1.8พันล.ถูกที่สุดแล้ว! บ.ดาต้าเกท เจ้าเดิมรับเสนอขาย ฮ.ให้ ปภ.สูงกว่าราคากลาง136ล.
ตัวแทนบ.ดาต้าเกท รับเป็นผู้ยื่นเสนอราคาขายฮ. 1,868 ล้านบาท รายเดียวให้ ปภ. ยันทำตามเงื่อนไขทีโออาร์ ราคาให้ไปถูกที่สุดแล้ว ส่วนกรณีเว็บไซต์ aircraftcompare โค้ดราคาแค่ลำละ 213 ล้าน ชี้ข้อมูลในเน็ตเอามาอ้างอิงไม่ได้ เพราะอุปกรณ์สนับสนุนไม่เหมือนกัน
สืบเนื่องจาก สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้เปิดเผยข้อมูลผลการประกวดราคาจัดหาอากาศยานปีกหมุน (Helicopter) เพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสาธารณภัย จำนวน 2 ลำ (ครั้งที่ 2) ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding )ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)โดยกำหนดราคาอยู่กลางอยู่ที่ 1,732,000,000 บาท หรือราคาต่อลำ 866 ล้านบาท แต่ว่ามีผู้ยื่นเสนอราคาแค่ 1 ราย ราคาต่ำสุดที่เสนอ 1,868,995,656 บาท โดยในขณะนี้กรมบัญชีกลางยังไม่ได้ระบุว่าผู้ที่เสนอราคารายดังกล่าวนั้นคือใคร (อ่านประกอบ:พุ่ง 1,868.9 ล.! ผลประกวดจัดซื้อ ฮ.ปีกหมุน ครั้งที่ 2 ปภ. สูงกว่าราคากลาง 136.9 ล.)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เพื่อได้ติดต่อไปที่บริษัทดาต้าเกท เพื่อขอคำชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกวดราคาจัดหาอากาศยานปีกหมุน (Helicopter) ของ ปภ.ดังกล่าว และในเวลาต่อมาบริษัทดาต้าเกทก็ติดต่อกลับมาที่สำนักข่าวอิศรา โดยยอมรับว่าเป็นบริษัทที่ยื่นเสนอราคาในการทำ e-bidding ซึ่งการเสนอราคาของบริษัทนั้นพิจารณาตามเงื่อนไขและคุณลักษณะของ ปภ.ที่กำหนดเอาไว้ในรายละเอียดทุกประการ
เมื่อถามว่า การเสนอราคาดังกล่าว ได้พิจารณาราคาตลาดโลกหรือไม่ ตัวแทนบริษัท ดาต้าเกท จำกัด กล่าวว่า "ก็ไม่เชิงขนาดนั้น แต่การกำหนดราคาของบริษัทนั้นจะขึ้นอยู่กับคุณลักษณะในเงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้าง (ทีโออาร์) ของ ปภ.ว่ามีอะไรบ้าง บริษัทก็ต้องเอาเงื่อนไขนั้นไปขอราคากับต่างประเทศว่าตามทีโออาร์ของ ปภ.ที่เขากำหนดมาให้ทางต่างประเทศจะให้ราคาได้เท่าไร ต้องนำปัจจัยเรื่องค่าอุปกรณ์อื่นๆ ค่าขนส่ง อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา ค่าอบรมบุคลากรต่างๆ ต้องนำทุกปัจจัยมาคำนวณให้ถี่ถ้วน ขอเรียนว่าบริษัทไมได้คำนึงในส่วนของราคากลางของผลิตภัณฑ์ แต่จะคำนึงถึงราคาสุทธิของทุกสิ่งให้ถี่ถ้วน จนได้ราคาสุทธิที่เสนอออกมา ซึ่งก็ไม่ได้มีกำไรอะไรมากมาย
เมื่อถามว่า ค่าติดตั้งอุปกรณ์เพื่อดำเนินภารกิจด้านสาธารณูปโภคให้กับเฮลิคอปเตอร์มีราคาเท่าไร ตัวแทนบริษัทฯ กล่าวว่าเรื่องนี้ตอบไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลของบริษัทที่ไม่สามารถให้ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่สำนักข่าวอิศราได้เห็นราคาเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จากเว็บไซต์ www.aircraftcompare.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบข้อมูลอากาศยานทั้งพลเรือนและทหาร พบว่า มีราคาอยู่ที่ 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อลำ หรือคิดเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ 213,232,416 บาท ตัวแทนบริษัทกล่าวว่า "ราคาในอินเตอร์เน็ตนั้นเอามาใช้อ้างอิงอะไรไม่ได้ เพราะเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งนั้นต้องดูว่ามันมีอุปกรณ์อะไรบ้าง ถ้าเอาแค่บินได้ก็ราคาหนึ่ง มีอุปกรณ์นำทาง มีวิทยุ ก็อีกราคาหนึ่ง ดังนั้น จึงเอาตรงนี้มาเทียบกันไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เฮลิคอปเตอร์อย่างเดียว แต่อุปกรณ์อย่างอื่นที่ซื้อขายกันในประเทศไทยมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะตรงกับราคาในอินเทอร์เน็ต เพราะว่าราคาในอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ใช่ราคาจริง"
ตัวแทนบริษัทรายนี้ ยังระบุว่า การเสนอราคาครั้งนี้เป็นe-bidding เอกชนรายไหนก็เข้ามาเสนอราคาได้ถ้าหากว่าบริษัทดาต้าเกทเสนอราคาสูง ทำไมไม่มีบริษัทอื่นมาเสนอราคาแข่งกับบริษัทตนเลย นั่นหมายความว่าราคาของบริษัทที่เสนอนั้นต่ำสุดเท่าที่ตลาดจะทำได้แล้ว ผู้ผลิตอื่นไม่สามารถเสนอราคาได้ต่ำกว่านี้แล้ว เลยไม่มาเสนอราคากัน
" การเสนอราคาครั้งแรกที่ทาง ปภ.เขากำหนดวงเงินไว้ที่ 1,700 ล้านบาท เราก็เคยเสนอราคาไปประมาณนี้ ทางสำนักข่าวอิศราก็เอาไปลงรายละเอียดในส่วนนี้ ส่วนการทำ e-bidding ในครั้งที่ 2 นี้ บริษัทอื่นๆเห็นราคาบริษัทผมหมดแล้วว่ามันเท่าไร ถ้าหากเขาสามารถเสนอราคาที่ถูกกว่าบริษัทผมได้ ทำไมเขาถึงไม่เสนอราคากัน"
เมื่อถามต่อว่าหลังจากนี้จะไปเข้าพบกับทาง ปภ.เพื่อพูดคุยหรือชี้แจงอะไรไหม ตัวแทนบริษัท กล่าวว่า "เรื่องนี้คงเป็นเรื่องของ ปภ.ที่จะต้องตัดสินใจ เพราะทุกอย่างบริษัทเสนอถูกต้องตามขั้นตอนและราคาก็ไม่ได้สูงตามเงื่อนไขของ ปภ. ตรงนี้ถือว่าเป็นเงื่อนไขของทาง ปภ.เอง บริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวล่วงอะไรกับ ปภ.เพราะว่ามันไม่ถูก ทาง ปภ.จะต้องพิจารณาเอง แต่ขอย้ำว่าราคาที่บริษัทเสนอมานั้นถูกที่สุดเท่าที่จะเสนอได้แล้ว"
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดี ปภ. ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือว่าจะดำเนินการกันอย่างไร เพราะยังอยู่ในขอบเขตช่วงเวลาเสนอราคาอยู่ คงจะมีการหารือกันอีกทีหนึ่งหลังจากพ้นช่วงเวลาเสนอราคาไปแล้วและในทางกฎหมายนั้นไม่สามารถจะเพิ่มวงเงินได้ ยกเว้นว่าจะได้รับอนุญาตจากผู้มีอำนาจเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีการหารือกันเพราะว่ายังไม่ถึงเส้นตายของการเสนอราคา ขณะที่การตั้งราคากลางขึ้นมานั้นต้องทำตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ต้องมีการตรวจสอบราคาในตลาดโลก ตรวจสอบการติดตั้งเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อทำภารกิจของ ปภ. และตนเชื่อว่ากรรมการกำหนดราคาต้องคิดไปถึงกำไรของบริษัทที่มาเสนอราคา จนในที่สุดก็ได้ราคากลางที่ 1,700 กว่าล้านบาทดังกล่าว
“คณะกรรมการราคากลาง เขาคงจะดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เพราะเขาประกอบไปด้วยหลายหน่วยงานทั้งกองทัพบก เรือ อากาศ ผู้เชี่ยวชาญต่างๆทั้งสื่อมวลชน อาจารย์มหาวิทยาลัย เราเอาทั้งหมดมานั่งประชุมกัน และกำหนดราคากลางขึ้น โดยดูเครื่องไม้เครื่องมือว่าจะได้เฮลิคอปเตอร์ที่สามารถทำภารกิจของ ปภ.ได้ ไม่ใช่ว่าซื้อเครื่องมาลำเดียวโดดๆ ไม่มีเครื่องมือสำหรับทำภารกิจก็ไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นการดูราคาในตลาดโลกนั้นจะต้องบวกราคาการติดตั้งเครื่องไม้เครื่องมือเหล่านี้ไปด้วย ถึงจะเหมาะสม”
เมื่อถามต่อว่าการถ้ายังเกิดปัญหาเรื่องการเสนอราคาที่สูงกว่าราคากลางแบบนี้ ปภ.ยังจะใช้วิธี e-bidding ต่อไปหรือไม่ นายชยพลกล่าวว่า เชื่อว่ายังใช้ e-bidding ต่อไปได้ ไม่จำเป็นต้องไปใช้วิธีพิเศษ (อ่านประกอบ : อธิบดีปภ.เชื่อยังใช้ e-biddingจัดซื้อฮ.ต่อได้ หลังเอกชนรายเดียวเสนอสูงกว่าราคากลาง)
อ่านประกอบ:
พุ่ง 1,868.9 ล.! ผลประกวดจัดซื้อ ฮ.ปีกหมุน ครั้งที่ 2 ปภ. สูงกว่าราคากลาง 136.9 ล.
ดันอีกรอบ! ปภ.ออกประกาศจัดซื้อ ฮ.ปีกหมุน 2 ลำ ตั้งราคากลางเท่าเดิม 1,732 ล.
อธิบดี ปภ.แจงยิบปม ฮ.2 ลำ เตรียมประกาศใหม่ ใช้ TOR -ราคากลางเดิม 1.7 พันล.
โยน ทอ.-ทบ.-ตร. กำหนดสเปค! อธิบดีปภ. ไม่รู้ราคา ฮ.KA 32 บนเว็บไซต์ไม่ถึง 500 ล.
ขมวดปมปัญหาจัดซื้อฮ. KA-32 ปภ.พันล.-เสียงเตือนคสช.ระวังว่าแต่เขาอิเหนาจะเป็นเอง?
'วิลาศ' ไล่บี้ปภ.แจงกำหนดราคากลางฮ.1.7พันล.หลังอิศราคุ้ยเว็บตปท.พบไม่ถึง500ล.
พลาด ฮ.ปีกหมุน ปภ.1.8 พันล.! บ.ดาต้าเกท กวาดคู่ค้าอาวุธกองทัพ 2 พันล.
เผยเอกชนเสนอขาย ฮ.KA-32 จากรัสเซีย 2 ลำให้ ปภ.-ข้อมูลในเว็บราคาต่อเครื่องไม่ถึง 500 ล.
สั่งยกเลิกประกวดจัดซื้อ ฮ.ปีกหมุน ปภ.1.7 พันล. หลังอิศราตีแผ่สูงกว่าราคากลาง130 ล.
จัดซื้อ ฮ.ปีกหมุน 1.7 พันล. ปภ. เสนอเจ้าเดียว สูงกว่าราคากลาง 130.5 ล.