อัยการภาค 7 ตั้งคณะทำงานร่วมพิจารณาคดีเปรมชัย ล่าเสือดำป่าทุ่งใหญ่ฯ
สำนวนการสอบสวนคดีอาญา เปรมชัยล่าสัตว์ป่า ถึงมือสำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิแล้ว แจ้ง 9 ข้อหา ส่วน 'ทารุณกรรมสัตว์' พนักงานสอบสวน เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง ด้านสำนักงานอัยการภาค 7 ชี้คดีที่อยู่ในความสนใจ สั่งตั้งคณะทำงานร่วมพิจารณาคดี
วันที่ 13 มีนาคม นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชการตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาของสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ให้กับสำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ โดยนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 และนายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นผู้รับสำนวน
คดีระหว่าง นายวิเชียร ชิณวงษ์ ผู้กล่าวหา นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสี่คนว่า
1.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
3.ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
4.ร่วมกันมีไว้ในครอบครอง ซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
5.ร่วมกันช่วยซ้อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่า อันได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย
6.ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่า หรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
7.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
8.ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
9.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันสมควร
10.ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันควร
เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
ชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาที่ 1-9 แก่ผู้ต้องหาทั้งสี่แล้ว ผู้ต้องหาทุกคนให้การปฏิเสธ
ส่วนข้อกล่าวหาที่ 10 พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งสี่
พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนเสนอพนักงานอัยการ ดังนี้
1.เสนอเห็นควรสั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหาที่1-8 และเห็นควรสั่งฟ้องข้อหาที่ 8 เฉพาะข้อหา พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควร ส่วนข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากอาวุธปืนของกลางเป็นของนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ได้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย เห็นควรสั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่1 ในข้อหาร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพราะเห็นว่า การกระทไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย
2.เห็นควรสั่งฟ้องนายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 ตามข้อกล่าวหาที่ 1-9 ทุกข้อกล่าวหา และเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 2 -4 ในข้อหาร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพราะเห็นว่า การกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย
สำนักงานอัยการภาค 7 เห็นว่า คดีนี้ เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป ผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม สื่อมวลชนติดตามและนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองพิทักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ (NGO)ได้ติดตามการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นคดีสำคัญ เพื่อให้การพิจารณาคดีนี้เป็นไปโดยรอบคอบ รวดเร็ว และโปร่งใส นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาคดีนี้ ประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน นายทนง คะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงาน พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจบุรี คณะทำงาน และนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงานและเลขานุการ
เมื่อคณะทำงานพิจารณามีความเห็นเสนออธิบดีอัยการภาค 7 มีคำสั่งทางคดีเรียบร้อยแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดจะได้แถลงให้ทราบในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ วันนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสี่มาพร้อมสำนวน เนื่องจากผู้ต้องได้มีการฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้ว ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.34/2561 โดยจะครบฝากขังครั้งที่ 4 วันที่ 25 มีนาคม 2561