เทียบหลักฐาน "ฝ่ายความมั่นคง-ปอเนาะบากง" ปมโกงงบรัฐหนุนป่วนใต้
กลายเป็นประเด็นร้อนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ หลังจากฝ่ายความมั่นคงออกมาแถลงข่าวกล่าวหาผู้บริหารและครูโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม "บางแห่ง" มีพฤติการณ์ทุจริตงบอุดหนุนของรัฐ แล้วผันเงินไปหล่อเลี้่ยงขบวนการก่อความไม่สงบ ทั้งยังส่งฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
ข้อกล่าวหานี้ถือว่าร้ายแรงมาก ทำให้ล่าสุดผ่านมา 12 วัน ทางฝั่งผู้บริหารโรงเรียนได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อมูลทั้งหมด และจัดกิจกรรม "จิบน้ำชา" เพื่อชี้แจงเจ้าหน้าที่รัฐและผู้สนับสนุนโรงเรียน
ฝ่ายความมั่นคงตั้งประเด็นทุจริตงบ
สำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาที่ถูกฝ่ายความมั่นคงกล่าวหา คือ โรงเรียนบากงพิทยา หรือที่รู้จักกันในนาม "ปอเนาะบากง" ตั้งอยู่ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยเมื่อวันที่ 22 ก.พ.61 พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เปิดแถลงข่าวชี้แจงพยานหลักฐานด้วยตนเอง หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นและยึดหลักฐานต่างๆ ภายในโรงเรียนถึง 2 ครั้ง
ข้อกล่าวหาที่มีการแถลงข่าว ประกอบด้วย
1.แจ้งบัญชีจำนวนครูเท็จ โดยแจ้งว่ามีครู 121 คน และเบิกงบอุดหนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ เดือนละกว่า 700,000 บาท ปีละกว่า 8,000,000 บาท ทั้งๆ ที่มีครูจริงเพียง 74 คนเท่านั้น
2.จัดทำบัญชีเท็จเบิกค่าเสี่ยงภัยครู คนละ 3,500 บาทต่อเดือน ทำให้รัฐเสียหายเดือนละกว่า 160,000 บาท หรือราวๆ 1,900,000 บาท
3.จัดทำบัญชีนักเรียนเท็จ (หรือที่เรียกว่านักเรียนผี) แจ้งยอดนักเรียนมากกว่ายอดที่ศึกษาอยู่จริง เพื่อขอรับเงินอุดหนุนจากภาครัฐ คนละ 14,000 บาทต่อปี
ผ่องถ่ายปีละ 12 ล้านหล่อเลี้ยงผู้ก่อเหตุรุนแรง
การแถลงข่าวในวันนั้น พล.ต.จตุพร ยืนยันว่า ผู้บริหารและครูบางคนของโรงเรียนแห่งนี้ทุจริตเงินอุดหนุนจากรัฐรูปแบบต่างๆ ราวๆ ปีละ 12 ล้านบาท และผ่องถ่ายเงินจำนวนหนึ่งไปสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ โดยใช้สถานที่ของโรงเรียนเป็นแหล่งพักพิงและซุกซ่อนยุทโธปกรณ์ เชื่อมโยงกับเครือข่ายที่เรียกว่า "ทีมปัตตานี"
โดยกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้เคยก่อเหตุรุนแรงขนาดใหญ่หลายครั้ง เช่น วางระเบิดคาร์บอมบ์ที่ห้างบิ๊กซี ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.60 และปล้นรถกระบะ 6 คันเพื่อทำคาร์บอมบ์ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ปีเดียวกัน
ปอเนาะบากงแถลงโต้ทุกข้อกล่าวหา
ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 6 มี.ค. หลังจากฝ่ายความมั่นคงแถลงข้อกล่าวหามาได้สิบกว่าวัน ทางโรงเรียนบากงพิทยาได้จัดงาน "จิบน้ำชา" และได้เชิญผู้สนับสนุนโรงเรียน ตลอดจนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น นายอำเภอ และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (ส.ช.) จังหวัดปัตตานี เข้ารับฟังคำชี้แจง
ขณะเดียวกัน นายอุสมาน อับดุลมาแน ผู้รับใบอนุญาตจัดการเรียนการสอนโรงเรียนบากงพิทยา ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายความมั่นคงทั้งหมด สรุปประเด็นได้ดังนี้
1.โรงเรียนเบิกงบอุดหนุนเงินเดือนครูตามจริง จำนวน 47 คน ไม่ได้เบิก 121 คนตามที่ฝ่ายความมั่นคงกล่าวหา
2.โรงเรียนจัดทำบัญชีเบิกค่าเสี่ยงภัยตรงตามจำนวนครูที่สอนอยู่จริง จึงไม่ได้ทำให้รัฐเสียหาย
3.โรงเรียนได้เงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนตามอัตราที่รัฐบาลกำหนด ไม่มีการแจ้งชื่อนักเรียนผี
นายอุสมาน บอกด้วยว่า โรงเรียนยังมีสภาพเป็นมูลนิธิ ไม่เคยสิ้นสภาพ และยังมีนักเรียนเพิ่มขึ้นตลอด จากร้อยกว่าคนในปี 2510 เพิ่มเป็นกว่า 1,200 คนในปีการศึกษาปัจจุบัน
แจงยิบงบอุดหนุนทุกหมวด
สำหรับเนื้อหาในแถลงการณ์ มีบางช่วงบางตอนชี้แจงรายละเอียดการรับเงินอุดหนุนจากรัฐในหมวดต่างๆ ดังนี้
"ในปี 2560 โรงเรียนบากงพิทยาเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียนทั้งสิ้น 1,207 คน มีครูสามัญและครูสอนศาสนา 87 คน บุคลากร 17 คน คณะกรรมการบริหาร 10 คน และกรรมการมูลนิธิ 7 คน รวมทั้งสิ้น 121 คน จากข้อมูลพื้นฐานนี้จึงได้รับอนุมัติเงินอุดหนุนจากรัฐ แบ่งเป็น เงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนในแต่ละระดับตามอัตราที่กำหนดไว้ รวมทั้งสิ้น 1,453,946.28 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการในโรงเรียน เช่น ค่าจัดกิจกรรมพัฒนานักเรียน, ค่าสาธารณูปโภค, ค่าสื่อการเรียนเรียนการสอน, ค่าอุปกรณ์, ค่าก่อสร้างอาคารสถานที่ ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาครูและบุคลากร"
"นอกจากนั้นยังมีเงินอุดหนุนเงินเดือนครูที่ได้รับการบรรจุในอัตราของโรงเรียนตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด เป็นครูผู้สอน 44 คน และครูบริหาร กับผู้บริหารโรงเรียน 3 คนรวม 47 คนเท่านั้น ไม่ใช่เบิก 121 คนตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด"
"ส่วนข้อกล่าวหาการจัดทำบัญชีเท็จเบิกค่าเสี่ยงภัยครู ข้อเท็จจริงเงินค่าเสี่ยงภัยสำหรับครูยึดตามเกณฑ์จำนวนนักเรียน คือ นักเรียน 30 คนต่อครู 1 คน ทางโรงเรียนมีนักเรียน 1,207 คน จะได้ครู 40 คน รวม 40 คนก็จะมีค่าเสี่ยงภัยคนละ 2,500 บาทต่อเดือน รวมแล้ว 100,000 บาทต่อเดือน ที่กล่าวหาว่าเบิกเงินเกินจริงทำให้รัฐเสียหาย จึงไม่เป็นความจริง"
"ข้อกล่าวหาการทำบัญชีนักเรียนเท็จ หรือเด็กนักเรียนผี ข้อเท็จจริงโรงเรียนบากงพิทยาดำเนินการตรวจสอบการมีตัวตนของนักเรียนทุกคนตามระบบและนโยบายของกระทรวงศึกษาฯ การแก้ปัญหารายชื่อเด็กซ้ำซ้อนก็ทำมาตลอดทุกปี หากตรวจพบกรณีเด็กซ้ำซ้อน ทางโรงเรียนก็ส่งเงินชดเชยคืนให้หน่วยงานต้นสังกัดทันที จึงไม่มีเด็กนักเรียนผีตามที่กล่าวหา"
วอนหยุดป้ายสี-รอแจงตำรวจ
ตอนท้ายของแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ทางโรงเรียนบากงพิทยาอยากขอความเป็นธรรมจากการถูกกล่าวหา และขอให้หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องได้กรุณาหยุดกล่าวหา ยุติการขุดคุ้ยการเชื่อมโยงกับเรื่องที่ไม่เป็นมงคล ไม่สร้างสรรค์ อันจะเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน
นายอุสมาน กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ตอนนี้ทางโรงเรียนยังไม่ได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยังรออยู่ว่าหมายจะมาวันไหน จะได้ไปชี้แจงเพื่อให้สังคมได้รับทราบความจริง
ตำรวจรอหลักฐานเพิ่มจากฝ่ายทหาร
สำหรับความคืบหน้าการแจ้งความดำเนินคดี ปรากฏว่าหลังการแถลงข่าว ฝ่ายกฎหมายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หนองจิก เอาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุตัวว่าผู้บริหารหรือครูคนใดที่เกี่ยวข้องบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม
พ.ต.อ.ฐมณ์พงศ์ เพ็ชรพิรุณ ผู้กำกับการ สภ.หนองจิก กล่าวว่า กรณีโรงเรียนบากงพิทยา ฝ่ายกฎหมายของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีคณะผู้บริหารโรงเรียนบากง ยังไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็รับแจ้งความเอาไว้ หลังจากนี้ฝ่ายที่กล่าวหาต้องนำเอกสารและพยานหลักฐานมามอบให้ตำรวจ เพื่อชี้ว่าผู้บริหารคนใดบ้างที่มีพฤติกรรมทุจริต และทุจริตอย่างไร
"เห็นว่ามีพยานหลักฐานข้องข้างเยอะ ฝ่ายกฎหมายของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าอยู่ระหว่างคัดแยกเอกสาร ตอนนี้ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้เรียกใครมาสอบปากคำ หากได้หลักฐานจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็จะส่งหมายเรียกไปผู้ถูกกล่าวหาเข้าให้ปากคำต่อไป ฉะนั้นในขั้นตอนนี้จึงยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหากับใคร" ผู้กำกับการ สภ.หนองจิก กล่าว
------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 นายอุสมาน ออกโรงชี้แจง
2 แถลงการณ์ของทางโรงเรียน
อ่านประกอบ :
ชำแหละหลักฐานมัด "ผู้บริหาร-ครู" โรงเรียนบากงฯ ทุจริตงบรัฐหนุนป่วนใต้!
ผู้บริหารโรงเรียนบากงฯ ออกโรงแจงไม่รู้เรื่องหนุนป่วนใต้ ยันเปิดสอนต่อ!