ยายวัย 87 สุดฮิปกับ"จี๊ป"คู่ใจ...ขอลูกหลานชายแดนใต้รักสามัคคี
วันที่ 13 เมษายนของทุกปี นอกจากจะเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย หรือ "วันสงกรานต์" ที่มีกิจกรรมรื่นเริงเล่นสาดน้ำกันสนุกสนานแล้ว ยังเป็นวัน "ผู้สูงอายุแห่งชาติ" ด้วย
รัฐบาลประกาศให้วันนี้เป็น "วันผู้สูงอายุ" เพื่อให้สังคมช่วยกันตระหนักและเห็นความสำคัญของผู้สูงวัย โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันซึ่งประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ "สังคมผู้สุงอายุ" อย่างเต็มรูปแบบ
แต่คนที่อยู่ในวัย "ไม้ใกล้ฝั่ง" ก็ไม่จำเป็นต้องนั่งจับเจ่ารอลูกหลานอยู่ที่บ้านเพียงลำพังอย่างเดียว อย่าง คุณยายเหี้ยง การะเกตุ ชาวตำบลตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา แม้จะอยู่ในวัยย่าง 87 ปีแล้ว แต่คุณยายก็ยังขับรถจี๊ปอย่างคล่องแคล่วไปทำสวนยางพารา ไม่ต่างอะไรกับ "คาวเกิร์ล" ในหนังฮอลลีวูด
รถจี๊ปคันนี้ต้องบอกว่าเป็น "จี๊ปคู่ใจ" เพราะขับมาตั้งแต่คุณยายอายุ 20 ปี หรือกว่า 66 ปีมาแล้ว แต่กาลเวลาดูจะไม่ได้มีอิทธิพลเหนือทั้งคุณยายและรถจี๊ปคู่กาย เพราะคุณยายยังแข็งแรง เดินเหินคล่องแคล่ว แถมยังทำสวน ยกของหนักได้ไม่ต่างจากคนหนุ่มสาว เช่นเดียวกับรถจี๊ปคันเก่าที่เป็นดั่งเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ บิดกุญแจสตาร์ทได้ก็เครื่องติดปั๊บ ไม่เคยเกเรให้ต้องปวดหัว ร้อนใจ
"ยายเกิดที่ตาชี ที่นี่มีรถจี๊ปแล้วตอนที่ยายเด็กๆ ยายแต่งงานตอนอายุ 20 ปี ยายก็ซื้อรถจี๊ปขึ้นควนฟ้าเลย ที่นี่เป็นภูเขา ต้องใช้รถจี๊ปเข้าสวน ขนผลผลิตทางการเกษตรไปขาย" คุณยายเหี้ยง เล่าย้อนอดีตจากความจำที่ยังดีเยี่ยม
ตำบลตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา มีรถจี๊ปมากกว่า 200 คัน เพราะเมื่อก่อนแถวนี้มีการทำเหมืองแร่ ฝรั่งได้สัมปทานขุดแร่ ก็ซื้อรถจี๊ปเข้ามาขนแร่ เพราะอึด แรงดี ไม่กินน้ำมัน บ้างก็ว่าซื้อมาจากทหารญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ต่อมาภายหลังเหมืองปิด ก็เลยขายรถจี๊ปให้ชาวบ้านในราคาไม่แพงนัก ชาวบ้านแถบนี้ก็เลยซื้อเอาไว้ใช้ขนผลผลิตทางการเกษตรและขับเข้าสวนยาง สมรรถนะของรถดีกว่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อเสียอีก ดูจากรถจี๊ปอายุมากกว่า 60 ปีที่คุณยายขับ น่าจะยืนยันได้ว่าอึดจริงๆ
"ยายซื้อรถจี๊ปมาในราคา 1 หมื่นบาท ตอนนั้นแพงมาก ยางกิโลละ 30 สตางค์ เงิน 1 หมื่นบาทก็เหมือนเงินล้านตอนนี้ ยายยืมเขามา แล้วไปซื้อรถจี๊ปด้วยเงินสด แล้วค่อยผ่อนเขา พอลูกเข้าโรงเรียน อายุยาย 21 ปี ตอนเช้าๆ ยายจะขับรถจี๊ปไปส่งลูกที่โรงเรียนซึ่งอยู่ในตัวอำเภอยะหา ตอนนั้นที่ตาชีไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่ ทำให้เพื่อนบ้านที่ตาชีขอฝากลูกไปโรงเรียนด้วย ยายก็เลยรับส่งเด็กนักเรียนไปด้วย เสร็จก็จะขับเข้าสวนไปตัดยาง ถางป่า" คุณยายเล่าความหลังด้วยดวงตาเปี่ยมสุข
รถจี๊ปคันนี้เหมือนเกิดมาคู่บุญ แม้ว่าตัวคุณยายจะไม่รู้ประวัติที่แท้จริงของมันเลยก็ตาม...
"ยายไม่รู้หรอกว่ารถคันนี้ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร รู้แต่ว่ารถแบบนี้สมัยสงครามโลก ญี่ปุ่นเขาขับกันในสงคราม ส่วนยายขอแค่ขับไปสวนได้ก็พอ" คุณยายบอกตรงๆ และว่า "ที่นี่ใช้รถจี๊ปสะดวก เพราะเหมาะกับสภาพพื้นที่ ทั้งวิ่งบนถนน วิ่งขึ้นเขา เข้าป่าไปได้หมด ยายเลยชอบและรักรถคันนี้มาก"
ภูเขาที่คุณยายพูดถึง คือ "บูเก๊ะโต๊ะบีแด" ในภาษามลายู หรือ "ควนฟ้า" ในภาษาของชาวบ้านไทยพุทธ
ชีวิตในปัจจุบันของคุณยาย ลูกๆ ที่เคยขับรถจี๊ปไปส่งที่โรงเรียนนั้น เป็นข้าราชการและเกษียณกันหมดแล้ว ขณะที่สามียายก็จากไปก่อน แต่คุณยายก็ยังขับรถไปทำงานในสวนยางเหมือนเดิม
"แฟนเสียไปแล้ว ยายก็ไปคนเดียว ยายขับรถคันนี้ทุกวัน ยายถึงรักรถคันนี้มาก เพราะอยู่กับมันตลอด ทุกวันนี้ยายไม่ได้กรีดยาง แต่ยายก็จะขับเข้าไปในสวน ไปถางป่า ไปเก็บผลไม้ หน้าทุเรียนก็เก็บทุเรียน หน้าลองกอง หน้าเงาะ ก็เก็บลงมาขาย"
คุณยายเผยเคล็ดลับที่ทำให้แข็งแรง เดินเหินคล่องแคล่วไม่ต่างจากสาวๆ ว่า ยายไม่เคยอยู่เฉยๆ ไปทำงานทุกวัน ได้เจอเพื่อน ได้ออกกำลังกาย ก็เลยมีความสุข มีเพื่อน ทุกวันนี้ตอนเช้ายายจะขับรถจี๊ปเข้าสวนยาง เที่ยงๆ ก็กลับมานอนพัก พอบ่ายสองก็ขับรถเข้าสวนอีก ส่วนช่วงเทศกาลก็จะขับไปวัด ไปร่วมงานวัด ไม่ยอมอยู่บ้านเฉยๆ
"ยายขับรถทุกวัน 66 ปีแล้ว ทำงานทุกวัน ขับรถทุกวัน ไม่หยุด ไม่เบื่อ สนุกเวลาได้เข้าสวน วันไหนไม่เข้าเหมือนจะไม่สบาย" คุณยายบอกกลั้วหัวเราะ
อีกไม่นานนี้ คุณยายเหี้ยง กำลังจะมีงานใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม นั่นก็คือการพานักท่องเที่ยวขึ้นเขาโต๊ะบีแด หรือ "ควนฟ้า" ซึ่งทางอำเภอกำลังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ และมีแนวคิดใช้รถจี๊ปของชาวบ้านตาชี พานักท่องเที่ยวขึ้นภูเขา
"ถนนขึ้นควน (ภูเขา) ยังเป็นถนนแดงลูกรัง แต่ยายขับได้ เพราะขับทุกวัน สวนของยายก็อยู่บนควนฟ้า ต่อไปก็จะขับพานักท่องเที่ยวด้วย ถ้าไหวก็ขับ ถ้าไม่ไหวก็จะให้ลูกหลาน เพราะบ้านยายมีรถจี๊ป 5 คัน ทั้งของยายและของลูกหลาน ก็จะได้ช่วยกันขับพานักท่องเที่ยวขึ้นควน ตอนนี้ที่ตาชีกำลังพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน อนุรักษ์ท้องถิ่น ยายดีใจ ยายจะได้มีรายได้เพิ่ม ได้ทำงาน ลูกหลานยายก็จะได้มีรายได้ ชาวบ้านที่นี่ก็จะมีรายได้"
คุณยายเหี้ยง บอกว่า ตำบลตาชีจัดเป็นตำบลสันติสุข เพราะคนพุทธกับมุสลิมรักกัน
"ยายมีเพื่อนเป็นมุสลิมเยอะ ทำสวนด้วยกัน อยากให้ทุกคนอยู่เหมือนคนตาชี มีความสามัคคีและรักกัน เขาจะทะเลาะกันอย่างไรเราไม่สนใจ เราอยู่ด้วยกันได้" คุณยายบอก
ในโอกาสที่วันนี้เป็นวันผู้สูงอายุ คุณยายฝากความในใจไปถึงลูกหลาน ไม่ใช่แค่ลูกหลานของยาย แต่หมายถึงลูกหลานทุกศาสนิกที่ชายแดนใต้ และคนไทยทั้งประเทศ
"วันผู้สูงอายุไม่ขออะไร ขอให้ลูกหลานมีความสุข ขอให้ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างสามัคคี ทั้งลูกหลานยายทุกคนที่อยู่สามจังหวัด ทั้งพุทธและมุสลิม ขอให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสงบ ชีวิตสงบ"
เป็นคำฝากจากคุณยายสุดฮิปแห่งดินแดนปลายสุดด้ามขวาน คุณยายเหี้ยง การะเกตุ กับรถจี๊ปคู่ใจ...