ทีดีอาร์ไอเสนอรัฐ จัดสวัสดิการถ้วนหน้า ‘เงินอุดหนุนเด็ก’ แก้ปัญหา 30% คนจนตกหล่น
ทีดีอาร์ไอ เผยผลการศึกษา พบเงินอุดหนุนเด็กเล็ก ยังมีคนจนตกหล่น 30% เสนอทางเเก้รัฐจัดสวัสดิการถ้วนหน้า ด้านอธิบดีกรมกิจการเด็กฯ เผยอยากให้สำเร็จในปี 61 พร้อมแจงปัญหาจ่ายล่าช้า เหตุมีคนลงทะเบียนมาก เงินไม่พอ ปัจจุบันของบกลางแล้ว
วันที่ 21 พ.ค. 2561 ยูนิเซฟ ร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต จัดโครงการสัมมนา เรื่อง เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า:จุดเริ่มต้นการคุ้มครองทางสังคมทั้งระบบ ภายหลังก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ขยายวงเงินอุดหนุนเด็กเล็กจาก 400 บาท เป็น 600 บาท และขยายระยะเวลาอุดหนุนจาก 1 ปี เป็น 3 ปี แต่ยังกำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเด็กยากจน ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ
ดร.สมชัย จิตสุชน ผอ.วิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ระบุถึงเหตุผลที่ต้องขับเคลื่อนให้รัฐบาลมอบ 'เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า' ไม่จำกัดเฉพาะเด็กยากจน เนื่องจากผลการศึกษา พบยังเกิดการตกหล่นคนจน ร้อยละ 30 ฉะนั้นโครงการจึงไม่สำเร็จทั้งหมด เพราะสมมติคนจน 100 คน ปรากฎมี 30 คน ไม่ได้รับเงินอุดหนุนดังกล่าว ซึ่งคิดว่า คนส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้ แต่ประเด็น คือ คนส่วนใหญ่เหล่านั้นไม่เคยรู้มาก่อนว่า มีการตกหล่นคนจนเกิดขึ้น
ส่วนสาเหตุ ดร.สมชัย กล่าวว่า การคัดกรองมีลักษณะ light targeting กล่าวคือ กระบวนการคัดกรองที่กำหนดไว้ทำงานไม่เต็มที่ ทำให้เกิดความไม่เข้มงวด ประกอบกับคนจนไม่ได้มาสมัคร ซึ่งมีมากถึงร้อยละ 20 จากจำนวนการตกหล่นคนจนที่สำรวจได้ เพราะคิดว่ากระบวนการสมัครยุ่งยาก ไม่มีเวลา เอกสารไม่ครบ ไม่แน่ใจว่าตนเองมีสิทธิหรือไม่ หรือกลัวจะได้เงินล่าช้า
นายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน
ด้านนายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดโครงการเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้าขึ้น อยากให้เป็นภายในปี 2561 ด้วยซ้ำไป แต่พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ระบุต้องขึ้นอยู่กับว่า จะมีเหตุผลใดไปสนับสนุนให้เป็นที่ยอมรับในคณะกรรมการระดับชาติ ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.
สำหรับปัญหาเดือนมี.ค.-พ.ค. 2561 คนจนหลายคนยังไม่ได้รับเงินนั้น อธิบดีกรมกิจการเด็กฯ ชี้แจงสาเหตุเนื่องจาก งบประมาณปี 2561 ไม่เพียงพอ เพราะได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีเด็กเล็กยากจน 3.4 แสนคน แต่ปรากฎมีมาลงทะเบียนมากถึง 5.4 แสนคน ดังนั้น กรมกิจการเด็กฯ จึงได้จัดของบกลางไป ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในกระบวนการของสำนักงบประมาณ หากเห็นชอบ จะเร่งเสนอเข้าสู่ครม. เพื่อนำเงินมาจ่ายย้อนหลังให้ทันที