ทรูแจงปมข้อมูลลูกค้า 1.14 หมื่นชื่อหลุด ถูกแฮกจากมืออาชีพ -แจ้งความบันทึกประจำวันแล้ว
สำนักงาน กสทช. เรียกทรูมูฟแจงปมข้อมูลลูกค้า 1.14 หมื่นรายหลุด ‘สืบสกุล สกลสัตยาทร’ ผู้บริหาร ไอทรู มาร์ท เผยบริษัทฯ สั่งปิดระบบทันทีหลังทราบเรื่อง พร้อมเร่งทยอยส่งเอสเอ็มเอสทราบถึงมาตรการป้องกันแก่ผู้รับผลกระทบ-แจ้งความลงบันทึกประจำวันคุ้มครองสิทธิ ด้าน ‘ฐากร ตัณฑสิทธิ์’ ชูแนวคิดตั้งศูนย์ดาต้าโอนข้อมูลทั้งหมดจากค่ายมือถือมาไว้ที่รัฐ
นายสืบสกุล สกลสัตยาทร กรรมการผู้จัดการบริษัท แอสเซนต์ คอมเมิร์ช จำกัด (ไอทรู มาร์ท)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 17 เม.ย. 2561 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรียกบริษัท ทรูมูฟ เอช จำกัด เข้าชี้แจงกรณีมีการปล่อยข้อมูลสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้า จำนวน 11,400 รายชื่อ ให้เข้าถึงได้ง่าย โดยไม่มีการปิดกั้น ณ สำนักงาน กสทช.
นายสืบสกุล สกลสัตยาทร กรรมการผู้จัดการบริษัท แอสเซนต์ คอมเมิร์ช จำกัด (ไอทรู มาร์ท) กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจริงจะเข้าถึงไม่ง่าย ซึ่งในกรณีนี้พบว่า ผู้เชี่ยวชาญได้ใช้เครื่องมือพิเศษเข้าถึงข้อมูลจนทำให้มีการเปิดเผยออกมา แต่ยืนยันข้อมูลเหล่านั้นเป็นของลูกค้าที่สมัครซื้อซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์พร้อมเครื่องโทรศัพท์มือถือผ่านช่องทางของไอทรู สมาร์ท เท่านั้น
“บริษัทฯ ทราบเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2561 จึงได้สั่งการให้ปิดระบบทันทีในช่วงเวลาประมาณ 19 นาฬิกา ของวันที่ 12 เม.ย. 2561 ซึ่งทีมงานไม่ได้นิ่งนอนใจ” ผู้บริหาร ไอทรู มาร์ท กล่าว และว่า จึงได้เพิ่มมาตรการให้รักษาความปลอดภัยให้รัดกุมมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่า ความปลอดภัยของระบบไซเบอร์ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมาก มีวิธีการใหม่ ๆ ในการแฮกข้อมูลมากมาย
นายภัคพงศ์ พัฒนมาศ รองผู้อำนวยการธุรกิจโมบายล์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวต่อว่า เบื้องต้นประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะได้รับเอสเอ็มเอสแจ้งเตือนให้ทราบถึงมาตรการต่าง ๆ ของทรูมูฟ เอช ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 2561 เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นว่าได้ทำอะไรไปบ้าง พร้อมยืนยันระบบของไอทรู มาร์ท จะไม่มีใครแฮกได้อีกต่อไป อีกทั้งยังได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อคุ้มครองสิทธิ แต่ยังไม่แจ้งความเอาผิด เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้มั่นใจก่อน
“สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบและต้องการติดต่อเข้ามา ทรูมูฟ เอช จะตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ โดยไม่เสียค่าบริการ และจะเปิดหน้าเว็บไซต์เฉพาะขึ้นมาเพื่อสอบถามข้อมูลได้อีกด้วย” ผู้บริหารทรูมูฟ เอช กล่าว
ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงาน กสทช. กล่าวเพิ่มเติมถึงกระบวนการหลังจากนี้ว่า กสทช.จะมีหนังสือแจ้งเตือนไปยังโอเปอร์เรเตอร์ทั้งหมด ต่อไปนี้จะต้องไม่ให้ข้อมูลของประชาชนที่เข้ามาลงทะเบียนหลุดออกไปได้อีก และจะให้โอเปอร์เรเตอร์ทำหนังสือชี้แจงถึงมาตรการป้องกันทั้งหมดกลับมายังสำนักงาน กสทช.ภายใน 1-2 วัน
“ทรูมูฟรับปากจะกลับไปตรวจสอบว่า ปัจจุบันมีประชาชนกลุ่มใดได้รับความเสียหายจากเรื่องดังกล่าวบ้าง เพื่อกลับมารายงานให้สำนักงาน กสทช. ทราบอีกครั้ง” เลขาธิการ สำนักงาน กสทช. กล่าว และว่า หากพบมีผู้ได้รับความเสียหาย ทรูมูฟจะมีมาตรการเยียวยาหรือมาตรการช่วยเหลืออย่างไร
เลขาธิการ สำนักงาน กสทช. ยังกล่าวว่า ในอนาคตสำนักงาน กสทช. มีแนวคิดใช้มาตรการป้องกันระยะยาว โดยจะเร่งจัดทำศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บไว้ที่โอเปอร์เรเตอร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือ ยิ่งข้อมูลถูกจัดเก็บโดยหน่วยงานของรัฐยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้น
พร้อมยืนยันว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความหละหลวม เพราะทรูมูฟแจ้งแล้วว่า คนทั่วไปไม่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลส่วนนี้ได้ ทั้งนี้ หลังจากรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว จะเร่งนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม และจะมีมาตรการบทลงโทษออกมาอย่างไรนั้น จะแถลงข่าวให้ทราบต่อไป .
อ่านประกอบ:ทรูเสียใจ อ้างถูกแฮกข้อมูลบัตรปชช.-กสทช.เรียกชี้แจงด่วน