"ผู้ก่อเหตุรุนแรง = ซุ้มมือปืน" แม่ทัพ4 ลุยสร้างอาชีพสู้อิทธิพลจุดไฟใต้!
กลางสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ม.ค.61 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) จัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้บอกเล่าถึงสถานการณ์และทิศทาง "ดับไฟใต้" ในความรับผิดชอบของเขา
"ได้บูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย คือ หน่วยงานด้านความมั่นคง ด้านการพัฒนา และกลไกราชการปกติ ภายใต้การบูรณาการและขับเคลื่อนของคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำนโยบายของรัฐบาลมาปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม ตอบสนองความต้องการของพื้นที่ และตรงกับความต้องการของประชาชน"
นี่คือกรอบใหญ่การทำงานของแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าน่าจะเหลือเวลาทำงานในพื้นที่นี้อีกไม่มากนัก...
ภายใต้แผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2561 พล.ท.ปิยวัฒน์ บอกว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการปฏิบัติการเชิงรุกในทุกมิติ ด้วยการสร้างความเข้าใจในนโยบายของรัฐบาล สร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ยึดหลักกฎหมายตามแนวทางสันติวิธี เคารพหลักสิทธิมนุษยชน มีความโปร่งใส กำลังพลทุกระดับต้องไม่สร้างเงื่อนไข สำคัญคือสร้างความสงบสุขภายใต้หลักคิด "กฎหมายนำ การทหารตาม การเมืองขยาย มุ่งขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้"
"เหตุรุนแรงที่มีเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อสร้างความหวาดกลัวและความเกลียดชัง ฉะนั้นการสร้างความเข้าใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ สถานการณ์ภาพรวมมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น พี่น้องเข้าใจข้อเท็จจริง เกิดจากความร่วมมือของสื่อมวลชนในการช่วยประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้สาธารณะ และสร้างความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาของกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า"
แม่ทัพภาคที่ 4 มั่นใจว่า แนวคิดการแบ่งแยกดินแดนของกลุ่มคนบางกลุ่ม ไม่มีทางสำเร็จได้เลย และกลุ่มคนเหล่านั้นก็ทราบดี
"ผมทราบว่าพี่น้องมุสลิมเป็นพี่น้องกันทั่วโลก ก็ขอให้เป็นพี่น้องกับพี่น้องไทยพุทธ และพี่น้องไทยจีนด้วย เพราะอยู่ในสังคมเดียวกัน เรื่องของบีอาร์เอ็นหรือพูโลนั้นมีอยู่จริง แต่เวลาผ่านมา 30-40 ปี เขาบรรลุในสิ่งที่ชอบแล้ว รู้ว่าถึงอย่างไรก็แบ่งแยกดินแดนไม่ได้ เหตุการณ์จะรุนแรงอย่างไร แต่พื้นที่แม้แต่ตารางนิ้วเดียวผมก็ไม่ให้ แต่ถ้าลงมาทำมาหากิน เมื่อมีเงินซื้อที่ดิน จะทำการเกษตรหรือเลี้ยงสัตว์ รัฐบาลก็สนับสนุน ในเรื่องของการทำสวนยางพารา หากเปลี่ยนมาปลูกทุเรียน อินทผลัม ปลูกก่อน รวยก่อน ต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตเพื่อลูกหลานให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น"
"เมื่อความเจริญเข้ามา กลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่ก็จะก่อเหตุ ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามา ในภาคเหนือหรืออีสานคือมือปืนตามซุ้มต่างๆ แต่ที่นี่เรียกว่า 'ผู้ก่อเหตุรุนแรง' ซึ่งเขาคือวัยรุ่นที่หลงผิด ขณะนี้กำลังมีคนที่กลับมาพอสมควร ต้องเรียกเขาว่าผู้กล้า"
มาถึงตรงนี้ นักข่าวถามว่าความรุนแรงมีโอกาสยุติลงหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 4 บอกว่า คงไม่ยุติ เพราะผู้มีอิทธิพลต้องพยายามให้เกิดเหตุรุนแรงอีก เจ้าหน้าที่ต้องทำหน้าที่ต่อไป
"แม้ผมจะเกษียณ ก็จะมีคนอื่นมาทำหน้าที่ต่อ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข มีอาชีพ มีรายได้ มีงานทำ สู้กับอิทธิพลต่อไป"
นักข่าวถามต่อถึงสถิติการก่อเหตุรุนแรง ที่บอกว่าภาพรวมสถานการณ์ดีขึ้น เหตุใดจึงไม่นำตัวเลขมาเปิดเผย เพราะที่ผ่านมาต่างชาติติดตามสถิติตัวเลขที่จัดทำโดยองค์กรบางองค์กร ซึ่งไม่ตรงกับตัวเลขของทางราชการ
ประเด็นนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำว่า ให้เลิกสนใจเรื่องตัวเลขสถิติ
"สิ่งที่กำลังทำในวันนี้ คือ ก้าวข้ามสถิติ เอาความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชนมาแทน นั่นคือสถิติที่แท้จริงและมั่นคง อย่าไปตามสถิติของฝรั่ง เพราะฝรั่งโง่มีเยอะ ให้เขามาดูเอง ขอให้สิ่งที่ประชาชนได้รับเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคือสิ่งที่ดีที่สุด"
เป็นบทสรุปแบบตรงไปตรงมา และ "แรง" อีกหนึ่งครั้งของแม่ทัพภาคที่ 4 นามว่า "ปิยวัฒน์ นาควานิช"
-------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่อง : เลขา เกลี้ยงเกลา
ภาพ : ศุภชัย หุ่นงาม
อ่านประกอบ : 14 ปีไฟใต้...แม่ทัพภาค 4 ลั่น "เวลากับใจ" พิสูจน์ใต้สันติสุข!