ผบช.ปส.ย้ำ'ตร.-อัยการ'ร่วมมือกันดี ชง'ผบ.ตร.'ทำความเห็นแย้งสั่งฟ้องพ.ต.ท.ใหม่
พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ย้ำหนังสือเรียกตัวอัยการสอบปากคำกรณีสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท. พัวพันคดีค้ากัญชา แค่เชิญประชุมขอความร่วมมือเท่านั้น ชี้คนนอกเข้าใจผิด 'ตร.-อัยการ' ร่วมมือกันดีไม่มีปัญหาอะไร เตรียมชงเรื่อง 'จักรทิพย์'ทำความเห็นแย้งควรสั่งฟ้องต่อตามขั้นตอนกม.
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวกรณีมีผู้นำหนังสือราชการของกลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ที่ลงนามโดย พ.ต.อ.กฤษ มีนุชนารถ ผู้กำกับการฯ (สอบสวน) หัวหน้ากลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน แจ้งถึง อัยการกองคดียาเสพติด 9 เพื่อขอนัดหมายสอบสวนปากคำ พนักงานอัยการที่รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ ซึ่งมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ธนกฤต นิตสพันธ์ อดีต สว.สส. กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทกัญชา ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามห้องไลน์อัยการกลุ่มต่างๆ พร้อมมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตำรวจใช้อำนาจแทรกแซงดุลยพินิจการพิจารณาคดีของอัยการ หลังจากที่มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน (อ่านประกอบ : แชร์สนั่นไลน์! ปส.ทำหนังสือขอสอบปากคำอัยการสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.พัวพันคดีค้ากัญชา)
ขณะที่ พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร รองผู้บังคับการ ปส. ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่า เรื่องทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ทาง ปส.ไม่ได้เรียกอัยการมาสอบสวน ปัญหาของเรื่องนี้นั้นมาจากการใช้ถ้อยคำที่ไม่เรียบร้อย โดยเลือกไปใช้คำว่าสอบปากคำ เบื้องต้น ทางอัยการและ ปส.โดย พล.ต.ท. สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการ ปส.ได้มีการพูดคุยรายละเอียดกันแล้ว (อ่านประกอบ : ผู้ใหญ่2ฝ่ายเคลียร์กันแล้ว! ปส.แจงปมเรียกอัยการสอบปากคำ เรื่องเข้าใจผิดใช้ถ้อยคำไม่ถูกต้อง)
ล่าสุด พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไร ตนไม่ได้ทำอะไรให้เสียหาย เป็นเรื่องภายในของสองหน่วยงานที่ดำเนินการพูดคุยเป็นการภายในอยู่แล้ว
"ในการทำงานอาจจะมีเรื่องไม่เห็นตรงกันบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าทั้งสองหน่วยงานจะไม่ถูกกัน การที่สองหน่วยงานจะทำงานด้วยกันแล้วสบายใจกันหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ผู้ใหญ่ การทำงานในบางครั้งก็มีสิ่งที่ไม่ราบรื่น แต่เมื่อคุยกันไปแล้วไม่มีอะไร ทุกอย่างก็จบ ของอะไรที่ควรจะปิดลับก็ต้องปิด ถ้าไม่ปิดแล้วเอาไปพูดเลอะเทอะกันก็จะเกิดความเสียหายได้" พล.ต.ท.สมหมายกล่าว
พล.ต.ท.สมหมาย ยังระบุด้วยว่า "การทำงานระหว่าง ปส.และอัยการ มีการเรียนเชิญมาประชุมกันอยู่แล้วตามปกติ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ตำรวจโรงพักหรือตำรวจภูธรจังหวัดเขาทำไม่ได้ แต่ ปส.ทำเป็นประจำ ดังนั้นเอกสารที่ปรากฏเป็นข้อวิจารณ์กันอยู่นั้นก็เป็นเอกสารที่นัดเชิญประชุมกันตามปกติ และทางอัยการรวมไปถึงอธิบดีอัยการ ก็มาประชุมกับ ปส.กันอยู่แล้ว แต่หน่วยงานอื่นๆอาจจะไม่รู้และเข้าใจผิดได้ถ้าเห็นเอกสาร การทำงานของ ปส.นั้นจะต้องทำงานตามคณะกรรมการและอนุกรรมการต่างๆในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)อยู่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องการออกหมายในคดียาเสพติด การประชุมระหว่างอัยการกองคดียาเสพติด ถ้าเราไม่ไปประชุมกับเขา เขาก็มาประชุมกับเราก็เท่านั้นเอง" พล.ต.ท.สมหมายระบุ
เมื่อถามว่าปัญหาเรื่องนี้เป็นปัญหาด้านการใช้ถ้อยคำในเอกสารใช่หรือไม่ พล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า "เรื่องบางเรื่องนั้นก็อยู่ที่มุมมองของคน เมื่อมีเหตุก็ต้องมีการสอบสวนเกิดขึ้น พนักงานสอบสวนเขาก็คิดแค่ว่าเป็นพยานปากหนึ่ง ไม่ได้คิดว่าจำไปปรักปรำใคร นี่คือมุมมองของพนักงานสอบสวน แต่ในมุมมองของคนอื่นเขาอาจจะไม่รู้และเข้าใจผิด แต่ขอย้ำว่าพวกเรามีการเชิญกันในหน้าที่อยู่แล้ว"
"ขอย้ำว่าผมไม่ซีเรียสอะไร ได้ชี้แจงให้ทางผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว ส่วนเรื่องความร่วมมือด้านคดี ก็มีความร่วมมือกันอย่างดี ทางอัยการเขาขออะไรมา เราก็ทำตามที่เขาขอ ถ้าหาก ปส.ไม่ได้รับความร่วมมือกับอัยการคดียาเสพติด การทำงานก็จะไม่ประสบความสำเร็จได้"
เมื่อถามว่า เกี่ยวกับเรื่องคดีความ จะดำเนินการอย่างไร ภายหลังจากที่อัยการสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.ธนกฤต ไปแล้ว พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า "การดำเนินงานของ ปส.ก็จะต้องส่งเรื่องไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทำความเห็นแย้งว่าควรจะสั่งฟ้องต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมาย"
หมายเหตุ:ภาพประกอบ พล.ต.ท. สมหมาย จากเว็บไซต์ www.doo-deedee.com
อ่านประกอบ :
ผู้ใหญ่2ฝ่ายเคลียร์กันแล้ว! ปส.แจงปมเรียกอัยการสอบปากคำ เรื่องเข้าใจผิดใช้ถ้อยคำไม่ถูกต้อง
แชร์สนั่นไลน์! ปส.ทำหนังสือขอสอบปากคำอัยการสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.พัวพันคดีค้ากัญชา