กอ.รมน. อำนวยความสะดวก รื้อบ้านเลขที่ 113 ป้อมมหากาฬ
กอ.รมน.กทม. อำนวยความสะดวก รื้อถอนบ้านเลขที่ 113 หลังรับค่าชดเชยไปแล้ว ชุมชนป้อมมหากาฬ ยันปฏิบัติงานตามการเรียกร้องของ ปชช.
วันที่ 29 ม.ค. 2561 พ.อ.วิโรจน์ หนองบัวล่าง หัวหน้าฝ่ายข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กทม. และชาวบ้านชุมชนป้อมมหากาฬ ร่วมทำการรื้อถอนช่วงเช้า บ้านเลขที่ 113 ซึ่งเป็น 1 ใน 15 หลัง ที่ยังไม่รื้อถอน เพื่อให้ กทม. ดำเนินการปรับภูมิทัศน์ในพื้นที่ ให้เป็นสวนสาธารณะในอนาคตตามนโยบายของรัฐบาล โดยทางเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กทม. ร่วมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการรื้อถอน ณ ชุมชนป้อมมหากาฬ
นายธวัฒชัย วนาภานุเบศ อายุ 66 ประกอบอาชีพค้าขาย เจ้าของบ้านเลขที่ 113 หนึ่งในชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือในการรื้อถอนบ้านภายในวันนี้ กล่าวว่า พักอาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้มากว่า 50 ปี ต่อสู้เพื่อที่จะอยู่ที่นี้มาตลอด 25 ปี แต่คิดว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะคืนพื้นที่บ้านให้แก่ กทม. เพื่อสังคมประโยชน์ของส่วนร่วม ในการสร้างสวนสาธารณะ
“ไม่อยากให้สังคมมองพวกเราเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะรอบบ้านรื้อออกหมด แล้วจะมาอยู่ได้อย่างไรแค่คนเดียว” นายธวัฒชัย กล่าว และว่า จากเมื่อก่อนในชุมชนแห่งนี้มีชาวบ้านอาศัยอยู่ 70 ครัวเรือน แต่ที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็เพียง 15 ครัวเรือนเท่านั้น จึงยินยอมและเต็มใจในการรื้อถอนครั้งนี้ ยืนยันไม่ใช้การถูกบังคับแต่อย่างใด
ในเรื่องของการย้ายไปอยู่ที่ใหม่นั้น นายธวัฒชัย ระบุว่า กทม. มีพื้นที่รองรับให้ชั่วคราว คือ บ้านอิ่มใจ ตึกเก่าประปาแม้นศรี และยังช่วยดำเนินการปลูกบ้านหลังใหม่ให้บริเวณเกียกกาย ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้นทาวเฮ้าส์ บนพื้นที่ของกรมธนารักษ์ ระยะเวลาเช่า 30 ปี อย่างไรก็ตาม การย้ายออกไปครั้งนี้ ได้รับค่าชดเชยจาก กทม. 70,000 บาท
ด้าน พ.อ.วิโรจน์ หนองบัวล่าง หัวหน้าฝ่ายข่าว กอ.รมน.กทม. เปิดเผยถึงการปฏิบัติงานในวันนี้ว่า ชาวบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬได้ขอร้องให้ กอ.รมน.กทม. มาช่วยในการรื้อถอน ทั้งที่ความจริงแล้ว ทหารไม่มีสิทธิในการรื้อถอนอยู่ การจะเข้ามาปฏิบัติงานได้นั้นต้องเป็นความต้องการของชาวบ้านเท่านั้น
“กอ.รมน.กทม. เข้ามาเพราะผู้นำชุมชนอยากให้เราเข้ามาช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย เพราะในช่วงที่ผ่านมามีการขายพลุและสิ่งของผิดกฎหมาย จึงเข้าไปทลายคลังเก็บพลุของผู้ประกอบการได้ประมาณ 200 ตัน พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย”
อีกประเด็นทื่ทาง กอ.รมน.กทม. เข้ามาพื้นที่ตรงนี้ เพราะทราบข้อมูลจากประชาชนว่า บ้านทั้งหมด 15 หลังที่เหลืออยู่ ซึ่งประชาชนที่เหลืออยู่ในส่วนตรงนี้อาจจะไม่ลงรอยกันกับชาวบ้านที่จะย้ายออกไป กอ.รมน.กทม. จึงเข้ามาดูแลในส่วนนี้เพื่อลดการขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นด้วย
“ประชาชนรื้อถอนบ้านออกไปด้วยตนเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน บางส่วนก็กลับถิ่นฐานเดิม ในส่วนของประชาชนที่ไม่มีที่ไปก็จะไปอยู่ บ้านอิ่มใจ ตึกเก่าประปาแม้นศรี เป็นการชั่วคราว และ กอ.รมน.กทม. ยังได้ประสานกับกรมธนารักษ์ในการหาพื้นให้กับประชาชน ได้เป็นพื้นที่ 1 แปลงบริเวณสี่แยกเกียกกาย โดยเบื้องต้นบริเวณนั้นมีประชาชนที่เข้าไปอยู่อาศัยแล้วรวมกว่า 40 ครัวเรือน” หัวหน้าฝ่ายข่าว กอ.รมน.กทม. กล่าว