ยิ่งน้อยกว่าเดิม กองทุนผู้สูงอายุแจง ตัวเลขผู้บริจาคเบี้ยยังชีพ 22 ราย 1.6 แสนบาท
ยิ่งน้อยกว่าเดิม กองทุนผู้สูงอายุแจงสำนักข่าวอิศรา ตัวเลขผู้บริจาคเบี้ยยังชีพ 224 ราย รวมเงิน 1.6 แสนบาท คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ เล็งพิจารณาปรับเปลี่ยนเงื่อนไขจูงใจผู้สูงอายุบริจาคเบี้ยเข้ากองทุนฯ เพิ่มให้ได้ตามเป้า ทั้งแบบฟอร์มเดิมกำหนดให้บริจาคไม่น้อยกว่า 1 ปี รวมถึงการได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเสนอข่าว "เชียงราย ตรัง นนทบุรี นำโด่ง จำนวนคนบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ-สรุปยอดรวมแค่ 4 ล้าน" ไปเมื่อวันที่ 8 มกราคม หลังจากรัฐบาลมีโครงการสละสิทธิการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุโดยสมัครใจ เป็นโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ และล่าสุดพบว่า มีผู้สูงอายุบริจาคเข้าโครงการน้อยมาก แค่ 200-300 คนนั้น
วันที่ 9 มกราคม กองทุนผู้สูงอายุ ชี้แจงสำนักข่าวอิศราถึงข้อมูในเว็บไซต์นั้นยังเป็นข้อมูลที่ใช้ในการทดสอบระบบ เพื่อนำเข้าข้อมูลอย่างเป็นทางการวันที่ 15 มกราคมที่จะถึงนี้ ซึ่งจำนวนผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ณ 29 ธันวาคม 2560 โดยยังไม่มีข้อมูลแยกเป็นรายจังหวัด มีตัวเลขผู้บริจาคเบื้องต้น ดังนี้
- กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน 113 ราย เป็นเงิน 71,400 บาทต่อเดือน
- กรุงเทพมหานคร 130 ราย เป็นเงิน 87,800 บาทต่อเดือน
- และเมืองพัทยา จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 1,000 บาทต่อเดือน
รวมมีผู้บริจาคเบี้ยผู้สูงอายุแล้ว 244 ราย เป็นเงิน 160,200 บาทต่อเดือน
มีรายงานด้วยว่า การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุุ ที่ปัจจุบันยังมีผู้สูงอายุบริจาคเข้ามาน้อยนั้น คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ กำลังพิจารณาอาจมีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากแบบฟอร์มเดิมกำหนดให้บริจาคไม่น้อยกว่า 12 เดือน (1 ปี) ดังนั้น อาจมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขตรงจุดนี้ โดยไม่จำเป็นต้องบริจาคต่อเนื่องให้ครบ 1 ปี ก็ได้ เพื่อจูงใจให้ผู้สูงอายุมาบริจาคเบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้น
รวมถึงการได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ เพื่อเป็นการตอบแทนการเสียสละเงินเบี้ยยังชีพที่จะนำไปให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออีกกว่า 3 ล้านรายนั้น อาจมีการลดจำนวนเดือนที่บริจาคลง เช่น บริจาคเบี้ยยังชีพไม่ถึง 1 ปี ก็ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติได้ เป็นต้น
ขณะที่บุคคลทั่วไปก็สามารถบริจาคเงินเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ได้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การที่ตัวเลขผู้บริจาคเบี้ยยังชีพไม่อัพเดท ให้เห็นรายจังหวัดนั้น ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีกำหนดให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรายงานสรุปยอดการรับบริจาคตามแบบให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด ภายในวันที่ 20 ของทุกเดือน และให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด สรุปยอดการรับบริจาคเป็นภาพรวมของจังหวัดจัดส่งให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นภายในวันที่ 25 ของทุกเดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ทีดีอาร์ไอชี้รัฐมอบ “เหรียญเชิดชู” ไม่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจผู้สูงอายุสละเบี้ยยังชีพ
บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนฯ คลังมอบเหรียญเชิดชูเกียรติ