สอบข้อเท็จจริง7วัน-พฤติการณ์ชัดเข้ากรุสำนักนายกฯ!ครม.ไฟเขียวมาตรการปราบทุจริตใหม่คสช.
ครม. ไฟเขียวมาตรการปราบทุจริตใหม่ คสช. ขีดเส้นหน่วยราชการสอบข้อเท็จจริงนับแต่ได้รับเรื่องร้องเรียนให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน พบพฤติการณ์ชัดไม่ต้องรอชี้มูลย้ายเข้ากรุสำนักนายกฯ ทันที หากไม่รู้ไปไหนให้ติดต่อ 'ศอตช.' จัดการให้ สั่งคุ้มครองพยานให้ข้อมูลเต็มที แต่พบจงใจให้ข้อมูลใส่ร้ายบิดเบือนเล่นงานคนร้องด้วย -บิ๊กตู่ สั่งเอาจริง มีอยู่100 ตำแหน่งให้ย้ายไปพักไว้ได้

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2561 ได้มีมติรับทราบมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการ คสช.นำเสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่กรณีที่มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ส่วนราชการต้นสังกัดดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และรายงานผลการพิจารณาต่อหัวหน้าส่วนราชการและรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อรับทราบทันที และให้พิจารณาดำเนินการทางวินัยหรือทางอาญาโดยเร็ว ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
ในกรณีที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ามีเหตุน่าเชื่อถือ แม้ผลการตรวจสอบยังไม่สรุปความผิดชัดเจนถึงขั้นชี้มูลความผิด ให้เสนอย้ายหรือโอนไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าไม่ทราบว่าจะให้ไปอยู่ที่ไหน ให้ติดต่อศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ดำเนินการให้
สำหรับกรณีที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีหลักฐานควรเชื่อได้ว่าสามารถสรุปความผิดได้ชัดเจนถึงขั้นชี้มูลความผิด ให้ส่วนราชการต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยต่อราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และอาจให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐผู้นั้น ออกจากราชการหรือออกจากตำแหน่งได้ตามความเหมาะจำเป็น ในกรณีพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางอาญาด้วยให้ส่งเรื่องให้หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบเพื่อพิจารณาดำเนินคดีโดยทันที และให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดให้มีมาตรฐานคุ้มครองพยานหรือผู้ให้ข้อมูลหรือเบาะแสในการตรวจสอบอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้รับข้อมูลและหลักฐานในการดำเนินการต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตประพฤติมิชอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ในกรณีที่ตรวจสอบพบว่ามีการจงใจให้ข้อมูลเพื่อใส่ร้ายหรือบิดเบือนข้อมูลเพื่อให้มีการดำเนินการที่เป็นผลร้ายต่อบุคคลอื่นให้พิจารณาดำเนินการลงโทษบุคคลดังกล่าวอย่างเด็ดขาดด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้เอาจริงเอาจังกับมาตรการนี้ และปัจจุบันมีอยู่100 ตำแหน่งให้ย้ายไปพักไว้ได้

