ทรัพย์สิน‘สมยศ’พ้น สนช.ไร้ร่องรอยกู้‘เสี่ยกำพล’300ล.-ร่อนหนังสือแจง ป.ป.ช.แล้ว
โชว์บัญชีทรัพย์สิน ‘สมยศ’ หลังพ้นเก้าอี้ สนช. ไร้ร่องรอยการกู้ยืมเงิน ‘เสี่ยกำพล’ 300 ล้าน หลังออกมายอมรับก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. ลุยสอบเบื้องต้นส่งหนังสือถามสถาบันการเงิน ด้าน 'บิ๊กอ๊อด' ส่งหนังสือแจงแล้ว แต่เปิดเผยไม่ได้ จ่อเชิญ 'เสี่ยกำพล' ให้ถ้อยคำ-ประสาน ปปง. ด้วย - ผ่านไปเกือบ 5 ปีทรัพย์สิน-หนี้สินลดลงกว่า 15 ล้าน มีรายได้จาก ส.ฟุตบอล-บ.ไทยลีก 6.1 ล้าน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2561 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปัจจุบันเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2561 ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.สมยศ แจ้งว่า มีทรัพย์สิน 262,802,209 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 6,223,731 บาท เงินลงทุน 74,285,877 บาท เงินให้กู้ยืม 109,000,000 บาท ที่ดิน 40,792,600 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 ล้านบาท ยานพาหนะ 5 แสนบาท ทรัพย์สินอื่น (ส่วนใหญ่เป็นนาฬิกา และพระเครื่อง) 30 ล้านบาท มีหนี้สิน 3,313,473 บาท
มีรายได้รวม 11,370,659 บาท แบ่งเป็น รายได้จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) 805,269 บาท สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 1,320,390 บาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย 3,645,000 บาท บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด 3 ล้านบาท และบริษัท ไทยลีก จำกัด 2.6 ล้านบาท มีรายจ่ายรวม 20 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 12 ล้านบาท และเงินบริจาคทำบุญหรือเกี่ยวกับการกุศล 8 ล้านบาท
ส่วนนางพจมาน พุ่มพันธุ์ม่วง คู่สมรส มีทรัพย์สิน 95,881,491 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 8,415,241 บาท เงินลงทุน 8,822,300 บาท ที่ดิน 45.3 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 23,343,950 บาท ทรัพย์สินอื่น (ส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับ) 10 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน
มีรายได้รวม 38,237,369 บาท แบ่งเป็น รายได้จากบริษัท อีเกิ้ล อินเตอร์ทรานส์ จำกัด (ระบุว่าเป็นรายได้จากการชำระหนี้) 15,117,369 บาท และขายที่ดิน 3 โฉนด เลขที่ 274632, 71524 และ 71525 (ที่ดินอยู่ใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทั้งหมด) เป็นเงิน 23,120,000 บาท มีรายจ่ายรวม 1.5 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 1.2 ล้านบาท และเงินบริจาคทำบุญหรือเกี่ยวกับการกุศล 3 แสนบาท
รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 358,683,700 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 3,313,473 บาท
เมื่อเทียบกับช่วงเข้ารับตำแหน่ง สนช. เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2557 แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 374,679,849 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 18,822,122 บาท เท่ากับว่า พล.ต.อ.สมยศ มีทรัพย์สินลดลง 15,996,149 บาท มีหนี้สินลดลง 15,508,649 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯครั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ ไม่ได้แจ้งเรื่องการกู้ยืมเงินหรือการคืนเงินนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์-อาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท มูลค่า 300 ล้านบาท ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด รวมถึงการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯช่วงดำรงตำแหน่ง สนช. เมื่อปี 2557 ก็ไม่ได้แจ้งเช่นกัน
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ยืนยันว่า เคยยืมเงินนายกำพล 300 ล้านบาทจริง แต่เป็นการยืมเงินระหว่างเพื่อนเท่านั้น เพราะรู้จักกับนายกำพลมายาวนานกว่า 20 ปี จากวงการพระเครื่อง และไม่ทราบว่าเงินที่ได้มาจากธุรกิจใด (อ่านประกอบ : คำต่อคำ 'สมยศ' แจงปมยืมเงินเสี่ยกำพล300ล. เรื่องหุ้นผมนิยมมาก อาชีพตำรวจแค่ไซด์ไลน์)
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หากพบว่ามีการแสดงบัญชีทรัพย์สินไม่ตรงกับที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องไปตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน และที่มาที่ไปด้วย แต่หากไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติ จะส่งเรื่องให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา และตนลงนาม ก่อนประกาศราชกิจจานุเบกษาว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินดังกล่าวถูกต้องต่อไป
ส่วนนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สมยศ แบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงเป็น สนช. และช่วงเป็น ผบ.ตร. โดยตำแหน่ง ผบ.ตร. ตามกฏหมายไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ อย่างไรก็ดีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. จะตรวจสอบหมดทุกตำแหน่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนประเด็นที่สังคมสนใจเรื่องการยืมเงิน 300 ล้านบาทจากนายกำพล เบื้องต้นให้ พล.ต.อ.สมยศ ชี้แจงข้อมูล โดยได้ส่งคำชี้แจงมาถึงสำนักงาน ป.ป.ช. แล้วภายในสัปดาห์นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นกระแสการเงิน โดยส่งหนังสือไปยังสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องประมาณ 2 เดือนแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า พล.ต.อ.สมยศ ชี้แจงรายละเอียดอะไรบ้าง ต้องรอให้เจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบทรัพย์สินตรวจสอบเสียก่อน
ส่วน พล.ต.อ.สมยศ จะยืมเงินช่วงเป็น ผบ.ตร. หรือไม่นั้น นายวรวิทย์ กล่าวว่า ไม่ขอตอบเรื่องนี้ แต่เมื่อในบัญชีทรัพย์สิน ไม่ปรากฏ สื่อมวลชนต้องไปวิเคราะห์กันเอง แต่ ป.ป.ช. จะตรวจสอบทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอสถาบันการเงินชี้แจงกลับมายัง ป.ป.ช. นอกจากนี้ในการตรวจสอบหากเกิดกรณีจำเป็นต้องประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วย แต่เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริง ยังไม่ถึงขั้นแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนแต่อย่างใด และในการรวบรวมพยานหลักฐานต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ หากนายกำพลไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ต้องดูที่พยานหลักฐานอื่น
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก mthai