หวั่นTORเครื่องตรวจความเร็ว573ล.ล็อกสเปก! เอกชนข้องใจเปิดรับฟังความเห็นวันหยุดสงกรานต์
ผู้ประกอบการหวั่นทีโออาร์เครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา ปภ. 573 ล. ส่อล็อกสเปกเอื้อเอกชนบางราย ข้องใจเปิดรับฟังความเห็นช่วงวันหยุดสงกรานต์ ให้สิทธิเฉพาะผู้ประกอบการเข้าร่วมได้ ด้านเลขานุการคกก.จัดซื้อ ยันเปิดรับฟังทุกความเห็น แต่ต้องกลั้นกรองเพราะบางรายร้องเรียนเอาสนุก คาดไม่เกินปีนี้ได้จัดประมูลจัดซื้อแน่ หากไม่ติดปัจจัยด้าน กม.
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่าเมื่อเร็วๆ นี้ มีตัวแทนบริษัทนำเข้าเครื่องตรวจจับความเร็ว แบบพกพา รายหนึ่งเข้าร้องเรียนสำนักข่าวอิศราว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกวดราคาจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว แบบพกพา ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จำนวน 849 เครื่อง วงเงิน573,075,000 บาท ที่อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความเห็นในช่วงวันที่9-19 เม.ย.2561 ส่อว่าจะมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นหลายประการ อาทิ เป็นช่วงวันหยุดติดต่อหลายวัน ทำให้การแสดงความเห็นต่อร่างทีโออาร์ดังกล่าวทำไม่สะดวก เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องเป็นผู้ประกอบการที่ยืนยันตัวตนได้ ถึงจะสามารถแสดงความเห็นได้ นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดที่อาจจะเข้าข่ายการล็อกสเปกผู้จัดซื้อด้วย
ตัวแทนบริษัทเอกชน รายนี้ ระบุว่า "ในช่วงวันที่ 9-19 เม.ย.เป็นช่วงเวลาติดวันหยุดหลายวัน ผมต้องการที่จะเข้าไปแสดงความเห็นต่อร่างทีโออาร์ในช่วงนั้นได้รับแจ้งตอบกลับจาก ปภ.ว่า ต้องการเอกสารยืนยันว่าเป็นผู้ประกอบการ เป็นผู้นำเข้าเครื่องตรวจจับความเร็วถึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ผมจึงส่งหลักฐานยืนยันตัวไปในช่วงค่ำของวันที่ 20 เม.ย. แต่เมื่อสอบถามข้อมูลว่าผู้ใดจะสามารถแสดงความเห็นต่อทีโออาร์ได้บ้าง ก็ทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่าประชาชนทั่วไปไม่สามารถแสดงความเห็นต่อทีโออาร์ได้ ต้องเป็นผู้ประกอบการเท่านั้น ทำให้มีความสงสัยมาก ว่าทำไมถึงกีดกันไม่ให้ประชาชนแสดงความเห็นต่อการทำทีโออาร์ของหน่วยงานรัฐได้"
ตัวแทนบริษัทรายนี้ ยังระบุว่า นอกจากนี้ในทีโออาร์ยังมีรายละเอียดที่อาจจะเข้าข่ายการล็อกสเปกผู้จัดซื้อได้ เนื่องจากในส่วนคุณลักษณะเฉพาะของอุปกรณ์ตรวจจับความเร็วที่ระบุในทีโออาร์ในข้อ 4.2.1.3 ระบุว่าลำแสงเลเซอร์ที่ใช้ในการตรวจวัดของเครื่องตรวจจับความเร็วนั้น ต้องสามารถวัดยานพาหนะได้ในช่วงระยะ 20-1,200 เมตร หรือดีกว่า โดยค่าความผิดพลาดในการตรวจวัดต้องไม่เกิน +/-20 เซนติเมตรหรือดีกว่า ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนั้นไม่ใช่สาระสำคัญของประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับความเร็ว (ดูเอกสารประกอบ)
ตัวแทนบริษัทกล่าวว่า "การที่เครื่องตรวจจับความเร็วจะมีประสิทธิภาพหรือไม่นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับการวัดช่วงความเร็วของยานพาหนะได้ถูกต้อง อีกทั้งในเมืองไทยขณะนี้มีบริษัทที่นำเข้าเครื่องตรวจจับความเร็วที่มีคุณสมบัติตามข้อ 4.2.1.3 เพียงแค่ 3 บริษัทเท่านั้น โดย 2 บริษัท ขายเครื่องตรวจจับความเร็วในราคาสูงตามท้องตลาด และอีก 1 บริษัท ขายในราคาเครื่องที่ถูกกว่ามาก ดังนั้นจึงเป็นที่สงสัยว่าการกำหนดทีโออาร์ดังกล่าวนั้นจะเอื้อให้บริษัทรายใดรายหนึ่งชนะการประมูลหรือไม่ จึงได้ร้องเรียนไปยัง ปภ.ไปเมื่อช่วงวันสงกรานต์เพื่อขอให้แก้ไขทีโออาร์ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเขาจะแก้ไขทีโออาร์ตามที่ร้องขอไปหรือไม่"
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยังนายชูเกียรติ สิทธิสุข กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ นายชูเกียรติ ชี้แจงว่า ข้อวิจารณ์ที่ว่ามีการกีดกันการรับฟังความเห็นในส่วนของทีโออาร์นั้น ขอเรียนว่าทางคณะกรรมการรับฟังทุกความเห็นโดยจะนำเอาเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอีกทีหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการคัดกรองความคิดเห็นให้เหมาะสม เพราะในบางครั้งมีการแสดงความคิดเห็นเข้ามาแบบนึกสนุก จึงต้องมีการกลั่นกรอง ส่วนกรณีที่่มีการเปิดรับฟังความเห็นคร่อมเวลาช่วงวันหยุดสงกรานต์ ขอเรียนว่าได้มีการทดเวลาไว้ให้แล้ว
นายชูเกียรติ ยังระบุด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนกับสำนักข่าวอิศรา นั้น ทาง ปภ.ขอดูข้อมูลก่อนเช่นกัน ถ้าอ้างว่าเป็นตัวแทนจำหน่าย ก็ต้องขอคำยืนยันว่ามีผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออะไรมาขาย
"ขอยืนยันว่าคณะกรรมการจะพิจารณาทุกข้อวิจารณ์ที่มีต่อทีโออาร์ อีกทั้งตอนนี้การทำทีโออาร์ก็ยังไม่เสร็จสิ้นดี หลังจากการรับฟังความเห็นผ่านพ้นไปแล้ว คณะกรรมการจะต้องมาประชุมอีกทีหนึ่งว่าจะแก้ไขทีโออาร์กันอย่างไร หลังจากนั้นจึงออกทีโออาร์ร่างสุดท้าย แล้วพอออกทีโออาร์ร่างสุดท้ายแล้วก็ต้องมารับฟังความคิดเห็นกันอีก แล้วจึงจะกำหนดวันว่าจะเริ่มทำการประมูลเมื่อไรได้ ซึ่งในขณะนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะคณะกรรมการยังไม่ได้ประชุมกัน แต่ขอยืนยันว่าการประมูลนั้นจะสามาถทำได้ภายในปีนี้ถ้าไม่ติดขัดปัจจัยด้านกฎหมาย"