อบจ.โคราช สบช่อง สถ. ปล่อยผีใช้เงินสะสมเกลี้ยงคลังซอยงบทำถนนยาง440ล.-จี้บิ๊กตู่สอบด่วน
'อบจ.โคราช' สนองตอบนโยบายกรมส่งเสริมฯ เปิดทางใช้เงินสะสมอปท.ทำถนนยางพารา สบช่องชงเรื่องอนุมัติพรวด 240 โครงการ 440 ล้าน กลุ่มภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน ชี้พิรุธเร่งรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จ20 เม.ย.นี้ ซอยงบต่ำกว่า 2 ล้านเพียบ 153 โครงการ หวั่นถลุงหมดคลัง เกิดปัญหาไม่โปร่งใส ร่อนหนังสือถึง 'พล.อ.ประยุทธ์' สั่ง 'สตง.-ป.ป.ช.' ลงพื้นที่ตรวจสอบด่วน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ผลจากการที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กำหนดนโยบายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถนำเงินสะสมของอปท.ออกมาใช้จ่ายในกรณีการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานของประเทศได้ โดยเฉพาะการทำถนนที่กำหนดให้ใช้ส่วนผสมของยางพาราด้วย ส่งผลทำให้ อปท. หลายพื้นที่ทั่วประเทศ เริ่มมีการทำเรื่องขออนุมัติให้มีการจ่ายขาดเงินสะสมเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงานโครงการต่างตามนโยบายดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ว่ามีความเร่งรีบ และส่อว่าจะมีความไม่โปร่งใส่เกิดขึ้น เมื่อมีการนำนโยบายดังกล่าวไปใช้ทำเรื่องขออนุมัติจ่ายเงินสะสมจำนวนกว่า 440 ล้านบาท หรือคิดเป็น100% ของเงินสะสมที่มีอยู่ทั้งหมด มาทำโครงการถนนยางพารา จำนวน 240 โครงการ พร้อมกันทันที
โดยมีการกำหนดมูลค่างานในโครงการให้มีวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาทจำนวนมาก เพื่อให้สามารถใช้วิธีการสอบราคาผู้รับเหมาได้ และเร่งรัดการดำเนินการจัดซื้อจ้างให้แล้ว เสร็จภายในวันที่ 20 เม.ย.2561 ทั้งที่ ตามนโยบายของกรมส่งเสริมฯ กำหนดว่าในช่วงหลังพ้นวันที่ 20 เม.ย.2561 ยังคงสามารถดำเนินการตามนโยบายเรื่องยางพาราได้ แต่ต้องใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างปกติที่กำหนดไว้ในระเบียบราชการ
แหล่งข่าวจากภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2561 ที่ผ่านมา ทางกลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแสดงความห่วงใยต่อปัญหาเรื่องนี้
ระบุว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2561 ที่ผ่านมา สภาอบจ.นครราชสีมา ได้มีการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 1 พิจารณาวาระสำคัญในการอนุมัติจ่ายขาดเงินสะสม 440 กว่าล้านบาท ในการจัดทำโครงการทำถนนโดยใช้ยางพาราจำนวน 240 โครงการ พร้อมเร่งรัดการดำเนินงานขั้นตอนจัดซื้อจ้างโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 20 เม.ย.2561 นี้
แบ่งเนื้องานออกเป็น 4 ส่วน คือ วงเงิน10 ล้าน จำนวน 2 โครงการ, วงเงิน 2 ล้านบาทขึ้นไปจำนวน 15 โครงการ, วงเงิน5 แสนบาท ขึ้นไป ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 153 โครงการ และวงเงินที่ต่ำกว่า 5 แสนบาท ลงมาจำนวน 70 โครงการ
"ทางกลุ่มฯ มีความห่วงใยว่าการเร่งรีบดำเนินโครงการในลักษณะดังกล่าว อาจส่งผลทำให้เกิดช่องโหว่ความไม่โปร่งใสในการดำเนินงานโครงการขึ้นได้ และการนำเงินจำนวน 440 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเงินเกือบ 100% ของเงินสะสมที่มีอยู่ทั้งหมดมาใช้ หากมีปัญหากรณีภัยพิบัติความรุนแรงในพื้นที จะมีปัญหาเรื่องการจัดหางบประมาณมาใช้ช่วยเหลือประชาชน ทางกลุ่มฯ จึงขอให้พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้หน่วยงานตรวจสอบอย่างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน เพื่อหาทางระงับยับยั้งความเสียหายจากการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานโครงการนี้ต่อไป"แหล่งข่าวระบุ