สรุปป่วนใต้ปักษ์แรกเดือนพ.ค. นราธิวาสอ่วม
เข้าสู่เดือน พ.ค.61 มาได้เกือบๆ ครึ่งทาง ปรากฏว่าสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกรอบ โดยน้ำหนักของการก่อเหตุพุ่งเป้าไปที่ จ.นราธิวาส กับยะลา
วันศุกร์ที่ 4 พ.ค.61 เป็นวันที่กลุ่มก่อความไม่สงบปฏิบัติการก่อกวนด้วยการเผายางรถยนต์ เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และแขวนป้ายผ้าเขียนข้อความโจมตีรัฐไทยหลายจุดในหลายอำเภอของ จ.ยะลา กับปัตตานี ขณะที่ จ.นราธิวาส ก็มีเหตุการณ์คล้ายๆ กัน แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือเหตุลอบวางระเบิด
ที่ อ.ตากใบ คนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าและแขวนป้ายผ้า ริมถนนสายตากใบ-นราธิวาส ทั้งขาเข้าและขาออก บริเวณคอสะพานบ้านน้ำแบ่ง หมู่ ต.ไพรวัน แรงระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าหัก 2 ต้น ทั้งยังพบระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในท่อแป๊ปเหล็กทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว น้ำหนักดินระเบิด 10 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล ถูกแขวนอยู่ข้างเสาไฟฟ้าอีก 2 ลูก แต่ระเบิดไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ต้องเครื่องแรงดันน้ำพลังสูงยิงทำลาย พร้อมแกะป้ายผ้า 2 ผืนซึ่งคนร้ายแขวนไว้ใกล้ๆ กับจุดที่วางระเบิดเสาไฟ ข้อความบนป้ายผ้าเขียนเป็นภาษาไทย เรียกแทนรัฐไทยว่า "สยาม" โจมตีว่าขูดรีดทรัพยากร ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสร้างวาทกรรมสันติสุขเพื่อยึดครองปาตานี
เหตุรุนแรงใน จ.นราธิวาส วันศุกร์ที่ 4 พ.ค. นอกจากเกิดในพื้นที่ อ.ตากใบ แล้ว ยังเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.บาเจาะ อ.รือเสาะ อ.สุไหงปาดี และ อ.สุไหงโก-ลก อีกด้วย รวม 5 อำเภอ โดยที่ อ.บาเจาะ คนร้ายวางเพลิงเผาศาลาที่พักริมทาง ในท้องที่บ้านอีโยะ หมู่ 5 ต.บาเระเหนือ และแขวนป้ายผ้าเขียนข้อความคล้ายๆ กัน 1 ผืน
ที่ อ.รือเสาะ คนร้ายเผายางรถยนต์บนถนนสาย 4060 และเผาสายสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้รับความเสียหาย ส่วน อ.สุไหงปาดี คนร้ายเผาศาลาที่พักริมทาง บนถนนจารุเสถียร ท้องที่ ต.โต๊ะเด็ง พร้อมขึงป้ายผ้าที่เสาด้านหน้าของศาลา ขณะที่ อ.สุไหงโก-ลก คนร้ายเผายางรถยนต์บนถนนสายมูโน๊ะ-สุไหงโกลก ท้องที่ ต.ปาเสมัส แต่ไม่มีแขวนป้ายผ้า
เหตุรุนแรงและการสร้างสถานการณ์ก่อกวนพร้อมกันทั้ง 3 จังหวัด ฝ่ายความมั่นคงวิเคราะห์ว่า น่าจะเป็นการตอบโต้กรณีศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิตจำเลยคดีความมั่นคงหลายคนในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายทหารได้เปิดแถลงข่าวอย่างใหญ่โตเมื่อวันพุธที่ 2 พ.ค.ในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี
ดักบึ้มรถตำรวจจะแนะ
วันพฤหัสบดีที่ 10 พ.ค.61 คนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารตำรวจ สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส บนถนนในหมู่บ้านกูมุง หมู่ 2 ต.ช้างเผือก ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 5 นาย และรถยนต์หุ้มเกราะได้รับความเสียหาย โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊สหุงตุ้มขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม น้ำหนักดินระเบิดราว 50 กิโลกรัม ซุกไว้ในท่อลอดใต้ถนน กดจุดชนวนระเบิดช่วงที่รถตำรวจแล่นผ่านมา หลังเสร็จภารกิจปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) หน่วยลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านกูมุง โชคดียานพาหนะเป็นรถหุ้มเกราะ ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนตัวรถได้รับความเสียหายบางส่วน
ยิงปธ.ชมรมพาคนกลับบ้านบันนังสตา
วันศุกร์ที่ 11 พ.ค. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม. ยิง นายมุตาอาลี ดีสะเอะ อายุ 49 ปี ประธานชมรมพาคนกลับบ้าน อ.บันนังสตา จ.ยะลา อยู่บ้านเลขที่ 230 หมู่ 6 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา เสียชีวิต เหตุเกิดขณะขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับบ้านหลังเสร็จจากพิธีละหมาดที่มัสยิดใกล้ๆ บ้าน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุที่ถูกสังหาร น่าจะเป็นเพราะผู้ตายช่วยเหลืองานราชการด้วยการเชิญชวนให้ผู้เห็นต่างจากรัฐออกมาร่วมโครงการพาคนกลับบ้านจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นขัดแย้งส่วนตัวทิ้ง
ค่ำวันเดียวกัน คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ร้านน้ำชาข้างบ้าน นายซอเร มะลี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางอามีเนาะ มามะ เจ้าของร้าน และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นทหารพรานกับชาวบ้าน เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายต้องการยิงทหารพราน แต่พลาดไปถูกเจ้าของร้านจนเสียชีวิต
----------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 สภาพรถหุ้มเกราะของตำรวจ สภ.จะแนะ หลังถูกดักโจมตีด้วยระเบิด
2 ป้ายผ้าที่คนร้ายแขวนหลายจุดเขียนข้อความโจมตีรัฐไทย
อ่านประกอบ : กลุ่มป่วนใต้ฮึดเผายางรถยนต์-เสาสัญญาณมือถือ แฉใช้ทางมะพร้าวสุมไฟ