สำนักงานตำมั่วแห่งชาติ
ผมอ่านข่าว พ.ต.อ.กันตพงษ์ นิลขำ ผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอ บางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกย้ายไปเป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ด้วยความเห็นใจ
คุณกันตพงษ์เรียนจบได้รับปริญญาตรีทางรัฐประศาสนศาสตร์จาก โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 41 เมื่อปี พ.ศ.2531 หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อจน ได้รับปริญญาโททางรัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Kentucky State University สหรัฐอเมริกา และปริญญาเอกทางรัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Nothern Phillipines สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ทำให้คุณกันตพงษ์เป็นนายตำรวจคนหนึ่งในจำนวนไม่กี่คนที่ใช้คำว่า “ดอกเตอร์” นำหน้าชื่อได้
ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอบางบาล คุณกันตพงษ์ได้ทำให้สถานีตำรวจของตนกลายเป็นสถานีตำรวจดีเด่นทั้งในด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมและในด้านมวลชนสัมพันธ์ คุณกันตพงษ์ติดตามการดำเนินคดีของสถานีตำรวจบางบาลด้วยการไปเยี่ยมผู้เสียหายจนถึงบ้านด้วยตนเอง นอกจากนั้นยังริเริ่มมอบหมายให้นายตำรวจ ชั้นประทวนซึ่งมีความรู้จบปริญญาตรีสาขาต่างๆ ทำหน้าที่มวลชนสัมพันธ์ กวดวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และสอนกีฬาเทควันโดให้แก่ นักเรียนและเยาวชน ทำให้ตำรวจและเยาวชนใกล้ชิดกัน ซึ่งมีผลในการป้องกันอาชญากรรมและยาเสพติดให้โทษ
ผลงานของคุณกันตพงษ์ทำให้เขาได้รับรางวัลหลายรางวัลในปี 2561 เช่น รางวัล CEO Thailand Award 2018 สาขาผู้บริหารแห่งปี 2561 รางวัล สิงห์ทอง นักปกครองท้องถิ่นดีเด่นแห่งปี รางวัล CEO Global Awards 2018 สาขาข้าราชการทหารตำรวจ และยังมีกำหนดที่จะได้รับรางวัลข้าราช การพลเรือนดีเด่นของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและรางวัลคนไทยตัวอย่างในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ด้วย
ก่อนคุณกันตพงษ์ มีข้าราชการตำรวจนับไม่ถ้วนที่ถูกย้ายจากตำแหน่งที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการสืบสวนสอบสวนหรือปราบปราม ไปดำรงตำแหน่งที่มีหน้าที่ทางธุรการ ทั้งๆที่ผู้ถูกย้ายมีผลงานเป็นที่ยอมรับ และหากยังเลื่อนตำแหน่งไม่ได้และจำเป็นจะต้องย้าย ก็ควรย้ายไปดำรงตำแหน่งที่มีลักษณะงานอย่างเดียวกัน เพราะได้พิสูจน์แล้วว่ามีทักษะและ ความสามารถในงานด้านนั้น
หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งแต่งตั้งให้คุณกันตพงษ์ไปดำรงตำแหน่งผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติแล้ว คุณกันตพงษ์ได้ระบายรู้สึกของตนออกมาในหน้าของ ตนในเฟซบุ๊ก ตอนหนึ่งมีข้อความว่า “ผมจะขอเป็นบทเรียนให้น้องๆ และ นรต. (นักเรียนนายร้อยตำรวจ) ทุกคนเห็นว่าทำดีไม่มีผล สนองตอบนโยบาย ไม่มีความก้าวหน้า ช่วยเหลือประชาชนไม่มีความเจริญในอาชีพ ดังนั้นไม่ จำเป็นต้องทำงาน มีนาย มีเงิน มีตั๋ว ท่านจะได้ทุกอย่างในระบบนี้ ประเทศ ชาติจะอยู่อย่างไร อย่าหลอกพวกผม อย่าหลอกน้องผมให้ทำงานให้องค์กร ในเมื่อทำแล้วเป็นแบบนี้ นายไม่ผิด ผิดที่ผมเข้าหานายไม่เป็น”
อันที่จริงเป็นดุลพินิจและอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะ มีคำสั่งแต่งตั้งคุณกันตพงษ์หรือนายตำรวจคนใดจากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบาย และเมื่อเป็นคำสั่ง ผู้รับคำสั่งก็ ต้องปฏิบัติตาม แต่ตามหลักการบริหารบุคลากรนั้น การแต่งตั้งข้าราชการ ย่อมต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ที่สำคัญคือความรู้ความสามารถและความ เหมาะสมกับงานในตำแหน่ง เมื่อคุณกันตพงษ์ได้พิสูจน์แล้วว่า เขามีความ รู้ความสามารถและประสบความสำเร็จในการบริหารสถานีตำรวจที่เขา เป็นผู้กำกับการ ถ้าจะย้ายคุณกันตพงษ์ ตำแหน่งใหม่ของเขาก็ควรจะเป็น ตำแหน่งที่เขาจะได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ตนถนัดและเคยทำสำเร็จมา แล้วต่อไปอีก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีทั้งคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจที่กำกับดูแลการบริหารงานบุคลากร ทั้งยังมีหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจที่วางไว้แล้วด้วย แต่ก็ปรากฏเสมอว่าข้าราชการตำรวจได้รับการแต่งตั้งโดยไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ใดๆทั้งสิ้น ทำให้น่าเชื่อว่ามีการวิ่งเต้นเข้าหาผู้ใหญ่ ใช้เส้นสาย หรือให้สินบน เพื่อ ให้ได้รับการแต่งตั้ง
ถ้าหากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปอีก ผู้ที่ไร้คุณภาพก็คงจะได้รับการ แต่งตั้งให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นๆ และในที่สุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็คง จะเต็มไปด้วยผู้บริหารหรือผู้บังคับบัญชาที่ไร้ความรู้ความสามารถ
ลองนึกดูว่าเมืองไทยจะมีสภาพอย่างไรถ้าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคือผู้บริหารคนหนึ่งที่ได้รับเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาแบบนี้
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก เอ ศิวดล