รองโฆษกศาลปกครอง ชี้ป้าทุบรถ เป็นคดีแรกที่ใช้โทษปรับ-อาจโดนเพิ่มเงินถ้ายังฝ่าฝืนคำสั่ง
ไม่ใช่การฟ้องบุคคล รองโฆษกศาลปกครอง ชี้ป้าทุบรถ คดีแรกที่ใช้โทษปรับ ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว หากยังไม่มีการปฏิบัติตามอีก สามารถตั้งเรื่องไต่สวน และสั่งปรับเพิ่มได้เกิน 5 พัน
หลังจากเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2561 ศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม มีคำสั่งกำชับเตือน ผู้ว่าฯ กทม.-ผอ.เขตประเวศปฏิบัติตามคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา พร้อมสั่งปรับผอ.เขตประเวศ 5 พัน จ่ายภายใน 30 วัน (อ่านประกอบ:ศาลปค.สั่งปรับผอ.เขตประเวศ 5 พันบ.หลังไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว)
ล่าสุด นายวชิระ ชอบแต่ง รองโฆษกศาลปกครอง กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เนื่องจากคดีที่นางสาวบุญศรี แสงหยกตระการ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ผู้ฟ้องคดี กับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 1 ผู้อำนวยการเขตประเวศ ที่ 2สำนักงานเขตประเวศ ที่ 3 กรุงเทพมหานคร ที่ 4 ผู้ถูกฟ้องคดี และนายสุกิจ นามวรกานต์ ที่ 1 กับพวกรวม 7 คน ผู้ร้องสอดนั้น เป็นการฟ้องโดยตำแหน่งผู้อำนวยการเขตประเวศ ไม่ใช่การฟ้องบุคคล ฉะนั้นการจะมาอ้างไม่ได้ว่า เป็นการละเลยของผู้อำนวยการเขตประเวศคนเก่า ซึ่งค่าปรับดังกล่าวเป็นเงินส่วนตัว และเป็นคดีแรกที่ศาลปกครองใช้โทษปรับ ทั้งนี้เป็นแนวคิดที่ดีในการปฏิบัติราชการ จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อเข้ามารับหน้าที่เเทนใครก็ตาม จำเป็นต้องดูว่าบุคคลนั้นมีอะไรที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ไม่ใช่ว่ารับตำเเหน่งเเล้วไม่ดู ซึ่งเป็นไปไม่ได้
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า หากผู้อำนวยการเขตประเวศ ไม่มีการปฏิบัติตามอีก ศาลฯสามารถตั้งเรื่องไต่สวน และสั่งปรับเพิ่มได้อีก และอาจไม่ใช่เป็นเงินจำนวน 5 พันบาทแล้ว