สตง.ชี้3บ.กลุ่มเดียวส่อฮั้วสร้างโดมร.ร.ชายแดนใต้-ผอ.สพม.15 อาจเข้าข่ายจัดประมูลไม่โปร่งใส

'โกศล ประทุมชาติ' ที่ปรึกษารมว.ศึกษาฯ แจงความคืบหน้าตรวจสอบคดีก่อสร้างโดมโรงเรียน 11 ชายแดนใต้ เผยชื่อ 3 บริษัทรับงานกลุ่มเดียวกัน เข้าประมูลทำสัญญาก่อสร้าง ชี้ ผอ. สพม. 15 อาจจัดประมูลไม่โปร่งใส ส่อโดนโทษวินัย

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า จากกรณี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีสำนักงานเขตพื้นที่การเรียนรู้ม (สพม.) 15 ใช้เงินงบประมาณเหลือจ่ายรายปีงบประมาณ 2559 ของที่ทำการคณะกรรมการการเรียนรู้ขั้นต้น (สพฐ.) วงเงิน 62 ล้านบาท เพื่อใช้ก่อสร้างหลังคาปกคลุมลานสารพัดประโยชน์ หรือที่เรียกกันทั่วๆไปว่า โดม ของ 11 โรงเรียนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ล่าสุด พล.ท.โกศล เปิดเผยสำนักข่าวอิศราถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาทางสำนักงานงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ลงไปตรวจในพื้นที่ โดยสุ่มเอา 4 โรงเรียนจาก 11 โรงเรียน ที่ได้รับงบประมาณรวม 62 ล้านบาท และได้ข้อสรุปว่าทั้ง 4 โรงเรียนนี้ราคาจ้างสูงกว่าราคาที่กำหนดไว้ตามเกณฑ์ และจากการตรวจสอบของ สตง. ยังพบว่าบริษัทที่ประมูลได้สัญญาการก่อสร้างโดม 3 บริษัทจากที่มีบริษัทเข้าประมูลทั้งหมด 11 บริษัทมี 2 บริษัท เจ้าของบริษัทเป็นคนเดียวกัน ส่วนอีก 1 บริษัท เจ้าของมีความเชื่อมโยงกับ 2 บริษัทก่อนหน้านี้

"ที่สำคัญ ทั้ง 3 บริษัท ไม่ได้ประกอบธุรกิจด้านการก่อสร้าง แต่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ เพียงแต่การจดทะเบียนของบริษัทอาจจะมีลักษณะครอบคลุมถึงการประมูลก่อสร้างโดมได้"  พล.ท.โกศลระบุ 

พล.ท.โกศล กล่าวต่อว่า ในเรื่องการประมูลราคาการก่อสร้างโดมก็ยังพบปัญหา เรื่องสถานที่จัดการประมูล เพราะแทนที่จะใช้โรงเรียนที่จะก่อสร้างโดมเป็นพื้นที่ประมูล กลับนำใช้พื้นที่ สพม.15 เรียกบริษัทที่เข้าประมูลมาประมูลการก่อสร้างกัน โดยมีการตัดเอาบริษัทอื่นๆออก เหลือแค่ 3 บริษัท ที่มีความเชื่อมโยงกัน  ดังนั้นต้องเรียกผู้อำนวย สพม.15 เข้ามาสอบถามในกรณีนี้ด้วย เพราะการกระทำเช่นนี้มีความผิดอาจต้องโทษทางวินัยได้

" ในตอนนี้การทำงานของคณะกรรมการสอบสวนได้สอบปากคำไปแล้วมากกว่า 100 ปาก แต่เป็นการสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนและครูในพื้นที่ แต่ว่ายังไม่มีการไปสอบถามกับผู้อำนวยการ สพม.15 คาดว่าหลังจากเทศกาลสงกรานต์น่าจะเห็นความชัดเจนในการดำเนินงานมากขึ้น" ที่ปรึกษารัฐมนตรีศึกษาระบุ