พบเด็กไทยใช้เงินพนันบอลเฉลี่ยต่อนัด สูงขึ้นเกือบเท่าตัว พุ่งจาก 1,800 เป็น 3,000 บาท
เครือข่ายหยุดพนัน ยื่น“บิ๊กป้อม” คุมเข้มพนันช่วงบอลโลก2018 หนุนคืนความสุขถ่ายทอดสดบอลโลก แทรกรณรงค์หยุดพนัน ชงตั้งศูนย์ปราบพนันบอลถาวร
วันที่ 15พฤษภาคม 2561 เวลา10.00น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน นายพงศ์ธร จันทรัศมี ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ นำกลุ่มเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน และเครือข่ายรณรงค์หยุดพนันกว่า30คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลงานด้านตำรวจและกีฬา เสนอให้มีแผนปฏิบัติการเชิงรุก เตรียมความพร้อมรับมือปัญหาพนันฟุตบอลโลก2018 ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนและถ่ายทอดสดทั่วโลก
นายธนากร กล่าวว่า ปีนี้รัฐบาลจัดถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้ชมและเชียร์ฟุตบอลโลก2018 ทุกนัด คาดว่า จะมีเงินสะพัดในวงจรพนันบอลโลกครั้งนี้จำนวนมหาศาล มีเด็กเยาวชนและกลุ่มคนวัยทำงาน สนใจเล่นพนันจำนวนมาก
จากการสำรวจของฝ่ายวิชาการ พบเด็กไทยเล่นพนันแล้วร่วม 3 ล้านคน มีเว็บพนันออนไลน์มากกว่า 2 แสนเว็บ และจากช่วงฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา เด็กไทยใช้เงินพนันบอลเฉลี่ยต่อนัด สูงขึ้นเกือบเท่าตัวจาก1,800บาทเป็น 3,000บาท โดยเล่นพนันผ่าน3ช่องทาง คือ
1.เล่นพนันกับคนใกล้ชิด อาจเป็นเพื่อน หรือคนรู้จักในชุมชน หรือการท้าพนันกันในร้านอาหาร เช่น ร้านข้าวต้ม และผับบาร์ต่างๆ
2.ยังพบการเล่นผ่านโต๊ะรับแทงพนัน กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน
และ3. เล่นผ่านเว็บไซต์พนัน ซึ่งเป็นการพัฒนามาจากโต๊ะรับแทงพนัน
"อยากให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้รณรงค์หยุดพนันผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะช่วงที่มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลในแต่ละนัด ตั้งแต่รอบแรกไปจนนัดชิงชนะเลิศ เพราะเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว่า 70%แน่นอน"
นายพงศ์ธร จันทรัศมี ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชม รัฐบาลที่ได้ประสานให้มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งศูนย์ปราบปรามการพนันทายผลฟุตบอลออนไลน์ที่กำลังระบาดหนัก ในการนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล เครือขายจึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาล โดยท่านรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่กำกับดูแลงานด้านตำรวจและกีฬา ดังนี้
1.ขอให้ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกทุกนัด มีการรณรงค์สอดแทรกโทษภัยของการพนัน เชิญชวนให้เชียร์ฟุตบอลโดยไม่พนัน ตลอดจนสนับสนุนให้ผู้บรรยายกีฬารณรงค์ไปในทางเดียวกัน
2.ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งศูนย์ปราบปรามการพนันฟุตบอลอย่างถาวรเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง เพราะปัญหาพนันบอลนำมาซึ่งความเสื่อมทั้งในวงการกีฬา และทำให้เกิดคดีอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น
3.ขอให้สั่งการสนับสนุนการขับเคลื่อนความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ 10 องค์กรภาครัฐและภาคประชาสังคม ที่ได้ร่วมลงนามความร่วมมือ เมื่อวันที่ 9มีนาคม ที่ผ่านมา
และ 4.เครือข่ายฯ ยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในการรณรงค์หยุดพนัน ตลอดจนเฝ้าระวังแจ้งเหตุ เพื่อหนุนเสริมการดำเนินงานของรัฐ
น.ส.สุวนัน ลีลาขจรจิต แกนนำเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าวว่า ตามหลักแล้วหากสื่อใดนำเสนอเนื้อหาที่นำไปสู่การเล่นพนัน ควรรับผิดชอบในการรณรงค์เพื่อไม่ให้ผู้รับชมเล่นการพนันด้วย การที่รัฐบาลได้คืนความสุขให้ประชาชนด้วยถ่ายทอดสดให้ประชาชนคนไทยได้ชมฟุตบอลโลกสดครบทุกนัด หากรัฐบาลจะคืนความสุขอย่างสมบูรณ์ ขอให้ท่านรองนายกฯได้มอบหมายให้สถานีโทรทัศน์ทั้งสามช่องที่จะเป็นผู้ถ่ายทอดสด รับภารกิจการรณรงค์หยุดพนันในช่วงการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกด้วย
“หากเราทำให้ประชาชนไม่คิดเล่น ไม่อยากเล่น และไม่กล้าเล่นพนันได้ คาดว่าปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดจากการเล่นพนันฟุตบอลโลกครั้งนี้จะลดลง เท่ากับเป็นการลดภาระงานและต้นทุนสาธารณะของทุกหน่วยงาน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมสุขภาพจิต กระทรวงศึกษาธิการ และอื่นๆ ได้อย่างมาก และอยากเชิญชวนให้เพื่อนเยาวชนหันมาเชียร์กีฬาโดยปลอดจากการพนันกันดีกว่า เพราะจบจากการแข่งขันแล้วเราจะไม่ทุกข์ไปกับผลกระทบที่ตามมา”น.ส.สุวนัน กล่าว
ขณะที่นายธีระศักดิ์ เพ็งยิ้ม ผู้ช่วยประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลเห็นปัญหาการพนัน และเอาจริงเอาจังนี้กับเรื่องนี้ โดยขอให้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดในช่วงบอลโลกเป็นพิเศษ ยิ่งน่าห่วงคือ เซฟเวอร์เว็บพนันบอล อยู่ต่างประเทศจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถดำเนินการเอาผิดหรือปิดเว็บได้ ยิ่งการแข่งขันแมทใหญ่ๆ การพนันยิ่งทวีคูณเท่าตัว อย่างไรก็ตามในส่วนของเครือข่ายเยาวชนเองได้มีการจัดทำคลิปรณรงค์หยุดพนันบอล เพื่อเผยแพร่ตามช่องทางสื่อต่างๆ เพื่อต้องการป้องกันสังคมให้ปลอดจากการพนัน อย่างน้อยก็สื่อให้เขาเห็นว่าการเล่นพนันไม่ใช่สิ่งที่ดี โดยเฉพาะเด็กเยาวชนที่ขณะนี้กลายเป็นเหยื่อหลายราย และอยากให้ผู้ใหญ่ มองว่าเด็กคือทรัพยากรที่สำคัญ อย่ามองว่าเด็กเป็นตัวปัญหาของประเทศ