นอกจาก สตง.ตรวจสอบแล้ว ต่อมา วันที่ 21 ก.พ.2561 ,วันที่ 6 มี.ค.2561 และ วันที่ 8 มี.ค.2561 พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี (ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี) และคณะเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีประชาชนร้องเรียน ว่า ไม่ได้รับประโยชน์จากการ “ก่อสร้างสถานีสูบน้ำบ้านจักษาและระบบท่อส่งน้ำ” และเป็นการใช้งบประมาณของแผ่นดินโดยทุจริตหรือไม่ ซึ่งสูบน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังส่งไปกักเก็บไว้ที่เขื่อนวังร่มเกล้า ระยะทางท่อส่งน้ำจากสถานีสูบน้ำบ้านจักษา ถึง เขื่อนวังร่มเกล้า ประมาณ 15 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 1,000 กว่า ล้าน นั้น ผลการตรวจสอบเบื้องต้น สถานีสูบน้ำบ้านจักษา อ.เมืองอุทัยธานี ไม่พบป้ายแสดง รายละเอียด ของโครงการเริ่มต้น และสิ้นสุดอย่างไร แต่จากการสืบสวน เบื่องต้น เริ่มก่อสร้างปี 50 จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เปิดใช้งาน เป็นทางการ จุดเริ่มต้นที่ตั้งเครื่องสูบน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังเพื่อส่งน้ำไปปลายทางที่เขื่อนวังร่มเกล้านั้น ได้ทำการตรวจสอบปลายทางปรากฏ ตามภาพ ประกอบกับการสอบถามชาวบ้านแล้ว ไม่เคยเห็นชลประทานสูบน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังมาลงเขื่อนวังร่มเกล้าให้สมกับงบประมาณที่นำมาลงให้เกิดประโยชน์
ล่าสุดแหล่งข่าวจาก สำนักงาน ป.ป.ช.เปิดเผยว่า คณะทำงานของ พล.ต.ต.บัญชาส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) สอบสวน
ณ เวลานี้โครงการอื้อฉาวจึงอยู่ในมือของ ป.ป.ช. จึงยังไม่มีการลงโทษผู้ใดทั้งสิ้น
ขณะที่ตัวละครที่เกี่ยวข้องบางคนกำลังเข้ามามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง
อ่านประกอบ:
เปิดเอกสาร 6 ฉบับ!ค่าโง่ 300 ล. ‘บ่อบำบัดน้ำเสีย’ร้าง จ.อุทัยฯ ใครอุ้มผู้รับเหมา?
โครงการร้าง‘บำบัดน้ำเสีย’จ.อุทัยฯ 488 ล.! แก้สัญญา 5 รอบ-จ่ายเงินล่วงหน้า 71 ล.
สาวลึกนักการเมืองเบื้องหลัง! ตร.สอบโครงการร้างบ่อบำบัดน้ำเสียจ.อุทัยฯ 1,000 ล.