ทอท.งานเข้า! ดีเอสไอลุยสอบ 2 โครงการรวด จ้างBusGate ภูเก็ต-ซื้อเครื่องตรวจระเบิด3.7พันล.
'ดีเอสไอ' ลุยสอบ 2 โครงการใหญ่ ทอท. จ้างเอกชนต่อเติม Bus Gate สนามบินภูเก็ต ไม่เปิดประกวดราคา-จัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดพร้อมระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า 3.7 พันล้าน จี้ผู้บริหารส่งเอกสารหลักฐานตรวจสอบ มอบเจ้าหน้าที่ให้ปากคำ 20 มี.ค.นี้
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยนำเสนอข่าวข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการก่อสร้างอาคารที่พักคอยผู้โดยสารเครื่องบินรอขึ้นรถบัสรับ-ส่ง (Bus Gate) สนามบินภูเก็ต ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ที่ถูกระบุว่ามีการว่าจ้างเอกชนเข้ามาทำงานโดยไม่ผ่านการประกวดราคาและไม่ได้ทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร อาจเข้าข่ายการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ. 2542
ขณะที่นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ชี้แจงข้อเท็จจริงสำนักข่าวอิศรา โดยยอมรับว่า งานก่อสร้างอาคาร Bus Gate ไม่ได้มีการประกวดราคาและไม่ได้ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร เนื่องจากเป็นงานที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องเพิ่มเติมจากสัญญาเดิมในส่วนของโครงสร้าง จึงต้องใช้ผู้ก่อสร้างรายเดียวกับที่ก่อสร้างรากฐานเดิมทำงานต่อ (อ่านประกอบ: ทอท.รับให้'ซิโน-ไทย 'สร้างBusGate สนามบินภูเก็ตไม่ทำสัญญาจ้างจริง -เหตุเป็นงานส่วนเพิ่มเติม)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้ทำหนังสือแจ้งถึงผู้บริหาร ทอท. เพื่อขอความร่วมมือให้จัดส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ได้แก่ ขั้นตอนการขออนุมัติจัดจ้าง การกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะ หลักเกณฑ์รายละเอียดของการว่าจ้าง การพิจารณาคุณสมบัติของผู้รับจ้าง การส่งมอบพื้นที่ ส่งมอบงาน การตรวจรับงาน ประกอบกับกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ รวมทั้งเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมรับรองความถูกต้องให้คณะพนักงานสืบสวนภายในวันที่ 23 มี.ค.2561 นี้
ขณะที่แหล่งข่าวจาก ดีเอสไอ เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า นอกจากการเรียกเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างอาคารที่พักคอยผู้โดยสารเครื่องบินรอขึ้นรถบัสรับ-ส่ง (Bus Gate) สนามบินภูเก็ต ดังกล่าวแล้ว ดีเอสไอ ยังได้ทำหนังสือแจ้งให้ผู้บริหาร ทอท. มอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและระบบตรวจจับวัตถุระเบิด โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 3,798,716,176.38 บาท เข้าให้ถ้อยคำและส่งมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบการตรวจสอบโครงการนี้ด้วย ภายในวันที่ 20 มี.ค.2561 นี้ หลังจากได้รับการร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสในการประมูลงานโครงการนี้เช่นกัน
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สำหรับงานจัดซื้อระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและระบบตรวจจับวัตถุระเบิด วงเงิน 3.7 พันล้านบาทดังกล่าว เคยถูกตั้งข้อสังเกตในประเด็นเรื่องการเสนอราคาประมูลงานของเอกชนรายหนึ่ง ที่เสนอราคางานสูงกว่าราคากลางจำนวน 300 ล้านบาท ทำให้ถูกมองว่าขัดวิสัยของผู้เสนอราคาทั่วไป ที่โดยปกติการเสนองานหากต้องการจะชนะการประมูลงาน จะต้องเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสเป็นผู้ชนะ