"อักษรา" ลั่นเดินหน้าพื้นที่ปลอดภัย มาราฯพร้อมเมื่อไหร่ก็มาร่วมมือกัน
ข่าวการพูดคุยเพื่อสันติสุขถึงคราวต้องชะงัก โดยเฉพาะประเด็นการจัดตั้ง "พื้นที่ปลอดภัย" นำร่องอำเภอแรก ทำให้คำถามจากทุกสารทิศพุ่งเข้าหาคณะพูดคุยตัวแทนฝ่ายรัฐบาล
เพราะฝั่ง "มารา ปาตานี" ในฐานะ "ปาร์ตี้ บี" แม้ไม่ได้แสดงตัวออกแถลงอย่างเป็นทางการ แต่ก็ให้ข่าวอย่างไม่เป็นทางการ ยอมรับตามข่าวที่เสนอใน "ศูนย์ข่าวอิศรา"
ขณะที่ฝั่ง "ปาร์ตี้ เอ" พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยฯฝั่งตัวแทนรัฐบาล ยอมให้สัมภาษณ์กับ "ศูนย์ข่าวอิศรา" ในบริบทไม่ต่างกัน แต่ลีลาต้องถือว่าเหนือชั้น
"เราคุยกับผู้เห็นต่าง ไม่ใช่คุยกับผู้เห็นด้วย มันก็เลยไม่ง่าย" พล.อ.อักษรา หรือ "บิ๊กโบ้" อธิบายถึงข่าวลบๆ ที่ออกมา แต่เขายืนยันว่าการจัดตั้ง "พื้นที่ปลอดภัย" ไม่ได้กระทบ และยังเดินหน้าต่อไป
"พื้นที่ปลอดภัยนำร่องได้เริ่มขึ้นแล้ว เพียงแต่ไม่ได้พูด ไม่ได้ประกาศ ทุกฝ่ายก็ดำเนินการไป 'ปาร์ตี้ บี' จะร่วมหรือไม่ร่วมก็ขึ้นกับความพร้อมของเขาเอง เมื่อพร้อมก็คงมาร่วม และทะยอยมาร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอย่าลืมว่าเขารวมกันมาตั้ง 5-6 กลุ่ม"
ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยฯ "บิ๊กโบ้" ยืนยันว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการมาตลอด 2-3 ปี ก้าวหน้าไปมากกว่าทฤษฎี "เจรจาสันติภาพ" แบบเดิมๆ
"ทฤษฎีเดิมแค่เจรจา แล้วหยุดยิง แต่เราทำมากกว่านั้น คือนอกจากหยุดยิงแล้วยังร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด และร่วมกันพัฒนาพื้นที่ด้วย"
พล.อ.อักษรา อธิบายว่า จริงๆ แล้วเรื่อง "พื้นที่ปลอดภัย" เป็นความเห็นร่วมกันของทั้งสองฝ่ายมานานแล้ว แต่การเดินหน้าให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ฝ่ายผู้เห็นต่างก็อาจต้องอาศัยความพร้อม ฉะนั้นฝ่ายรัฐที่มีความพร้อมอยู่แล้ว จึงสามารถเดินหน้าไปได้เลย
"ฝ่ายผู้เห็นต่างเขาเสนอมาเอง 5 อำเภอ เราเสนอให้ทดลองก่อน 1 อำเภอ ก็คุยกัน แล้วทางโน้นเสนอกลับมา ฝ่ายเราก็เสนอนายกฯไปแล้ว ฉะนั้นพวกที่ออกมาตั้งข้อสังเกต ข้อกังวล ขอให้พอได้แล้ว เพราะระดับพื้นที่เรียบร้อยหมด กระบวนการยุติธรรมก็กำลังดำเนินการ ทุกอย่างอยู่ในกรอบกฎหมาย"
และสิ่งที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลมาตลอด เรื่องการยกระดับ "คู่เจรจา" ก็เป็นสิ่งที่ พล.อ.อักษรา ย้ำว่าตระหนักอยู่ตลอด
"ขั้นตอนนี้ยังอยู่ในช่วงสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกัน ฉะนั้นจะไม่มีการยื่นเงื่อนไข หรือลงนามอะไรทั้งนั้น"
สิ่งที่ พล.อ.อักษรา มองว่าคือผลสำเร็จสูงสุดของการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯในเฟสแรก ก็คือการเปิดเผยตัวตนของ "องค์กรลับ" ที่ต่อสู้กับฝ่ายรัฐ และชักชวนให้มาต่อสู้ด้วยแนวทางสันติวิธี
"วันนี้องค์กรลับที่เคยต่อสู้กับรัฐถูกเปิดเผยตัวตนแล้ว และคณะพูดคุยฯได้โน้มน้าวให้มาสู้ด้วยสันติวิธี แต่การต่อสู้ยังไม่ยุติ ฝ่ายผู้เห็นต่างก็ยังต่อสู้ผ่านยูเอ็น โอไอซี องค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ และมีความพยายามแย่งชิงประชาชนอยู่ ซึ่งยุทธศาสตร์การต่อสู้ในเรื่องนี้ต้องอาศัยการสนับสนุนจากทุกฝ่าย ทั้งในประเทศ นอกประเทศ ที่สำคัญที่สุดคือประชาชน ซึ่งคณะพูดคุยฯได้ทำหน้าที่ในส่วนทีรับผิดชอบอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ภาคส่วนอื่นๆ ก็ต้องช่วยกันทำด้วย"
กระบวนการพูดคุยในระยะต่อไป ผ่านการดำเนินการเรื่อง "พื้นที่ปลอดภัย" คือการเปิด "เวทีสาธารณะปลอดภัย" หรือ common space ให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อร่วมกันสร้างสันติสุข
"พวกที่สนับสนุนแนวคิดใช้ความรุนแรงยังมีอยู่ ทั้งมุมตรง มุมกลับ แต่วันนี้เวทีเปิดแล้ว ที่เรียกว่า common space ฉะนั้นทุกคนมาร่วมได้ เปิดเผยเจตนารมณ์ได้ เราดึงทุกคนให้เข้ามาสู่เวทีสาธารณะปลอดภัย และหาทางออกร่วมกัน"
"บิ๊กโบ้" ยังบอกด้วยว่า การพบปะกันระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ได้รับการขานรับจากทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าการสร้างสันติภาพเป็นทิศทางของโลก ฉะนั้นพื้นที่ชายแดนใต้ของไทยก็ควรเดินไปบนเส้นทางเดียวกัน
"อย่าไปติดยึดกับรูปแบบเดิมๆ เราต้องระดมทุกภาคส่วนมาช่วยกัน มาร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัย" หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ กล่าวทิ้งท้าย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.อ.อักษรา เกิดผล
ขอบคุณ : ภาพจากสำนักงานเลขานุการคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ
อ่านประกอบ :
ชะงักพูดคุยดับไฟใต้ "พื้นที่ปลอดภัย"ยื้อไม่มีกำหนด
อ่านเกม "มารา ปาตานี" แถลงการณ์นี้เพื่ออะไร?
ใครเป็นใครบนเวทีแถลงของ "มาราฯ" แย้มอนาคตปาตานีขึ้นกับคนพื้นที่เอง