ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก2018 แบบ4K บทพิสูจน์หลักการของ กสทช.
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า คนไทยจะสามารถรับชมการถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018 จากรัสเซีย ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย. - 15 ก.ค. 2561 ครบทั้ง 64 คู่ ผ่านช่องทีวีดิจิทัล 3 ช่องคือ ช่อง 5 HD (หมายเลข 1) ในระบบ HD , True4U (หมายเลข 24) ในระบบ SD (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง) และ Amarin TV HD (หมายเลข 34) ในระบบ HD
นอกจากนั้น ยังสามารถรับชมผ่านโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก จาก True Vision ทางช่อง True Sport HD 2 (ช่อง 667) , True Sport HD 3 (ช่อง 668) และ ช่อง 400 ในระบบ 4K (Ultra HD) โดยสมาชิก True Vision จะต้องเสียค่าติดตั้งกล่อง True Vision ระบบ 4K ในราคา 2,000 บาท/กล่อง/จุด (จากปกติ 9,500 บาท)
หากดูตามข้อมูลข้างต้น แสดงว่า คนไทยที่รับชมโทรทัศน์ผ่านโครงข่าย โทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล (เสาดิจิทัล ที่กสทช.แจกคูปอง)โทรทัศน์ดาวเทียม (จานดาวเทียม) และ เคเบิลทีวี (ทั้งเคเบิลท้องถิ่นและ True Vision) จะสามารถรับชมการถ่ายทอดสด การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 จากรัสเซีย ได้ครบทั้ง 64 คู่ ในระบบความคมชัด 4 แบบ คือ Analog , SD , HD และ 4K ขึ้นอยู่กับ ระบบส่งสัญญาณของผู้ให้บริการ และ ระบบรับสัญญาณของผู้ใช้บริการ
จะมีปัญหาก็แต่ ประชาชนที่รับชมผ่านโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบแอนะล็อก (เสาก้างปลาแบบเก่า) ที่รับชมได้ 6 ช่อง คือ 3,5,7,MCOT,Nbt และ ThaiPBS โดยคนกลุ่มนี้ จะไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในครั้งนี้ได้ เพราะ ไม่ได้ถ่ายทอดสดทางช่อง 3,7,MCOT ที่ยังคงเปิดให้บริการในโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบแอนะล็อก ส่วนช่อง 5,Nbt และ ThaiPBS ได้ปิดให้บริการในหลายพื้นที่แล้ว จึงทำให้ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้
การที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ยอมให้การถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก ผ่านได้เฉพาะ ช่อง 5 (ทหาร) , True4U (CP) และ Amarin TV (เบียร์ช้าง) เพียง 3 ช่อง แสดงให้เห็นว่า กสทช. มั่นใจแล้วว่า โครงข่ายทีวีภาคพื้นดินระบบดิจิทัล สามารถให้บริการสัญญาณช่องรายการโทรทัศน์ ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (ตามกฎ Must Carry) ได้ครบทุกพื้นที่ในประเทศไทยตามแผนที่ได้กำหนดไว้แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าคนไทยจะรับชมการถ่ายทอดสดไม่ได้
มีประเด็นที่น่าสงสัยคือ โครงข่าย True Vision ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์แบบไม่ใช้คลื่นความถี่ เหมือนโครงข่ายดาวเทียม และ โครงข่ายเคเบิลท้องถิ่น True Vision เป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์เพียงรายเดียว ที่สามารถเอารายการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ไปเผยแพร่ในช่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่ช่องโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปได้เพิ่มขึ้นถึง 3 ช่องคือ ช่อง True Sport HD 2 (ช่อง 667) , True Sport HD 3 (ช่อง 668) และ ช่อง 400 ในระบบ 4K (Ultra HD) และทั้ง 3 ช่องก็ไม่ได้เผยแพร่ในตำแหน่งช่องที่ 1-36 ตามหลักเกณฑ์การกำหนดหมวดหมู่และการจัดลำดับบริการโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ตามที่ กสทช. ได้กำหนดขึ้น
คำถามคือ ทำไม True Vision จึงสามารถทำได้
หากดูหลักเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนดขึ้น เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป ซึ่งการถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018 ในครั้งนี้ ก็เป็นรายการโทรทัศน์ที่สำคัญ ที่ต้องเผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปเท่านั้น ซึ่งตามหลักเกณฑ์นี้ กสทช. ประกาศใช้เมื่อ วันที่ 11 ธันวาคม 2555 ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการโทรทัศน์ที่มีคุณภาพอย่างเป็นธรรม และเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนด้อยโอกาสให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการโทรทัศน์ได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป จึงสมควรกำหนดหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปขึ้น
หลักเกณฑ์นี้ ได้กำหนดไว้คือ
ข้อ 3 เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของประชาชนทุกคนรวมถึงคนด้วยโอกาสให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการโทรทัศน์บางรายการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะได้อย่างเป็นธรรม เสมอภาค และทั่วถึง ให้รายการโทรทัศน์แบบถ่ายทอดสดตามที่กำหนดไว้ในภาคผนวกของประกาศนี้ ถือเป็นรายการโทรทัศน์ที่สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้ภายใต้การให้บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปเท่านั้น
ดังนั้น การเผยแพร่การถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก ผ่านโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปทาง ช่อง 5 , True4U และ Amarin TV ก็สามารถถ่ายทอดได้ในระบบความคมชัดมาตรฐาน (SD) และ ระบบความคมชัดสูง (HD) ได้ เพราะเป็นช่องรายการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป แต่การถ่ายทอดสดผ่านโครงข่าย True Vision ที่เป็นโครงข่ายโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ทำไมจึงสามารถเผยแพร่สัญญาณภาพได้ในระบบ Ultra HD หรือ 4K ที่มีความคมชัดกว่าการเผยแพร่ ผ่านโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปในระบบ HD ถึง 4 เท่า และ ชัดกว่าระบบ SD ถึง 20 เท่า
คำถามคือ ทำไม True Vision จึงสามารถทำได้
นอกจากนั้น ประกาศ กสทช. เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556 เรื่อง หลักเกณฑ์การแพร่เสียงแพร่ภาพรายการแข่งขันกีฬาที่สำคัญ มีความมุ่งหมายที่จะกำกับดูแลการแพร่เสียงแพร่ภาพรายการโทรทัศน์ที่มีความสำคัญซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เพื่อคุ้มครองให้สามารถเข้าถึงรายการดังกล่าวได้อย่างแพร่หลายโดยไม่ถูกจำกัดช่องทางการรับชม จึงได้กำหนดไว้ใน
ข้อ 2 ผู้ประกอบกิจการจะต้องไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อให้ตนมีสิทธิผูกขาดแต่เพียงผู้เดียวหรือกีดกันผู้ประกอบกิจการรายอื่นในการแพร่เสียงแพร่ภาพรายการแข่งขันกีฬาที่สำคัญ
ข้อ 3 ผู้ประกอบกิจการที่ได้สิทธิในการเผยแพร่ภาพรายการแข่งขันกีฬาที่สำคัญจะต้องจัดทำข้อเสนอบริการเพื่อให้ผู้ประกอบกิจการรายอื่นสามารถเลือกที่จะเจรจาเพื่อนำสิทธิในการแพร่เสียงแพร่ภาพของรายการดังกล่าวไปให้บริการประชาชนรับชมได้อย่างแพร่หลาย
ข้อเสนอบริการตามวรรคหนึ่ง จะต้องไม่มีลักษณะเป็นการผูกขาด ลด หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ และการกำหนดอัตราค่าตอบแทนจะต้องเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค กีดกันการเข้าสู่ตลาด หรือไม่เอื้ออำนวยต่อการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
อยากจะถาม กสทช. ว่า ทำไม True Vision จึงสามารถนำไปเผยแพร่ในช่องอื่นๆได้ ทั้งๆที่มีกฎต่างๆของ กสทช. กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก สามารถเผยแพร่ได้ ภายใต้ช่องรายการ ที่ให้บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปเท่านั้น
คำถามเพิ่มเติมคือ ถ้าโครงข่าย True Vision สามารถทำได้ โครงข่ายของกิจการโทรทัศน์รายอื่นๆ จะสามารถ เผยแพร่การถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก ในช่องรายการอื่นๆ ของตนเอง ได้หรือไม่ และ จะสามารถให้บริการในระบบ 4K ได้หรือไม่ อย่างไร เพื่อให้การรับชมสามารถทำได้อย่างแพร่หลาย เสมอภาค เป็นธรรม และ ทั่วถึง