ซุกทรัพย์สิน-ร้านก๋วยเตี๋ยว! ศาลฎีกาฯฟันนักการเมืองท้องถิ่นจ.นครนายก ไม่ยื่นป.ป.ช.
ผิด 2 กระทง! ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 2 เดือน รอลงโทษ 1 ปี ปรับ 8,000 บาท รองนายก อบต.ใน จ.นครนายก จงใจไม่แสดงเงินฝาก ยานพาหนะ หนี้ค่าเช่าซื้อ เงินลงทุนร้านขายก๋วยเตี๋ยว ในบัญชีฯ ป.ป.ช. อ้างไม่รู้ ไม่เข้าใจ เว้นวรรคการเมือง 5 ปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า นายโอภาส เบี้ยสัมฤทธิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดอนยอ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก มีความผิดคดีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ
คำพิพากษาระบุว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้คัดค้านได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ดอนยอ เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2551 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2555 ผู้คัดค้านยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่ง แต่กรณีพ้นจากตำแหน่ง ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง โดยไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคาร ยานพาหนะ หนี้ค่าเช่าซื้อ เงินลงทุน และไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่ยื่นบัญชีฯให้ถูกต้องครบถ้วน ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว แต่ผู้ร้องเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควร
ผู้คัดค้านเคยยื่นบัญชีฯกรณีเข้ารับตำแหน่ง โดยแสดงรายการเงินฝากธนาคาร ยานพาหนะและหนี้ค่าเช่าซื้อต่อผู้ร้อง ย่อมทราบว่า ตนมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด แต่ผู้คัดค้านยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งต่อผู้ร้อง โดยไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคาร ยานพาหนะ หนี้ค่าเช่าซื้อ เงินลงทุน และผู้คัดค้านไม่ยื่นบัญชีฯต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี เมื่อผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่ดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วน ผู้คัดค้านชี้แจงว่า ไม่ใช่ผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์ จึงไม่แสดงรายการ ไม่แจ้งการลงทุนร้านขายก๋วยเตี๋ยวเพราะไม่ได้จดทะเบียน ประกอบกับไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน คำชี้แจง ของผู้คัดค้านไม่น่าเชื่อถือ เป็นการง่ายแก่การกล่าวอ้าง ไม่มีเหตุผลเพียงพอให้รับฟัง พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้คัดค้านไม่ใส่ใจต่อการยื่นบัญชีฯ ต่อผู้ร้องให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สินนั้น ซึ่งการยื่นบัญชีฯเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองเพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐ
จึงฟังได้ว่า ผู้คัดค้านจงใจยื่นบัญชีฯต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่ง และจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ ต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี มีผลห้ามมิให้ ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจาก ตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง นอกจากนี้ ผู้คัดค้านเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 การกระทำจึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้ง ให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่ง และจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 542 มาตรา 119 ด้วย
พิพากษาว่า นายโอภาส เบี้ยสัมฤทธิ์ ผู้คัดค้าน จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่ง รองนายก อบต. ดอนยอ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 31 ส.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน แ ละปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ( คดีหมายเลขแดงที่ อม.241/2560-21 ธ.ค.2561)
อ่านประกอบ:
เบื้องหลังคดี'สุวิทย์'ที่ปรึกษาสมศักดิ์ยื่นบัญชีฯเท็จ ใช้นอมินีถือบ.โซลูชั่นฯ 207.9 ล.หุ้น
ศาลฎีกาฯฟัน‘สุวิทย์’ ที่ปรึกษา‘ขุนค้อน-สมศักดิ์’ซุกหุ้น 116.4 ล.-แจ้งหนี้เท็จ 145 ล.