เอ็กซ์คลูซีฟ: ฉบับเต็มผลสอบ สตง. ถอดพิรุธราคากลาง-จับฮั้วเอกชนสร้างโดม11ร.ร.ภาคใต้62ล.
"...จากการตรวจสอบปรากฏว่า มีบริษัทที่เข้าร่วมการเสนอราคาจากทั้ง 11 โรงเรียน จำนวน 11 บริษัท แบ่งเป็น 11 สัญญา บริษัทที่ได้เป็นคู่สัญญามีจำนวน 3 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท หาดใหญ่ ซอฟแวร์ จำกัด 2.บริษัท เอสพี เอ็ดดูชั่นออล จำกัด 3.บริษัท ซี ยู เลิร์นนิ่ง จำกัด โดยบริษัทที่เข้าร่วมเสนอราคาในแต่ละโรงเรียนจะยื่นเสนอราคาเดิมและบริษัทที่ได้เป็นคู่สัญญาจะไม่ยื่นเสนอราคาแข่งกัน และยังตรวจสอบพบว่า เอกสารหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ของบริษัท เอสพี เอ็ดดูเคชั่นออล จำกัด และบริษัท ซี ยู เลิร์นนิ่ง จำกัด มีที่ตั้งสำนักงานอยู่ที่เดียวกัน, บริษัทคู่สัญญาทั้ง 3 ราย วางหลักประกันโดยใช้หนังสือค้ำประกันของธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) สาขาถนนข้าวหลามและวันที่เดียวกัน และโรงเรียนธารโตวัฑฒนวิทย์ มีบริษัท ซี ยูเลิร์นนิ่ง จำกัด เป็นผู้ส่งใบเสนอราคาทั้งที่ไม่ใช่เป็นผู้เข้าเสนอราคา..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เป็นรายละเอียดในรายงานการตรวจสอบโครงการก่อสร้างหลังคาปกคลุมลานสารพัดประโยชน์ หรือที่เรียกกันทั่วๆไปว่า โดม ของ 11 โรงเรียน วงเงิน 62 ล้านบาท ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่แจ้งถึง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงศึกษาธิการ ให้ขยายผลตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกต่อ ซึ่งปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นทางการแล้ว
-----------------
ที่มาการตรวจสอบ
ด้วยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบการก่อสร้างหลังคาคลุมลานอเนกประสงค์ของโรงเรียนในโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 (สพม.15) ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดสรรงบประมาณตามที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอรับการสนับสนุน จากงบประมาณเหลือจ่าย ปีงบประมาณ 2559 งบลงทุน รายการค่าที่ดินและสิ่งก่อร้าง เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 62,431,400 บาท
โดยมีโรงเรียนที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 11 โรงเรียน ประกอบด้วย จังหวัดยะลา ได้แก่ 1.โรงเรียนยะหาศิรยานุกูล 2.โรงเรียนธารโตวัฑฒนวิทย์ 3.โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ยะลา จังหวัดปัตตานี ได้แก่ 1.โรงเรียนสายบุรี “แจ้งประชาคาร” 2.โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล 3.โรงเรียนแม่ลานวิทยา 4.โรงเรียนโพธิ์คีรีราศึกษา และจังหวัดนราธิวาส ได้แก่ 1.โรงเรียนสุคิรินวิทยา 2.โรงเรียนนราสิกขาลัย 3.โรงเรียนรือเสาะชนูปถัมป์ 4.โรงเรียนมัธยมสุไหงปาดี
ผลการตรวจสอบพบปัญหา 2 ประเด็น คือ
1. การคำนวณราคากลางสูงเกินความเป็นจริง
จากการตรวจสอบราคากลางการก่อสร้างหลังคาคลุมลานอเนกประสงค์ของโรงเรียนสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 จำนวน 4 โรงเรียน จาก 11 โรงเรียน พบว่า
1) โรงเรียนนราสิกขาลัย อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส คำนวณราคากลางได้เพียง 5,5444,476.25 บาท ซึ่งราคากลางของโรงเรียน เป็นเงิน 6,831,400.00 บาท จึงสูงไป 1,286,823.75 บาท เมื่อเปรียบเทียบราคาที่คำนวณตามหลักเกณฑ์กับสัญญา วงเงิน 6,812,000.00 บาท ราคาตามสัญญาจึงสูงกว่าที่ควรจะเป็น 1,286,823.75 บาท
2) โรงเรียนรือเสาะชนูปถัมป์ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส คำนวณราคากลางได้เพียง 4,068,617.08 บาท ซึ่งราคากลางของโรงเรียน เป็นเงิน 4,712,400.00 บาท จึงสูงไป 642,782.92 บาท เมื่อเปรียบเทียบราคาที่คำนวณตามหลักเกณฑ์กับสัญญา วงเงิน 4,693,400.00 บาท จึงสูงไป 642,782.92 บาท
3) โรงเรียนโพธิ์ศรีราชศึกษา อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี คำนวณราคากลางได้พียง 4,087,874.09 บาท ซึ่งราคากลางของโรงเรียน เป็นเงิน 4,712,400.00 บาท จึงสูงไป 624,525.91 บาท เมื่อเทียบกับราคาที่คำนวณหลักเกณฑ์กับสัญญา วงเงิน 4,700,000.00 บาท ราคาตามสัญญาจึงสูงกว่าที่ควรจะเป็น 672,125.91 บาท
4) โรงเรียนยะหาศิรยานุกูล อำเภอยา จังหวัดยะลา คำนวณราคากลางได้เพียง 3,770,766.28 บาท ซึ่งราคากลางของโรงเรียน เป็นเงิน 4,782,400.00 บาท จึงสูงไป 941,633.72 บาท เมื่อเปรียบเทียบราคาที่คำนวณตามหลักเกณฑ์กับสัญญา วงเงิน 4,687,400.00 บาท ราคาตามสัญญาจึงสูงกว่าที่ควรจะเป็น 916,633.72 บาท
ทั้งนี้ เนื่องจากโรงเรียนทั้ง 4 แห่ง ระบุปริมาณงานบางรายการในรายการปริมาณงาน และราคาท้องถิ่นสูงกว่าปริมาณงานที่แสดงในรูปแบบรายการ และไม่ใช้ราคาวัสดุก่อสร้างจากสำนักงานดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (ราคาวัสดุในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี ช่วงเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม 2559) และราคาค่าแรงงานจากบัญชีค่าแรงงาน/ดำเนินการสำหรับการถอดแบบคำนวณราคากลางงานก่อสร้างฉบับปรับปรุงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 ในการคำนวณราคากลางบางรายการ คำนวณงานนั่งร้านชั่วคราวเป็นค่างานต้นทุนและไม่นำไปรวมกับค่า Factor F ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างอาคาร เนื่องจากงานนั่งร้านสำหรับงานก่อสร้างไม่สามารถคิดเป็นค่างานต้นทุนและคูณ Factor F
นอกจากนี้ โรงเรียนรือเสาะชนูปถัมป์ และโรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา มีการคิดค่าเชื่อเครื่องจักร (CRANE) สำหรับติดตั้งโครงหลังคา จำนวน 5 วัน วันละ 9,500 บาท เป็นเงิน 87,500.00 บาท เป็นค่างานต้นทุน และนำไปรวมกับค่า Factor F ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางอาคารตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดให้การใช้เครื่องจักรกลพิเศษในการก่อสร้างอยู่ในส่วนที่ 3 ค่าใช้จ่ายพิเศษ โดยไม่สามารถคูณกับ Factor F
และโรงเรียนรือเสาะชนูปถัมป์ กับโรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา มีการคิดราคาลวดเชื่อม เป็นเงิน 28,350.00 บาท ซึ่งไม่ถูกต้องตามบัญชีค่าแรงงาน/ค่าดำเนินการสำหรับการถอดแบบคำนวณราคากลางงานก่อสร้างฉบับปรับปรุงเดือนตุลาคม 2558 ซึ่งกำหนดค่าแรงประกอบเหล็กรูปพรรณ ข้อ 11.2 โครงหลังคาทั่วไป (โครง Truss) กิโลกรัมละ 12 บาท โดยรวมค่าลวดเชื่อมแล้ว ทำให้ราคากลางที่โรงเรียนกำหนดสูงกว่าราคาตามหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างของทางราชการตามมติคณะรัฐมนตรี แจ้งตามหนังสือกรทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0421.5/ว 27 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2555 รวม 4 โรงเรียน เป็นจำนวนเงินรวม 3,495,866.30 บาท และเมื่อเปรียบเทียบกับราคาตามสัญญา ราคาตามสัญญาจึงสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็น (ราคาตามหลักเกณฑ์ฯ) รวม 4 โรงเรียน เป็นเงิน 3,420,066.30 บาท ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
2. ความเชื่อมโยงของบริษัทเอกชนที่ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญา
โรงเรียนแต่ละแห่งได้ดำเนินการจัดจ้าง โดยใช้วิธีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ข้อ 24 (3) ให้เหตุผลว่าเป็นงานที่ต้องกระทำเร่งด่วน หากล่าช้าอาจเสียหายแก่ทางราชการ แต่สตง.พิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินงานดังกล่าวปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง กล่าวคือ จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า งบการเงิน หมวดธุรกิจและวัตถุประสงค์ ของบริษัทที่เข้าเสนอราคาแสดงว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ด้านคอมพิวเตอร์ มิใช่เป็นผู้มีอาชีพรับจ้างทำงานนั้นโดยตรง เป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามนัย ข้อ 58 (1) แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นอกจากนั้น จากการตรวจสอบปรากฏว่า มีบริษัทที่เข้าร่วมการเสนอราคาจากทั้ง 11 โรงเรียน จำนวน 11 บริษัท แบ่งเป็น 11 สัญญา บริษัทที่ได้เป็นคู่สัญญามีจำนวน 3 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท หาดใหญ่ ซอฟแวร์ จำกัด 2.บริษัท เอสพี เอ็ดดูชั่นออล จำกัด 3.บริษัท ซี ยู เลิร์นนิ่ง จำกัด โดยบริษัทที่เข้าร่วมเสนอราคาในแต่ละโรงเรียนจะยื่นเสนอราคาเดิมและบริษัทที่ได้เป็นคู่สัญญาจะไม่ยื่นเสนอราคาแข่งกัน
และยังตรวจสอบพบว่า เอกสารหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ของบริษัท เอสพี เอ็ดดูเคชั่นออล จำกัด และบริษัท ซี ยู เลิร์นนิ่ง จำกัด มีที่ตั้งสำนักงานอยู่ที่เดียวกัน, บริษัทคู่สัญญาทั้ง 3 ราย วางหลักประกันโดยใช้หนังสือค้ำประกันของธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) สาขาถนนข้าวหลามและวันที่เดียวกัน และโรงเรียนธารโตวัฑฒนวิทย์ มีบริษัท ซี ยูเลิร์นนิ่ง จำกัด เป็นผู้ส่งใบเสนอราคาทั้งที่ไม่ใช่เป็นผู้เข้าเสนอราคา ดังนั้น การดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวจึงเป็นการดำเนินการโดยไม่เปิดเผย โปร่งใส และเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม เป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามนัย ข้อ 15 ทวิ แห่งระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (อ่านประกอบ : ชื่อคนกลุ่มเดียวกันตั้ง3บ.! หลักฐานมัด3รับเหมาสร้างโดม11ร.ร.ชายแดนใต้62ล.(3))
ขณะที่ในขั้นตอนการพิจารณาผู้เข้าเสนอราคา ไม่มีการพิจารณาผู้เสนอราคาว่ามีผลประโยชน์ร่วมกัน กล่าวคือ จากการตรวจสอบหลักฐานหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทที่เข้าร่วมเสนอราคา พบว่า นายนิธิพัฒน์ ชัชวาลพาณิชย์ กรรมการบริหารบริษัท หาดใหญ่ซอฟแวร์ จำกัด เคยเป็นกรรมการบริหารและเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท เอสพีเอ็ดดูเคชั่นออล จำกัด
ส่วน นายกิตติพงษ์ แพถนอม เป็นผู้เริ่มก่อการและผู้ถือหุ้นของบริษัท ซี ยู เลิร์นนิ่ง จำกัด และบริษัท เอสพี เอ็ดดูเคชั่นออล จำกัด รวมถึงเป็นกรรมการบริหารของบริษัท เค แอนด์ เอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (คู่เทียบ) เป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามนัย ข้อ 35 ตรี แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (อ่านประกอบ : ชื่อหรากก.คู่เทียบ-ใช้หนังสือค้ำแบงก์เดียวกัน! หลักฐานครบชุดมัด3บ.สร้างโดม11ร.ร.ภาคใต้62ล.(4))
เบื้องต้น ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 พิจารณาแล้วเห็นชอบกับผลการดำเนินการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ให้ดำเนินการดังนี้
1. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวและดำเนินการตามควรแก่กรณีกับคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ คณะกรรมการกำหนดราคากลาง และผู้เกี่ยวข้องตามระเบียบแบบแผนที่ทางราชการกำหนด หากพบว่าเป็นการกระทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้รับจ้างก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
2. ดำเนินการหาผู้รับผิดทางละเมิด กรณีโรงเรียนนราสิกขาลัย โรงเรียนรือเสาะชนูปถัมป์ โรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา โรงเรียนยะหาศิรยานุกูล จัดจ้างสูงกว่าราคาควรจะเป็น (ราคาตามหลักเกณฑ์ฯ) รวมเป็นเงิน 3,420,066.30 บาท
3. ดำเนินการตรวจสอบการคำนวณราคากลาง สำหรับโรงเรียนที่เหลืออีก 7 โรงเรียน หากเกิดความเสียหายของให้ดำเนินการตามควรแก่กรณีกับผู้เกี่ยวข้องและหาผู้รับผิดชดใช้เงินคืนแก่ทางราชการ
4. ขอให้ควบคุม กำกับ ดูแล เจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีโดยเคร่งครัด
ขณะที่ก่อนหน้านี้ พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยสำนักข่าวอิศราถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการนี้ว่า คณะกรรมการสอบสวนได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้วมากกว่า 100 ปาก แต่เป็นการสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนและครูในพื้นที่ แต่ว่ายังไม่มีการไปสอบถามกับผู้อำนวยการ สพม.15 คาดว่าหลังจากเทศกาลสงกรานต์น่าจะเห็นความชัดเจนในการดำเนินงานมากขึ้น ขณะที่ในการตรวจสอบยังพบปัญหา เรื่องสถานที่จัดการประมูล เพราะแทนที่จะใช้โรงเรียนที่จะก่อสร้างโดมเป็นพื้นที่ประมูล กลับนำใช้พื้นที่ สพม.15 เรียกบริษัทที่เข้าประมูลมาประมูลการก่อสร้างกัน โดยมีการตัดเอาบริษัทอื่นๆออก เหลือแค่ 3 บริษัท ที่มีความเชื่อมโยงกัน ดังนั้นต้องเรียกผู้อำนวย สพม.15 เข้ามาสอบถามในกรณีนี้ด้วย เพราะการกระทำเช่นนี้มีความผิดอาจต้องโทษทางวินัยได้
ส่วนแหล่งข่าวระดับสูงจาก สตง. ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า นอกเหนือจากการตรวจสอบโครงการก่อสร้างโดมของโรงเรียนในพื้นที่ชายแดนใต้แล้ว จะมีการขยายผลการตรวจสอบไปยังจังหวัดภาคอื่นๆ ว่ามีปัญหาแบบเดียวกันหรือไม่ด้วย
อ่านประกอบ :
เจาะลึกคดีฮั้วสร้างโดมร.ร.ชายแดนใต้ 62ล.! ไขราคากลางจัดซื้อ 4 ร.ร. สูงเกินจริงหลักล้าน(1)
เลิกกิจการแล้วหนึ่ง! เปิดชื่อ 3 เอกชน รับเหมาสร้างโดม 11 ร.ร.ชายแดนใต้ 62 ล. (2)
ชื่อคนกลุ่มเดียวกันตั้ง3บ.! หลักฐานมัด3รับเหมาสร้างโดม11ร.ร.ชายแดนใต้62ล.(3)
ชื่อหรากก.คู่เทียบ-ใช้หนังสือค้ำแบงก์เดียวกัน! หลักฐานครบชุดมัด3บ.สร้างโดม11ร.ร.ภาคใต้62ล.(4)