เผยหลักฐานสพฐ.ดึงงบนร.14ล.โปะซ่อมCCTV-ครูใต้ไม่กล้าใช้กลัวผิดซ้ำสอง
'ครูใต้' ปูดหลักฐาน 'สพฐ. 'ดึงงบนร.มัธยม 14ล. โปะซ่อมกล้องCCTV แทนริบหลักประกันสัญญาเอกชน แต่ล่าสุดไม่มีใครกล้าดำเนินการ เหตุกลัวผิดซ้ำสอง หลังจ่อโดนคดีอาญาปมทหารแทรกแซงรับงานไม่ตรงตามทีโออาร์ไปแล้ว พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ยันสั่งลุยตรวจเรื่องนี้เอง พบขรก.เข้าข่ายกระทำความผิด ส่งเรื่องป.ป.ช.สอบแล้ว
จากกรณีปรากฎข้อมูลว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินงานโครงการจัดซื้อกล้อง CCTV โรงเรียนในโครงการ Safe Zone School งบประมาณ 577 ล้านบาท ของ 12 เขตพื้นที่การศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และพบว่าเอกชนคู่สัญญาทำงานผิดตามสัญญาจ้างในทีโออาร์ที่กำหนดไว้ แต่สพฐ. กลับไม่ดำเนินการเรียกค่าเสียหายจากเอกชนคู่สัญญา ริบหลักประกันสัญญาจ้างงาน แต่ใช้วิธีการทำเรื่องขออนุมัติงบประมาณจำนวน 14 ล้านบาท ไปใช้ในการแก้ไขปัญหาซ่อมแซมเครื่องมือเอง นั้น (อ่านประกอบ : มีคลิปเสียงมัดปมทหารขู่ครูรับงาน! กลุ่มธรรมาฯจ่อยื่นบิ๊กตู่สอบรมต.ไม่ยับยั้งทุจริตCCTVใต้)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันข้อมูลจากตัวแทนครูร.ร.ในพื้นที่ภาคใต้ ที่ได้รับการติดตั้งกล้อง CCTV ในโครงการดังกล่าว ว่า ในช่วงเดือนก.พ.2561 ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหลายแห่ง ได้รับหนังสือแจ้งจากสพฐ. ว่า ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบประมาณปี 2561 แผนงานพื้นฐานด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ผลผลิตผู้จบการศึกษาภาคบังคับ กิจกรรมการจัดการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้นสำหรบโรงเรียนปกติ งบดำเนินงานเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการซ่อมระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ตาม โครงการ Safe Zone School ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้คณะทำงานดูแลรักษา ซ่อมบำรุง และการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบกล้อง CCTV กับหน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ระบุตัวเลขวงเงินใช้จ่ายอยู่ที่ 14,715,001 บาท (ดูเอกสารประกอบท้ายเรื่อง)
"อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่มีโรงเรียนใด กล้าใช้งบประมาณใหม่การดำเนินการซ่อมแซมกล้อง CCTV เพราะกลัวว่าจะผิดซ้ำสอง ต่อจากกรณีที่ตรวจรับงานไม่ตรงตามทีโออาร์จ้างไปแล้ว และมองว่า การตั้งงบประมาณดังกล่าว ของสพฐ. อาจจะขัดวัตถุประสงค์ของโครงการ เพราะเหตุที่กล้องชำรุดดังกล่าว เกิดจากการปฏิบัติงานไม่ตรงตามทีโออาร์ควรให้เอกชนเป็นผู้รับผิดชอบ ถ้าไม่ดำเนินการก็ต้องริบเงินหลักประกันสัญญามาแก้ไขแทน" ตัวแทนครูร.ร.ในพื้นที่ภาคใต้รายหนึ่งระบุ
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ในส่วนของกระทรวงศึกษาฯ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ปัญหาการจัดซื้อกล้อง CCTV ร.ร.ภาคใต้นั้น มีการร้องเรียนหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งตนในฐานะที่เป็นหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหา จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานรายงาน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ได้รับทราบแล้ว ซึ่ง รมว.ศธ.ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2560 กระทั้งเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2560 คณะกรรมการสืบสวนฯก็ได้สรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริงและรายงานเสนอต่อ รมว.ศธ.ว่ามีข้าราชการจำนวนหนึ่งเข้าข่ายกระทำความผิด และเห็นควรส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ดำเนินการ ขณะเดียวกันตนก็ได้ทำหนังสือไปถึงเลขาธิการ ป.ป.ช.เมื่อเดือนมกราคม 2561 ที่ผ่านมา เพื่อขอความร่วมมือให้เร่งรัดในการสอบสวนเอาผิดกับผู้กระทำความผิดดังกล่าวด้วย ขณะนี้ ป.ป.ช.ก็ยังไม่ได้เชิญตนไปให้ปากคำ แต่สิ่งที่เป็นข้อมูลที่ส่งไปให้ ป.ป.ช.นั้นครบถ้วน คิดว่า ป.ป.ช.กำลังดำเนินการอยู่