ผปค.-ศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล ปัดเจรจา จี้ ผอ.ต้องลาออก ปมบริหารไม่โปร่งใส
ภาคีเครือข่ายฯเซนต์คาเบรียล ออกแถลงการณ์ปฎิเสธการเจรจาทุกกรณี เร่ง 'ภราดาวินัย' ลาออก จี้ตรวจสอบการใช้เงินโรงเรียน วอนคณะภราดาควรออกมาชี้แจง หลังยังไม่ยอมเซ็นต์อนุมัติ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ตัวแทนผู้ปกครอง คณะครู ศิษย์เก่าและปัจจุบันของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ได้ชุมนุมกดดัน ภราดา ผศ.ดร.วินัย วิริยวิทยาวงศ์ ให้ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน เนื่องจากขาดธรรมาภิบาลในการบริหารงานและปัญหาจากพฤติกรรมส่วนตัว โดยในวันดังกล่าว ผศ.ดร.วินัย ได้ทำจดหมายแสดงความจำนงขอยุติบทบาทผู้อำนวยการโรงเรียนไปยังมูลนิธิเซนต์คาเบรียล (อ่านประกอบ ผอ.เซนต์คาเบรียล ยอมยุติบทบาท พร้อมให้ตรวจสอบ ข้อกล่าวหาบริหารไม่โปร่งใส )
ต่อมาในวันที่ 21 ก.พ. ภายหลัง ภราดา ผศ.ดร.วินัย ทำหนังสือแสดงเจตจำนงยุติบทบาทจากตำแหน่ง ผอ.ร.ร.เซนต์คาเบรียล ถึงมูลนิธิคณะภารดาเซนต์คาเบรียลฯ ล่าสุดยังไม่มีการเซ็นอนุมัติให้ยุติบทบาทและแต่งตั้งผู้รักษาการแทนแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 22 ก.พ. ภาคีเครือข่ายครู ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า นักเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 มีใจความว่า รู้สึกเสียใจ ผิดหวังและสูญสิ้นศรัทธาต่อการไม่เคารพตนเอง ไม่เคารพสัจจะวาจา ความไม่จริงใจของภราดาวินัย วิริยวิทยาวงศ์ ในฐานะภราดาผู้ทรงศีล อันเคารพต่อหลักนบนอบ หลักความยากจน หลักการถือพรหมจรรย์อย่างยิ่ง ทางภาคีเครือข่ายยืนหยัดในจุดยืนที่ว่า ปฏิเสธการเจรจาทุกกรณีจนกว่าจะลาออก และทางภาคีจะกระทำทุกวิถีทางอันถูกต้องให้ภราดาวินัยหมดอำนาจหน้าที่ทุกอย่างทางนิตินัยและพฤตินัยทั้งทางตรงและทางอ้อม
ปัจจุบัน ภราดาวินัยยังคงมีอำนาจหน้าที่ตามนิตินัยและพฤตินัย ดังนี้
1.ประธานคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาโรงเรียนเซนต์คาเบรียล มีอำนาจในการกำกับนโยบายโรงเรียน
2.ผู้อำนวยการ/ผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต อันมีอำนาจในการลงนามตามอำนาจที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการศึกษาเอกชน
3.ผู้มีสิทธิตามกฎหมายในการทำธุรกรรมทางการเงินการบัญชีของโรงเรียน รวมทั้งผู้มีสิทธิในการใช้บัตรเครดิตที่อ้างอิงบัญชีโรงเรียนในการทำธุรกรรมส่วนบุคคล และยังใช้ทรัพย์สินที่นิติบุคคลโรงเรียนเป็นเจ้าของ ที่สำคัญทางมูลนิธิฯ ปฏิเสธที่จะดำเนินการปลดหรือยกเลิกสิทธิ/อำนาจตามกฎหมายของภราดาวินัย เพิกเฉย ไม่ให้เกียรติที่จะมาร่วมประชุมกับภาคีเครือข่ายฯ ในฐานะผู้เดือดร้อนจากการบริหารที่ส่อไปในทางทุจริตของภราดาวินัย ซึ่งทางภาคีเครือข่ายฯ ได้เรียนเชิญท่านอย่างเป็นทางการด้วยความนบนอบและเคารพในคณะกรรมการมูลนิธิฯ เสมอมา
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตัวแทนของผู้ปกครองโรงเรียนเซนต์คาเบรียลได้แถลงแนวทางการเคลื่อนไหวต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า อยากให้ผศ.ดร.วินัยชี้แจงในประเด็นการใช้งบประมาณจัดงานวันเกิด ซึ่งเป็นงบประมาณของทางโรงเรียนแต่กลับนำงบมาใช้ในกิจกรรมส่วนตัว เพราะในใบเบิกงบได้ระบุว่ามีการเบิกงบไปใช้ทั้งหมด 700,000 บาท ซึ่งเป็นงบที่สิ้นเปลือง และประเด็นของการเบิกเงิน 70 ล้านบาท ทั้ง 2 ประเด็นเป็นประเด็นหลักที่ทำให้ผู้ปกครองไม่พอใจ
"ต้องการให้ผอ.ยุติบทบาทเด็ดขาด ไม่ใช่ยังคงบริหารงานอยู่ จึงขอให้คณะภราดาใหญ่ของเซนต์คาเบรียลกรุณาออกมาชี้แจงให้ทางผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และนักเรียนได้เข้าใจว่าทางคณะภราดามีความคิดเห็นอย่างไร จะอนุมัติให้ลาออก จะส่งคนใหม่เข้ามาหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังคลุมเครือมาก"
นอกจากนี้ ตัวแทนผู้ปกครองได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องการแต่งตั้งผู้ใกล้ชิดส่วนตัวมาบริหารงานในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านโภชนาการ เนื่องจากอาหารที่นักเรียนรับประทานไม่ถูกหลักโภชนาการ มองว่าถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงไม่ควรจะคิดเมนูอาหารในลักษณะนี้ ซึ่งทางผู้ปกครองต้องการให้อาหารถูกหลักโภชนาการและให้นักเรียนได้เติบโตสมวัย จึงอยากทราบเหตุผลว่าทำไมจึงปลดผู้เชี่ยวชาญคนเก่าออกแล้วแต่งตั้งคนใหม่เข้ามาอย่างไม่มีที่มาที่ไปและผู้ปกครองก็ไม่ทราบรายละเอียด
ทั้งนี้ หากข้อเรียกร้องยังไม่ได้รับคำตอบ ทางแกนนำภาคีเครือข่ายจะทำการประชุมเพื่อสรุปแนวทางในการดำเนินการต่อไป