เครือข่ายภาคปชช. จี้รัฐหยุดใช้เงินเบี้ยหัวแตก เลิกสงเคราะห์ ชี้ไทยนิยมไม่ยั่งยืน
เครือข่ายภาคปชช. จี้รัฐหยุดใช้เงินเบี้ยหัวแตก เลิกรัฐสงเคราะห์ แบ่งแยกชนชั้นคนรวย คนจน เดินหน้ารัฐสวัสดิการ ประชาชนต้องมีบำนาญถ้วนหน้า
วันที่ 25 เมษายน 2561 เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการร่วมกับสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเสวนา “ไทยนิยม(ไม่)ยั่งยืน”... หยุดรัฐสงเคราะห์ เดินหน้ารัฐสวัสดิการ ประชาชนต้องมีบำนาญถ้วนหน้าที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารวิศิษฐ์ประจวบเหมาะ สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ แถลงข่าวพร้อมเสนอให้รัฐนำเงินงบประมาณจากโครงการไทยนิยมยั่งยืนเช่นนี้ลงไปในหลักประกันสุขภาพ หรือทำเรื่องบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้าให้กับผู้สูงอายุทุกคน ซึ่งหากทำเช่นนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์โดยตรงจากรัฐสวัสดิการ เงินถึงประชาชนจริง และเกิดประโยชน์จริงมากกว่า
ด้านผศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุตรดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการจัดสวัสดิการถ้วนหน้าของรัฐไทย จุดเปลี่ยนที่เป็นไปได้ต้องเพิ่มงบประมาณด้านสวัสดิการ งบประมาณมาจาก อาทิ การไปปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทยลง 50% นำกำไร 30% ในตลาดหุ้น จาก Capital Gain Tax เป็นต้น
ส่วนนางนุชนารถ แท่นทอง ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค กล่าวถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ...แก้จนได้จริงหรือ พบว่า สร้างความเหลื่อมล้ำ คนจนถูกแยกประเภท แบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน
"บัตรคนจนทำให้เกิดความขัดแย้ง คนจนจริงไม่ได้บัตร บางครอบครัวกลับได้บัตรสวัสดิการหลายใบ สะท้อนนการทำงานรัฐที่ไม่ได้มาตรฐาน"
ขณะที่นางชุลีพร ด้วงฉิม ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวประชารัฐ หรือไทยนิยมยั่งยืน เป้าหมายแฝงของทุนถามว่าประสบความสำเร็จสักกี่พื้นที่
โครงการไทยนิยม เสียงสะท้อนของคนทำงานในพื้นที่ พบว่า การนำเงิน 2 แสนบาท ลงไปที่ชุมชนกว่า 8 หมื่นแห่งทั้วประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างการมีส่วนร่วม ยกระดับคุณภาพชีวิตก้าวพ้นความยากจน ไม่มีการประเมิน หรือวัดผลสำเร็จของโครงการเลย ขณะที่เวทีประชาคมก็ไม่ได้สร้างการมีส่วนร่วม
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ กล่าวถึงสวัสดิการแบบรัฐสงเคราะห์ว่า คือรากฐานของการคอรัปชั่น เพราะนโยบายการสงเคราะห์ของรัฐ ผ่านอำนาจของราชการ ไม่มีกลไกกำกับหรือตรวจสอบ จะเป็นต้นตอของการทุจริตเชิงนโยบาย พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้ทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล พรรคการเมือง ให้ประสานพลังเดินหน้านัฐสวัสดิการ หยุดการสงเคราะห์ แบ่งแยกคน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายแบบไม่มีประสิทธิภาพ เป็นเบี้ยหัวแตก รวมถึงมาร่วมกันขับเคลื่อนเปลี่ยนเบี้ยยังชีพเป็นบำนาญถ้วนหน้าให้ได้