เปิดคดีทุจริตใหม่ สกสค. ! เอื้อปย.รับเช็คเด้ง200ล.จ่ายค่าสินค้ามิชอบ-ศธ.แจ้งDSI สืบสวนแล้ว
เปิดคดีทุจริตใหม่ สกสค.! กระทรวงศึกษาฯ ร่อนหนังสือถึงดีเอสไอ ขอให้สืบสวน อดีตผู้บริหาร-จนท. มีพฤติการณ์ส่อเอื้อประโยชน์ หจก.แห่งหนึ่งในโคราช ฝ่าฝืนระเบียบปล่อยรับเช็คชำระค่าสินค้า 200 ล้าน เด้ง โดยมิชอบ ทำองค์การเสียหาย เผยบอร์ดเคยทักท้วง แต่ไม่ปฏิบัติตาม
การทำสัญญาซื้อขายสินค้า ระหว่าง องค์การค้าของ สกสค. กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ช่วงปลายปี 2558 ที่มีวงเงินสูงกว่า 1,000 ล้านบาท กำลังถูกตรวจสอบปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใส ในการปฏิบัติงานของอดีตผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ ที่มีพฤติการณ์ส่อว่าจะกระทำทุจริตฝ่าฝืนระเบียบเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชน และส่งผลทำให้องค์การค้าของ สกสค. เกิดความเสียหายเป็นเงินจำนวนถึง 200 ล้านบาท โดยเบื้องต้น กระทรวงศึกษาธิการ ได้ทำหนังสือแจ้งถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้เข้ามาสืบสวนเรื่องนี้เป็นทางการแล้ว
แหล่งข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ทำหนังสือแจ้งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สืบสวนการทุจริตกรณีการทำสัญญาซื้อขายสินค้า ระหว่าง องค์การค้าของ สกสค. กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ตามสัญญาเลขที่ 436/2558 ลงวันที่ 16 ธ.ค.2558 ที่มีปัญหาเกิดขึ้นในการจ่ายเงินงวดที่ 3 วงเงิน 200 ล้านบาท เนื่องจาก หจก.ดังกล่าว ในฐานะผู้ซื้อสินค้า ได้สั่งจ่ายเงินค่าสินค้าเป็นเช็คธนาคารพาณิชย์ โดยไม่มีการนำเช็คฝากธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินภายในกำหนด แต่เจ้าหน้าที่ องค์การค้าของ สกสค. กลับออกใบเสร็จรับเงินให้ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า ได้ชำระค่าสินค้าครบถ้วนเพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าได้ ทั้งที่ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงานการเงิน และบัญชี พ.ศ.2559 องค์การค้าของ สกสค. กำหนดให้จะต้องมีการชำระค่าสินค้าให้ครบถ้วนก่อนจึงจะส่งมอบสินค้าให้ผู้ซื้อได้
"หลังจากทำสัญญาซื้อขายสินค้ากันแล้ว การจ่ายเงินงวด 1 และ 2 งวดละ 100 ล้านบาท รวม 200 ล้านบาท ไม่มีปัญหาอะไร แต่งวดที่ 3 ที่กำหนดให้จ่ายเป็นเงินสดจำนวน 200 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ สกสค. ไม่ได้นำเช็คของหจก.รายนี้ ไปฝากธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินภายในกำหนด แต่กลับออกใบเสร็จรับเงินไปให้ก่อน จึงถือว่าใบเสร็จดังกล่าว เป็นเอกสารรับเงินเท็จ และยังมีการช่วยเหลือลงบัญชีว่าได้รับชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มีการสั่งจ่ายสินค้าให้ หจก.ได้ ทั้งที่ ยังไม่ได้มีการชำระค่าสินค้ากันจริง"
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า เกี่ยวกับปัญหานี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ผู้บริหารระดับสูง สกสค.ในขณะนั้น มีความพยายามปกปิดข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร องค์การค้าของ สกสค. โดยอ้างต่อที่ประชุมว่า เหตุที่ยังไม่ได้มีการนำเช็คเข้าธนาคาร เพราะต้องการจะนำเช็คไปชำระหนี้ค่ากระดาษที่ยังค้างชำระกับเจ้าหนี้รายอื่น แต่ที่ประชุมเห็นว่า ควรนำเช็คเข้าบัญชีองค์การค้าก่อน เมื่อเช็คเรียกเก็บเงินได้แล้วจึงค่อยนำเงินไปชำระค่ากระดาษ แต่ผู้บริหาร สกสค.ในขณะนั้น เพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามมติดังกล่าว แสดงเจตนาให้เห็นว่าได้ร่วมกันกระทำผิดและช่วยเหลิอปกปิดมิให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
"มีการสืบทราบข้อมูลในภายหลังว่า เช็คที่รับมา ไม่สามารถขึ้นเงินได้ จึงเป็นเหตุทำให้ องค์การค้าของ สกสค. ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท และไม่ทราบว่าปัจจุบันผลการตรวจสอบเรื่องนี้คืบหน้าไปถึงไหน จึงต้องการให้สำนักข่าวอิศรา ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้อีกทางด้วย" แหล่งข่าวระบุ