รัฐยอมรับจับผู้ต้องสงสัยบนรถนักเรียน โต้ข่าวเด็กกลัวจนร้องไห้ ซัดสื่อบิดเบือน
รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดแถลงยอมรับมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง บนรถนักเรียนอนุบาลที่ อ.ธารโตจริง แต่ทำอย่างอลุ้มอล่วย ละมุนละม่อม โต้ลั่นไม่มีเด็กตกใจกลัวจนร้องไห้ ถึงขั้นป่วยไม่ยอมไปโรงเรียนตามที่มีการเสนอข่าว ฉะสื่อบิดเบือน อ้างแม่ทัพห่วงถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผล
การแถลงข่าวเกิดขึ้นที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษา ความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ภายหลังมีกระแสวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา ที่เรียกตรวจรถรับส่งนักเรียนของโรงเรียนสุทธิศาสน์วิทยา ภาคอนุบาล และพบว่าคนขับรถ คือ นายอาลี ยิมัน เป็นผู้ต้องสงสัยตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในคดีลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันท่ี่ 25 ธ.ค.60 จึงได้บุกขึ้นไปบนรถเพื่อควบคุมตัว ทำให้เด็กนักเรียนอนุบาลที่มีอยู่ 26 คนตกใจ บางคนถึงกับร้องไห้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังตัดสินใจให้ นายอาลี ตระเวนส่งนักเรียนจนครบ ก่อนนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.ธารโต ทำให้ผู้ที่ทราบเรื่องนี้มองว่า เจ้าหน้าที่น่าจะมีวิธีอื่นในการจับกุมผู้ต้องสงสัย เพื่อไม่ทำให้เด็กตกใจ หรือทำร้ายจิตใจเด็ก
หลังมีกระแสวิจารณ์มาได้ 2 วัน พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้นัดสื่อมวลชนเปิดแถลงข่าวชี้แจง เมื่อเวลา 15.30 น.วันเสาร์ที่ 27 ม.ค.61 โดยยอมรับเรื่องปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตามที่เป็นข่าว แต่ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงกับข้อมูลที่ว่าเด็กกลัวจนร้องไห้ บางคนป่วยถึงขั้นไม่ไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น
"เจ้าหน้าที่ด่านบ้านบ่อหิน ต.บ้านแหร อ.ธารโต ได้ขอเรียกตรวจรถรับส่งนักเรียน และขอดูบัตรประชาชนคนขับ กระทั่งพบว่าเป็นบุคคลตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในคดีลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าที่ ต.อัยเยอร์เวง จึงชี้แจงทำความเข้าใจกับนายอาลี ว่าเจ้าหน้าที่ขอเชิญไปที่ สภ.ธารโต แต่เนื่องจากขณะนั้นนายอาลีขับรถนักเรียนอยู่ ในรถมีเด็กนักเรียนของโรงเรียนสุทธิศาสน์วิทยา 26 คน ครูพี่เลี้ยงอีก 1 คน ก็ตกลงกันว่าให้นายอาลีขับรถไปส่งนักเรียนที่บ้านให้ครบทุกคน โดยมีเจ้าหน้าที่ขับรถตามไปด้วยเพื่อป้องกันการหลบหนี"
"ระหว่างที่นายอาลีขับรถไปส่งนักเรียน ก็มีเจ้าหน้าที่นั่งไปด้วย นักเรียนก็ไม่มีอาการตกใจอะไร เป็นปกติทุกอย่าง นักเรียนเข้าใจ ฉะนั้นที่สื่อต่างๆ ลงข่าวว่านักเรียนตกใจกลัวถึงกับป่วย จึงไม่เป็นความจริง เจ้าหน้าที่ตามไปห่างๆ ไม่ได้เอาปืนจี้คนขับอะไร เมื่อไปส่งนักเรียนครบจนคนสุดท้ายแล้ว ก็กลับไปส่งครูพี่เลียงที่โรงเรียนสุทธิศาสน์วิทยา แล้วจึงเชิญนายอาลีไปสถานีตำรวจ จากนั้นได้ให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 คุมตัวไปซักถามตามกรรมวิธี โดยเป็นการใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก" เป็นรายละเอียดคำชี้แจงของ พ.อ.ธนาวีร์
รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ย้ำด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้อลุ่มอล่วยให้กับนายอาลี เพราะเห็นว่าขับรถส่งนักเรียนอยู่ จึงให้ไปส่งเด็กจนครบทุกคนที่บ้านก่อน จึงเชิญตัวไปที่โรงพัก เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำอะไรเกินกว่าเหตุ เป็นการทำหน้าที่ปกติ ระหว่างการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้อาวุธหรือทำให้นักเรียนตกใจกลัวตามที่เป็นข่าว แต่เป็นการพูดคุยกันปกติ ระหว่างการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับนักเรียน ผู้ปกครอง และครูที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมด ทุกคนก็เข้าใจ ไม่ได้ตกใจกลัวแต่ประการใด
"ข่าวที่ออกมาจึงเป็นการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือน เกินเลยความจริง หรืออาจนอกเหนือประเด็น เรื่องนี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 มีความเป็นห่วง อยากให้พี่น้องใช้ดุลยพินิจในการบริโภคข่าวสาร ขอให้ตรวจ ตรึกตรองด้วยความละเอียดรอบคอบ ไม่เช่นนั้นถ้าเราไปหลงเชื่อในข่าวสารที่บิดเบือนแล้ว อาจถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผลเพื่อสร้างความขัดแย้งให้กับพี่น้องประชาชนได้" พ.อ.ธนาวีร์ ระบุ
รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. บอกด้วยว่า หลังจากเกิดเหตุ ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปชี้แจงให้กำลังใจเด็กนักเรียนทุกคน ยืนยันว่าไม่ได้มีความหวาดกลัวตามที่เป็นข่าว รวมทั้งได้ชี้้แจงทั้งผู้ปกครอง นักเรียน และครู ทุกคนมีความเข้าใจ รวมไปถึงผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ทุกคนเข้าใจในเรื่องของความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นการตั้งด่านตรวจ ไม่ได้ปิดล้อมตรวจค้น เมื่อผู้กระทำความผิดผ่านมาโดยบังเอิญ ก็เชิญตัวเข้าสู่กระบวนการซักถาม ไม่มีการใช้ความรุนแรง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : การแถลงข่าวของรองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.
อ่านประกอบ : อย่างนี้ต้องแถลง! กอ.รมน.นัดแจงปมบุกจับผู้ต้องสงสัยคารถนักเรียน