สนช.หนุนคำสั่งคสช. ห้ามขายเหล้าเบียร์ในเขตโซนนิ่ง ไม่เว้นแม้ห้างเปิดใหม่
สนช.เชิญผู้เกี่ยวข้องหารือกรณีห้างเซ็นทรัลโคราช ขอขายเหล้าเบียร์ในเขตโซนนิ่ง ชี้มติที่ประชุมให้ยึดตามประกาศคำสั่งคสช. ที่ 22/2558 ร้านขายเหล้าเบียร์รายใหม่ห้ามมีโดยเด็ดขาด
วันที่ 12 ม.ค.61 นายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยภายหลังเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ต่อกรณีที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงลดพื้นที่โซนนิ่ง เพื่อให้ขายเหล้าเบียร์ในห้างได้ ซึ่งการหารือวันนี้ ประกอบด้วย มหาวิทยาลัย นักศึกษา สรรพสามิต นักวิชาการ เครือข่ายภาคประชาชน กว่า 20คนเข้าร่วม บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกฝ่ายต่างนำเสนอข้อมูลอย่างรอบด้าน ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ส่งรองผู้ว่าฯมาชี้แจงแทน โดยยืนยันว่า ทางจังหวัดและสรรพสามิต ยังไม่ได้มีการอนุญาตให้ห้างเซ็นทรัลขายเหล้าเบียร์ อีกทั้งได้มีการดำเนินคดีกับ 2 ร้านในห้างเซ็นทรัลที่ฝ่าฝืนคำสั่งแล้ว และหลังจากนี้จะนำมติในที่ประชุมเสนอรัฐบาลต่อไป โดยให้ยึดตามประกาศเขตพื้นที่โซนนิ่ง ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ซึ่งโดยหลักการของประกาศนี้ คือ ร้านเหล้าที่มีอยู่เดิมต้องทำตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ร้านเหล้ารายใหม่จะไม่ให้มีเพิ่มขึ้นอีก ส่วนร้านเดิมหากฝ่าฝืนจะถูกปิดถาวร
นายตวง กล่าวว่า เมื่อมีประกาศเขตโซนนิ่ง ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามไม่เว้นแม้แต่จังหวัดนครราชสีมา นั่นหมายความว่า ต้องทำตามกฎหมายห้ามขายเหล้าเบียร์ และจะนำมตินี้เสนอไปยังรัฐบาล ซึ่งที่น่าห่วงคือทุนขนาดใหญ่ อาจมีช่องทางโจมตี หรือหาข้อต่อสู้ทางกฎหมายโดยอ้างการขออนุญาตก่อนที่จะมีการกำหนดเขตโซนนิ่ง แต่สนช.ไม่ได้กังวล เพราะคงนำมาลบล้างคำสั่งคสช.มาตรา44ไม่ได้
นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯขอขอบคุณคณะกรรมมาธิการการศึกษา สนช. ที่เปิดโอกาส ให้ทีมงานได้มาชี้แจ้ง และให้ความสำคัญประเด็นโซนนิ่ง คณะกรรมมาธิการฯรับฟังด้วยความสนใจ ทำให้เครืองข่ายฯมีความอุ่นใจว่ารัฐสภา จะนำข้อเสนอแนะที่ดีต่อรัฐบาลและกลไกรัฐที่ผ่านมายังมีความพยายามแก้ไขโซนนิ่ง ล่าสุด ที่ประชุมคณะทำงานจัดทำโซนนิ่งระดับอำเภอนครราชสีมา ก็มีมติยืนยันแก้ไขเขตโซนนิ่งลดน้อยกว่าเดิมมาก ซึ่งเครือข่ายฯจะติดตาม เรื่องนี้ว่าทางจังหวัดนครราชสีมา จะมีท่าทีอย่างไรต่อไป
“เครือข่ายฯพอใจ ต่อท่าทีกรรมมาธิการที่ห่วงใย และเห็นความสำคัญ ในการปกป้องปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดกับนักศึกษา เด็กเยาวชน อีกทั้งกำลังหารือเพื่อเข้าพบ ผู้บริหารห้างเซ็นทรัล อยากเข้าไปพูดคุยเพื่อแสดงจุดยืนต่อประเด็นนี้ รวมถึงทีมงานจะมีการหารือร่วมกันของเครือข่าย นักวิชาการ ผู้บริหาร สถานศึกษา 5-6สถาบัน ในพื้นที่นครราชสีมา เพื่อ วางมาตรการทางนโยบายของสถาบันและพัฒนางาน เก็บข้อมูลเชิงวิชาการถึงผลกระทบ จากร้านเหล้าใกล้มหาวิทยาลัย และความเปลี่ยนแปลงต่อนโยบายโซนนิ่งในพื้นที่เพื่อเป็นฐานข้อมูล ข้อเท็จจริง ต่อสาธารณะ และกลไกรัฐต่อไป รวมถึงจะร่วมมือกับภาคีในพื้นที่ ภาคีเยาวชนจัดรณรงค์สื่อสารสร้างความเข้าใจในพื้นที่ ตลอดจนการแสวงหาความร่วมมือจัดกิจกรรมเชิงบวกร่วมกับกลุ่มธุรกิจ พ่อค้า แนวสร้างสรรค์ในพื้นที่ เพื่อสร้างพื้นที่ทางเลือก พื้นที่ดีๆ ให้เยาวชน นักศึกษา”นายคำรณ กล่าว
ด้านนายฐิติชัย ดุ้งกลาง แกนนำเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในฐานะเยาวชนในพื้นที่ต้องขอขอบคุณคณะกรรมาธิการฯ ที่ให้ความสำคัญกับปัญหานี้ เครือข่ายเยาวชนฯในฐานะผู้ร้องขอยืนยันเจตนารมณ์ว่าเราไม่ได้ปฏิเสธการเกิดขึ้นของห้างสรรพสินค้าในจังหวัดนครราชสีมา แต่เราขอคัดค้านความพยายามที่จะเกิดร้านขายเหล้ารายใหม่ ในพื้นที่โซนนิ่งรอบสถานศึกษา เรียกร้องให้ทำเป็นตัวอย่างศูนย์การค้า ส่งเสริมพื้นที่ดีสำหรับเยาวชน เช่น ทำลานนมที่สวยงาม มีพื้นที่ทำงานให้เยาวชนชื่นชอบไปใช้บริการอย่างปลอดภัย เป็นต้น ซึ่งจะถือว่าเป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่รัฐบาลมอบให้เยาวชน ทั้งนี้การปรับปรุงหรือแก้ไขพื้นที่ดังกล่าวจึงควรเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นต่อส่วนรวมไม่ใช่การแก้ไขเพื่อนายทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สุดท้ายเครือข่ายฯขอเป็นกำลังใจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอให้ยืนหยัดในเจตนารมณ์ของคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่22/58 ที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาร้านเหล้ารอบสถานศึกษาเพื่อควบคุมสุราและลดปัญหาสังคม โดยคิดถึงอนาคตเยาวชนของชาติเป็นสำคัญ