บ.ทุ่งคาฮาเบอร์ ยัน ‘สีกาจุ๋ม’ แค่ถือหุ้นบริษัทฯ ไม่ใช่ผู้บริหาร-ไม่มีผลกระทบต่อองค์กร
บ.ทุ่งคาฮาเบอร์ เผย ‘สีกาจุ๋ม’ เป็นแค่ผู้ถือหุ้น ไม่ใช่ผู้บริหารจริง ยันไม่มีผลกระทบต่อองค์กร พร้อมปฏิเสธไม่ได้เป็นบริษัทแม่ ‘บ.ทุ่งคำ’ ทำธุรกิจเหมืองวังสะพุง จ.เลย เหตุขายหุ้นไปทั้งหมดเมื่อปี 59
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล (สีกาจุ๋ม) นักธุรกิจที่อาจมีส่วนพัวพันคดีฟอกเงินทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม ของนายจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรืออดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม เป็นกรรมการอย่างน้อย 6 บริษัท โดยได้ถือหุ้นในบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) อยู่ในลำดับที่ 8 จำนวน 6,025,900 หุ้น (2.90%) มีกลุ่มเจียมวิจิตรกุล ถือหุ้นใหญ่และเป็นผู้บริหาร นั้นประกอบธุรกิจเหมืองแร่ (แร่ทองคำ)
(อ่านประกอบ:เผยโฉม ‘สีกาจุ๋ม-ศศิร์อร’ คดีอดีตพระพรหมเมธีเผ่นเยอรมัน)
นายสมชาย ไกรสุทธิวงศ์ เลขานุการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยข้อมูลยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่านางศศิร์อรถือหุ้นตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว ของบริษัทฯ ลำดับที่ 8 จำนวน 6,025,900 หุ้น (2.90%) จริง และไม่ได้เป็นผู้บริหาร ส่วนเหตุผลที่ต้องออกมาให้ข่าว เนื่องจากขณะนี้มีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นว่า เราเป็นบริษัทแม่ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ทำธุรกิจเหมืองแร่ในอ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งข้อเท็จจริงได้มีการขายหุ้นไปจนหมดแล้วตั้งแต่ปี 2559 ทั้งสองบริษัทจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผูกพันกัน และบริษัทฯ ไม่ได้ทำธุรกิจเหมืองแร่ในประเทศลาวด้วย แต่ปัจจุบันได้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเหมืองแร่หินใน จ.สระบุรีเท่านั้น
ทั้งนี้ หากนางศศิร์อรมีความผิดจริงจะมีผลต่อการถือครองหุ้นในบริษัทฯ หรือไม่ เลขานุการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ฯ ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องถอนหุ้น เพราะใคร ๆ ก็ถือหุ้นในบริษัทได้ ตราบใดที่ซื้อมาโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่มีการกระทบใด ๆ เพราะหุ้นเหล่านี้ปกติเปลี่ยนมือได้อยู่แล้ว และถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น
นายสมชาย ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ข้อเท็จจริงยังไม่รู้เลยว่า สีกาจุ๋มพาอดีตพระพรหมเมธีหนีไปจริงหรือไม่ ซึ่งกำลังติดตามอยู่ว่า สรุปแล้วพาหนีไปจริงหรือไม่ เพราะมีข่าวกรอบเล็ก ๆ ว่า ไปพบตำรวจ แล้วไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ยังไม่ทราบว่ามีการออกหมายจับมาได้อย่างไร แต่ยืนยันกรณีที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ .