ศาลฎีกาฯฟันซ้ำ นักการเมือง จ.สตูล ซุกหนี้ บัญชีเงินฝาก มอเตอร์ไซค์ 12 คัน
ศาลฎีกาฯเชือดรอบ 2 - ส.อบจ.สตูล จงใจซุกบัญชีเงินฝาก มอเตอร์ไซค์ 12 คัน หนี้สิน 3 รายการ สั่งจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รับสารภาพ รอการลงโทษ 1 ปี ก่อนหน้า รับตำแหน่งสมัยแรก โดนมาแล้ว 1 คดี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า นายจำรูญ ดีเสาวภาคย์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล (ส.อบจ.สตูล) ผู้คัดค้าน จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี จำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
คำพิพากษาระบุว่า นายจำรูญ เข้าดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2555 ปฏิญาณตนเพื่อเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2555 และดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบัน ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2557 ลงวันที่ 25 ธ.ค.2557 ผู้คัดค้าน ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งต่อผู้ร้องในวันที่ 31 ส.ค.2555 แต่ไม่แสดงรายงานเงินฝากของผู้คัดค้านและคู่สมรสหลายบัญชี รถจักรยานยนต์ของตนและคู่สมรส รวม 12 คัน รายการเงินเบิกเกินบัญชีของคู่สมรส 2 รายการ และรายการหนี้เงินกู้ของผู้คัดค้าน 1 รายการ ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินให้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้ร้องแต่ฟังไม่ได้ว่ามีเหตุผลอันสมควร ต่อมาในวันที่ 6 ก.ย.2560 ในคดีหมายเลขดำที่ อม. 126/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 181/2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ส.อบจ.สตูล ครั้งที่ 2 ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 6 ก.ย.2560 ซึ่งเป็น วันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย และห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 20 เม.ย.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ส.อบจ.สตูล ครั้งที่ 1 ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง
ผู้คัดค้านชี้แจงว่า บัญชีเงินฝากไม่ได้ใช้งาน ไม่มีการเคลื่อนไหวทางบัญชี สมุดบัญชีเงินฝากถูกขโมย ผู้คัดค้านและคู่สมรสทำธุรกิจขายรถจักรยานยนต์เงินผ่อน ลูกค้าผ่อนชำระ ครบถ้วนแล้วแต่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน เงินเบิกเกินบัญชีของคู่สมรสใช้ในการทำธุรกิจ โครงการบ้านจัดสรร เงินกู้ยืมเป็นการกู้ยืมกันระหว่างญาติพี่น้องและไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ซึ่งคำชี้แจง ผู้คัดค้านไม่น่าเชื่อถือ เป็นการง่ายแก่การกล่าวอ้าง ไม่มีเหตุผลเพียงพอให้เชื่อได้ว่าผู้คัดค้านไม่ทราบว่า มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้คัดค้านไม่ใส่ใจ ต่อการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ อันเป็นมาตรการ ในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐ
จึงฟังได้ว่า ผู้คัดค้านจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่ง มีผลห้ามมิให้ผู้คัดค้าน ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง ส่วนที่ผู้ร้องขอให้ผู้คัดค้าน พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันนั้น ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ดังกล่าวแล้วนับแต่วันที่ 6 ก.ย.2560 จึงไม่จำต้องมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งอีก นอกจากนี้ผู้คัดค้านเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 การกระทำของผู้คัดค้าน จึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสาร ประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ด้วย
พิพากษาว่า นายจำรูญ ดีเสาวภาคย์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.อบจ.สตูล ห้ามมิให้ ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.221/2560- 6 ธ.ค.2560)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ในคดีแรก นายจำรูญ ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ส.อบจ. สตูล ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2551 โดยปฏิญาณตนเพื่อเข้ารับหน้าที่ ต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2551 พ้นจากตำแหน่งวันที่ 20 เม.ย.2555 ต่อมา ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.สตูล ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2555 และดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบันตามคำสั่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2557 ลงวันที่ 25 ธ.ค.2557
ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 1 ผู้คัดค้านยื่นบัญชีฯ ต่อ ผู้ร้อง (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี แต่การยื่นบัญชีฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง ผู้คัดค้านไม่แสดงหรือปกปิดรายการหนี้เงินกู้จาก น.ส. จุรี แซ่หลี และ น.ส.กาญจนัษฎ์ ดีเสาวภาคย์ รวมจำนวน 1,500,000 บาท กรณีพ้นจากตำแหน่งผู้คัดค้านไม่แสดงหรือปกปิดรายการ หนี้เงินกู้จาก น.ส. จุรี แซ่หลี และ น.ส. กาญจนัษฎ์ ดีเสาวภาคย์ รวมจำนวน 500,000 บาท และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ผู้คัดค้านไม่แสดงหรือปกปิดรายการหนี้เงินกู้จาก น.ส.จุรี แซ่หลี และ น.ส.กาญจนัษฎ์ ดีเสาวภาคย์ รวมจำนวน 500,000 บาท และรายการหนี้เงินกู้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรของคู่สมรส รวมจำนวน 794,414 บาท ป.ป.ช. มีหนังสือแจ้งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการหนี้สินดังกล่าวแล้ว ผู้คัดค้านชี้แจงว่า กรณีหนี้เงินกู้ของตนเป็นการกู้ยืมโดยไม่มีหลักฐาน ส่วนกรณีหนี้เงินกู้ของคู่สมรส เนื่องจากผู้คัดค้าน ไม่ได้พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับคู่สมรสและไม่ได้ติดต่อกันจึงไม่ทราบรายละเอียด
ศาลฎีกาฯพิพากษาว่านายจำรูญ จงใจยื่นบัญชีฯเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรง ตำแหน่ง ส.อบจ.สตูล ครั้งที่ 1 ให้พ้นจากตำแหน่ง ส.อบจ.สตูล ครั้งที่ 2 ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 6 ก.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 20 เม.ย.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ส.อบจ.สตูล ครั้งที่ 1 กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 181/2560- 6 ก.ย. 2560) (อ่านประกอบ: กรณีศึกษา นักการเมืองสตูล ซุกหนี้ สตรี 2 คน 1.5 ล - เมีย 7 แสน ‘แยกอยู่คนละบ้าน’)
อ่านข่าวประกอบ: คู่แรกในประเทศ!ศาลฎีกาฯฟัน‘เจ๊หงส์’ที่ปรึกษา‘สมศักดิ์’ตามรอยสามี ยื่นบัญชีฯเท็จ