3 บ.เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปปง.อายัด 120 ราย 53.5 ล.ใช้โทร.ระบบดีแทคในจีน
ปปง.โชว์คำสั่งอายัดทรัพย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์บุคคล-นิติบุคคล 120 ราย 53.5 ล.มี บ.เอกชนด้วย 3 แห่ง แฉพฤติกรรมใช้หมายเลขโทรศัพท์ระบบดีแทคในประเทศจีน โทร.หาเหยื่อระบบเดียวกันในไทย มีผู้เสียหายแจ้งความเป็นคดีที่ พิษณุโลก พังงา คนเดียวมีเงินในบัญชีกว่า 8 ล.
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เผยแพร่คำสั่ง คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. คำสั่งที่ 136/2560 วันที่ 25 ธ.ค.2560 อายัดทรัพย์สินกลุ่มบุคคลที่ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน (แก๊ง CALL CENTER) รายนายทวี สุจริตวัฒนะนนท์ กับพวก ตามรายงานที่รับแจ้งจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 โดยใช้โทรศัพท์หลอกลวงอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ หลอกลวงให้ประชาชนโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ที่กลุ่มคนร้ายเปิดไว้เพื่อรองรับเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชน อันเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงหรือฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341หรือ มาตรา 342 (1) จากการสืบสวนพบว่า หมายเลขโทรศัพท์ +6685390 8808 ซึ่งกลุ่มคนร้ายใช้โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย เป็นระบบดีแทค ซึ่งขายในประเทศจีน โดยบริษัท Chaina Telecom Global Limited สำหรับลูกค้าซึ่งอยู่ในประเทศจีน มีไว้ โทร.หาหมายเลขระบบดีแทคด้วยกันในประเทศไทย ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าสถานที่ตั้ง call center ตั้งอยู่ที่ East Tower 2/2021 room Hongjingyan 366 longoudong road Thanhe District Guangzhou Chaina โดยกลุ่มคนร้ายได้โทรศัพท์มาหลอกลวงประชาชนในที่ต่างๆในประเทศไทย ซึ่งเป็นการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งพยานหลักฐานทางคดีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า พฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่ใช้โทรศัพท์โทรหลอกลวงประชาชนรายนายทวี สุจริตวัฒนะนนท์ กับพวก เข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานแห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (3) และ (18) เข้าข่ายลักษณะความผิดองค์กรอาญากรรมข้ามชาติ ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก จ. พิษณุโลก รับไว้เป็นคดีอาญาดี 340/2560 และพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโคกกลอย จ.พังงา รับไว้เป็นคดีอาญาที่ 304/2559 คณะกรรมการ ธุรกรรม ปปง.จึงมีคำสั่งอายัดทรัพย์สิน นายทวี สุจริตวัฒนะนนท์ กับพวก รวม 120 ราย พร้อมดอกผลมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติคือ นับแต่วันที่ 14 ธ.ค.2560-31 มี.ค.2561
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ทรัพย์สินของบุคคลที่และนิติบุคคลที่ถูกอายัด ได้แก่ บัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ รวม 120 บัญชี กว่า 100 ราย รวม 53,511,273.03 บาท จำแนกเป็น นิติบุคคล 3 รายได้แก่ บริษัท จีทีอาร์ แทรเวล แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด (ทำธุรกิจทัวร์) บัญชีเงินฝากธนคารกสิกรไทย จำนวน 3,121.51 บาท ,บริษัท ยูวี แทรเวล แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด บัญชีเงินฝากธนคารกสิกรไทย จำนวน 1,408,103.23 บาท และ บริษัท ดาแพ็ด จำกัด จำนวน บัญชีเงินฝากธนคารกสิกรไทย 4,567,933.34 บาท
บุคคล จำนวน 117 บัญชี (ประมาณ 100 ราย) อาทิ น.ส.พรรณปพร ศรีอ่อนดี, MR.CHING-YU LIN ,น.ส.ซิ่วเหมย แซ่เถา , MR.LIN CHUN LEE ,น.ส.รัตนา เกษสุพรรณ์ จำนวน 1,668,253.93 บาท, นายวิพล อินทนนท์ 1,904,833.77 บาท , น.ส.ดารานารถ ยังดีเลิศ ,นายฐากูร ปัญญาฟู ,MR.FANG YANG SHENG ,MRS.SRIENG-ROS จำนวน 8,291,376.81 บาท ,MR.HSIEN-TA-HAO จำนวน 1,105,340.10 บาท ,MR.CHIEN-PI-YU จำนวน 4,507,317.57 บาท ,นายศุภกฤษ ธนาภัทรโยธิน จำนวน 4,722,587.41 บาท ,นายประคอง สุทธโส จำนวน 3,849,745.65 บาท ,นางขวัญฤดี แซ่หม่า จำนวน 1,261,726.31 บาท ,นายสุรชาติ โศภิตรุ่งเรือง , นายสุรชัย อันมะเริง ,น.ส.สกายรักษษ์ มากล้น ,น.ส.สโรชา รามศิริ,น.ส.อมรรัตน์ สนสีหา ,น.ส.จิราพร ซู,นายโชคชัย ไชยเมืองพล ,น.ส.จินจา เปาป้อ และนายบิ่น บูรณศิริวงศ์ ,น.ส.ธันยธรณ์ พูลมี ,นายวุฒินันท์ ฉายชัยภูมิ,น.ส.จันทร์จิรา มาตรคำจันทร์ ,นางรชนันท์ ศรีแสงทอง , น.ส.อารีย์ แซ่เซิ้ง ,นางบุญเย็น ญาณะสิงห์ เป็นต้น
นายทวี สุจริตวัฒนะนนท์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้