สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯเสด็จพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 'วสิษฐ เดชกุญชร'
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 'พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร' ตำรวจตงฉิน หนึ่งในปูชนียบุคคลสังคมไทย ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบที่ รพ.ตำรวจ ช่วงดึกวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคมะเร็งตับ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 20 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นตำรวจตงฉิน และเป็นหนึ่งในปูชนียบุคคลของสังคมไทย ได้ถึงแก่อนิจกรรมลงอย่างสงบแล้วที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังจากเข้ารับการรักษาด้วยโรคมะเร็งตับ ในช่วงที่ผ่านมา สิริอายุรวม 88 ปี
โดยเวลา 17.00 น. เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2561 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พล.ต.อ.วสิษฐ ณ ศาลา 5 วัดมกุฎกษัตริยาราม ส่วนกำหนดพิธีอาบน้ำศพเริ่มในวันเวลาประมาณ 16.00 น. และงดรับพวงหรีดทุกกรณี
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วสิษฐ ปัจจุบันเป็นประธานมูลนิธิองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) อดีตเคยเป็นนายตำรวจราชสำนักประจำ และเป็นผู้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้วางพระราชหฤทัย จนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ ก่อนที่จะออกมาดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมตำรวจ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่เป็นนักเขียนนวนิยายเกี่ยวกับวงการตำรวจ และอาชญากรรม โดยนำมาจากประสบการณ์จริง จนได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2541 ได้รับยกย่องว่าเป็นตำรวจตงฉินแห่งกรมตำรวจไทย ยุคปราบปรามคอมมิวนิสต์
ประวัติ
เกิดที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุดรธานี บิดามารดามีอาชีพเป็นครู จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนประจำจังหวัดขอนแก่น "โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน" เมื่อ พ.ศ. 2487 สำเร็จการศึกษาชั้นเตรียมอุดมศึกษาจากจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร รุ่น ลมหวล ศึกษาต่อรัฐศาสตรบัณฑิต ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้เข้าศึกษารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการตำรวจ จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เคยเข้ารับการอบรมหลักสูตรการสืบสวนจากสหรัฐอเมริกา จบหลักสูตรวิชาการป้องกันประเทศ จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.รุ่นที่ 23) สมรสกับ คุณหญิงทัศนา (บุนนาค) เดชกุญชร เมื่อ พ.ศ. 2500 มีบุตร 2 คน คือ ว่าที่ร้อยตรี ดร. สุทรรศน์ เดชกุญชร และ ร้อยตำรวจตรีหญิงปรีณาภา เดชกุญชร พลตำรวจเอก วสิษฐ มีหลาน 3 คน ได้แก่ น.ส.ปัญจรัตน์ เดชกุญชร ,จ่าเอก ชิษณุวัฒน์ เดชกุญชร และ น.ส.ณัฐพร เดชกุญชร
การทำงาน
เริ่มรับราชการในตำแหน่งอาจารย์ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2495 ต่อมาได้ลาออกไปสมัครเข้ารับราชการในกรมประมวลราชการแผ่นดิน (ต่อมาคือกรมประมวลข่าวกลาง) แล้วโอนไปรับราชการที่กองตำรวจสันติบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และย้ายไปเป็นนายตำรวจราชสำนักประจำในปี พ.ศ. 2513 เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516[1] เป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2532 และในปี พ.ศ. 2539[2] - 2543 และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นระยะเวลาสั้นๆ ตั้งแต่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2533 ถึง 9 ธันวาคม พ.ศ. 2533 ตำแหน่งสุดท้ายในกรมตำรวจก่อนลาออกไปเป็นรัฐมนตรีเป็น รองอธิบดีกรมตำรวจ ฝ่ายกิจการพิเศษ
ผลงาน
ผลงานเขียนที่มีชื่อเสียง เป็นนิยายที่เขียนจากประสบการณ์ในราชการตำรวจ มีตัวเอกเป็นตำรวจที่มีอุดมการณ์ เขียนโดยใช้ชื่อจริง และเคยใช้นามปากกา "'โก้ บางกอก" นิยายหลายเรื่องมีผู้นำไปสร้างภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ โดยเฉพาะนวนิยายชุดองค์กรลับต่อต้านผู้ก่อการร้าย ที่มีตัวเอกชื่อ "ธนุส นิราลัย" กับ "ลำเพา สายสัทกุล" (สารวัตรเถื่อน, แม่ลาวเลือด, หักลิ้นช้าง, อวสานสายลับ, บ่วงบาศ, ประกาศิตอสูร) ดงเย็น, จันทน์หอม, ลว.สุดท้าย, สารวัตรเถื่อน, แม่ลาวเลือด, หักลิ้นช้าง, อวสานสายลับ, บ่วงบาศ, ประกาศิตอสูร, สารวัตรใหญ่, สันติบาล, เลือดเข้าตา, เบี้ยล่าง, พรมแดน ผลงานตีพิมพ์ล่าสุด หนังสือรวมเรื่องสั้น " สัพเพเหระคดี เล่ม 1 และ 2 โดย Cruditas Publishing
หมายเหตุ : ข้อมูลประวัติ จากวิกิพีเดีย