มั่นใจนั่งเก้าอี้เลขาฯสนง.ใหม่ได้! 'อติโชค' ลุยขอความธรรม ก.ศป.กรณี'ปิยะ'ล้มมติคกก.สรรหา
'อติโชค ผลดี' 1 ใน 3 ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเลขาธิการสนง.ศาลคนใหม่ ออกโรงทำหนังสือขอความเป็นธรรม ก.ศป. เป็นทางการ หลังถูก 'ปิยะ' สั่งล้มคกก.ชงชื่อ'จำกัด'ปาดหน้า ยันมีคุณสมบัติครบเหมาะสม ดำรงตำแหน่งได้ เคยถูกปธ.ชมหลายครั้ง ชี้มติเสียงส่วนใหญ่เลือกตนเองยังมีผลผูกพันอยู่ควร ทำให้ถูกต้องตาม กระบวนการ
จากกรณีเกิดปัญหาการสรรหาบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองคนใหม่ขึ้น ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2561 ที่ผ่านมา นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้ลงนามในคำสั่งยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง โดยอ้างมาตรา 78 วรรคสอง ตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ที่ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งเลขาธิการศาลปกครอง และเสนอคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ให้พิจารณาแต่งตั้ง
ภายหลังจากที่ในการประชุม ก.ศป. เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายปิยะ ได้เสนอชื่อ นายจำกัด ชุมพลวงศ์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลชั้นต้น ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกฯ ให้ที่ประชุม ก.ศป. พิจารณาแต่งตั้งเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง แทนชื่อ นายอติโชค ผลดี รองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง 1 ใน 3 ผู้สมัคร ที่ได้รับคะแนนเสียงข้างมากจากคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกฯ และถูกเสนอชื่อให้ที่ประชุม ก.ศป. พิจารณา
แต่ที่ประชุม ก.ศป. ไม่ยอมรับรายชื่อ นายจำกัด ชุมพลวงศ์ เนื่องจากเห็นว่าไม่ได้สมัครเข้ารับการพิจารณาด้วย ขณะที่คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกฯ ได้เสนอชื่อ นายอติโชค ผลดี มาแล้ว และยังไม่มีคำสั่งให้ยกเลิกกระบวนการสรรหาเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองที่แต่งตั้งไปแล้ว จึงทำให้ นายปิยะ ต้องลงนามในคำสั่งยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองดังกล่าว และพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ใหม่อีกครั้งนั้น (อ่านประกอบ : ชี้อำนาจเลือกอยู่ที่ ปธ.ศาลปค.สูงสุด! โฆษกรับ 'ปิยะ' สั่งล้มคกก.สรรหาเลขาฯสนง.ใหม่, เลือกเลขาฯสนง.ศาลปค.ใหม่วุ่น! ปิยะ สั่งล้มคกก.สรรหา ชงชื่อ'จำกัด'ปาดหน้า 'อติโชค', ชี้อำนาจเลือกอยู่ที่ ปธ.ศาลปค.สูงสุด! โฆษกรับ 'ปิยะ' สั่งล้มคกก.สรรหาเลขาฯสนง.ใหม่)
ล่าสุด แหล่งข่าวจากศาลปกครอง เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายอติโชค ผลดี รองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง 1 ใน 3 ผู้สมัคร เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้ทำหนังสือถึง คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) เพื่อขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการสรรหาเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองดังกล่าว โดยยืนยันว่าตนเองมีคุณสมบัติและมีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองได้
นายอติโชค ระบุว่า โดยข้อกฎหมาย มาตรา 78 วรรคสอง และมาตรา 78/1 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีศาลปกครอง พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2560 กำหนดให้การแต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองเป็นอำนาจของประธานศาลปกครองสูงสุดที่จะคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่ง โดยความเห็นชอบของ ก.ศป. ซึ่งอาจแต่งตั้งจากข้าราชการฝ่ายศาลปกครองหรือตุลาการศาลปกครองก็ได้ ทั้งนี้ กฎหมายมิได้กำหนดวิธีการคัดเลือกไว้แต่อย่างใด จึงขึ้นอยู่กับประธานศาลปกครองสูงสุดจะเป็นผู้พิจารณาคัดเลือก แต่มีข้อเท็จจริงปรากฏว่า การคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองครั้งนี้ ประธานศาลปกครองสูงสุดเลือกที่จะใช้วิธีการคัดเลือกโดยการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อทำหน้าที่พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ คุณธรรม จริยธรรม และมีความเหมาะสม ที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เพื่อเสนอต่อประธานศาลปกครองสูงสุด ก่อนประธานศาลปกครองสูงสุดเสนอขอความเห็นชอบต่อ ก.ศป. และคณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการจนกระทั่งเสนอชื่อตนเป็นบุคคลที่เห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง
อย่างไรก็ตาม แม้ข้อกฎหมายผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ จะเป็นเพียงการเสนอความเห็นเบื้องต้นเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของท่านประธานศาลปกครองสูงสุดก็ตาม แต่การที่ประธานศาลปกครองสูงสุดได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองย่อมผูกพันประธานศาลปกครองสูงสุดที่จะต้องนำความเห็นของคณะกรรมการฯ มาประกอบการพิจารณา หากไม่เห็นด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการฯ ก็ควรมีเหตุผลเพียงพอว่าเพราะเหตุใดจึงไม่เห็นด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการฯ แต่คำสั่งยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ดังกล่าวไม่ปรากฏเหตุผลที่ชัดเจนว่ายกเลิกเพราะเหตุใด
ประกอบกับแนวทางปฏิบัติที่ผ่านมาการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง (ตั้งแต่คนที่ 3 เป็นต้นมา) ประธานศาลปกครองสูงสุดในขณะนั้นได้เลือกใช้วิธีการคัดเลือกโดยการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่พิจารณาคัดเลือกและเสนอรายชื่อต่อประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานศาลปกครองสูงสุดได้นำรายได้นำรายชื่อนั้นเสนอขอความเห็นชอบต่อ ก.ศป. โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อแต่อย่างใด
" กระผมเชื่อโดยสุจริตว่าการดำเนินการคัดเลือกครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เพราะในประกาศรับสมัครระบุว่า เพื่อให้การดำเนินการตามคำสั่งของประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม และเพื่อให้ได้คนดีและมีความสามารถโดยแท้จริง โดยเปิดโอกาสให้ทั้งข้าราชการฝ่ายศาลปกครองและตุลาการศาลปกครองสมัครเข้ารับการคัดเลือกได้ อีกทั้งเชื่อว่าเมื่อประธานศาลปกครองสูงสุดมอบหมายให้คณะกรรมการฯ พิจารณาดำเนินการแล้ว จะยอมรับผลการพิจารณาดังกล่าวโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับที่เคยมีการปฏิบัติกันมาแล้วในอดีต ดังนั้น กระผมซึ่งเป็นข้าราชการฝ่ายศาลปกครองเห็นว่าตนเองมีคุณสมบัติตามที่กำหนดจึงยินดีเสนอตัวเป็นผู้เข้ารับการคัดเลือกเช่นเดียวกับตุลาการศาลปกครองอีกสองท่าน ซึ่งผู้สมัครทั้งสามได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกที่คณะกรรมการฯ กำหนดไว้จนเสร็จสิ้น และรอการประกาศผลการคัดเลือกดังกล่าวอย่างเป็นทางการ" นายอติโชค ระบุ
ผู้สมัครเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง รายนี้ ยังยืนยันว่า "กระผมเห็นว่าคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นตามภารกิจของคณะกรรมการ โดยได้พิจารณาและมีมติคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองฯ แล้ว มติหรือความเห็นของคณะกรรมการถือเป็นผลผลิตในการดำเนินการของคณะกรรมการจึงต้องมีสถานะความคงอยู่ แม้จะมีการยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ในภายหลังก็ตาม เว้นเสียแต่คณะกรรมการคัดเลือกจะได้มีมติยกเลิกมติเดิมซึ่งเป็นมติของคณะกรรมการโดยชอบดังกล่าวนั้น การยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ก็ไม่อาจมีผลต่อการยกเลิกกระบวนการหรือผลผลิตของคณะกรรมการที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วข้างต้น
"กระผมเคารพและเชื่อมั่นในความเป็นธรรมของคณะกรรมการ ซึ่งไม่ว่าผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ จะเป็นเช่นใด จะเสนอรายชื่อของผู้หนึ่งผู้ใดในจำนวน 3 คนกระผมยอมรับโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ และคิดว่าทุกคนก็ต้องยอมรับผลการพิจารณานั้น เนื่องจากเป็นความชอบธรรมที่ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติขององค์กร จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามข่าวสารของสื่อมวลชนว่า กระผมได้รับการคัดเลือกและเสนอรายชื่อจากคณะกรรมการฯ เสียงข้างมากจำนวน 6 ต่อ 1 แต่ต่อมาท่านประธานศาลปกครองสูงสุดกลับเสนอชื่อนายจำกัด ชุมพลวงศ์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองนครศรีธรรมราชต่อ ก.ศป. เพื่อให้แต่งตั้งเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ทั้งที่นายจำกัด ชุมพลวงศ์ มิได้เป็นผู้สมัครตามประกาศของคณะกรรมการฯ และมิใช่รายชื่อที่คณะกรรมการฯ เสนอ แม้จะมีการชี้แจงว่าประธานศาลปกครองสูงสุดมีอำนาจในการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งตามกฎหมายก็ตาม แต่เมื่อประธานศาลปกครองสูงสุดได้เลือกวิธีการคัดเลือกโดยการตั้งคณะกรรมการฯ มาดำเนินการแทนแล้ว ผลการดำเนินการของคณะกรรมการฯ ย่อมผูกพันประธานศาลปกครองสูงสุดตามที่ได้กล่าวถึงในข้อ 1. ประธานศาลปกครองสูงสุดจึงชอบที่จะดำเนินการตามวิธีการคัดเลือกไว้ให้เสร็จสิ้นก่อน หาก ก.ศป. ไม่เห็นชอบกับรายชื่อดังกล่าว ประธานศาลปกครองสูงสุดย่อมสามารถใช้ดุลพินิจตามที่เห็นสมควรว่าจะเสนอชื่อบุคคลใดต่อ ก.ศป. ตามมาตรา 78 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ต่อไป
นายอติโชค ยังยืนยันว่า ตนได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ปฏิบัติงานและผู้บริหารสำนักงานศาลปกครองมายาวนานรวมประมาณ 17 ปีเศษ โดยได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อให้การดำเนินงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครองสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นที่ประจักษ์ โดยมีประสบการณ์ในการบริหารงานสำนักงานศาลปกครอง และมีความรู้ความเข้าใจในระบบงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครองเป็นอย่างดี พร้อมที่จะให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของศาลปกครองอย่างเต็มที่ อีกทั้งไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ตลอดระยะเวลาที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ตนได้ดำเนินการตามผลยุทธศาสตร์ของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง รวมทั้งนโยบายของประธานศาลปกครองสูงสุดด้วยดีมาโดยตลอด มีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นในช่วงที่ตนปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมการดำเนินงานของศาลปกครองอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงเห็นว่า ตนเองมีคุณสมบัติและมีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง
นายอติโชค ยังยืนยันเพิ่มเติมว่า การที่ตนได้ทำหนังสือเรียนของความเป็นธรรมจาก ก.ศป. ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง แต่เป็นการขอความเป็นธรรมให้องค์กร คือศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง เพราะในส่วนตัวแล้วให้ความเคารพในตัวของประธานศาลปกครองสูงสุดตลอดมาและท่านก็ได้ให้ข้อแนะนำที่ดีในการทำงานของตนมาโดยตลอด และท่านได้ชื่นชมการทำงานของตนในที่ประชุมทั้งในส่วนของตุลาการและข้าราชการหลายครั้ง แต่เมื่อเรื่องกระบวนการคัดเลือกบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองได้ปรากฏออกสู่การรับรู้ของสาธารณชนแล้ว จึงทำให้ไม่สบายใจในเรื่องภาพลักษณ์ของศาลปกครอง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อไปได้ จึงขอความกรุณาจาก ก.ศป. ได้โปรดพิจารณาเรื่องนี้ด้วย
อ่านประกอบ: เหตุเกิดที่ศาลปกครอง(อีกแล้ว)