ส.ค.ส.เปิดผนึกจาก 'เขียน ธีระวิทย์' ถึง 'ประยุทธ์ จันทร์โอชา'
ผมเป็นคนเคยสนับสนุนท่านเมื่อท่านทำรัฐประหาร และได้ติดตามการทำงานและฟังคำปราศัยของท่านทุกวันศุกร์ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ จากพฤติกรรมและคำพูดรวมๆ ของท่าน ผมเชื่อว่าท่านมีจิตใจบริสุทธิ์ในการทำรัฐประหาร เพื่อกอบกู้ชาติให้พ้นจากภัยพิบัติในขณะนั้น
แต่ความศรัทธาของผมที่มีต่อท่านลดลงอย่างมากในระยะหลังนี้ กระนั้นก็ตาม ผมยังเชื่อว่าธาตุแท้ของท่านเป็นคนดี ท่านยังสามารถกอบกู้ความศรัทธาของผมที่เคยมีต่อท่านให้กลับคืนมาได้ ถ้าท่านจะเจียดเวลาสัก 4 นาทีไปนั่งสงบสติอารมณ์ สำรวจความหลังในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาว่า ท่านทำรัฐประหารเพื่อต้องการอำนาจหรือเพื่อแก้ไขปัญหาของชาติ? ท่านต้องการให้รัฐบาล-คสช. ทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือพรรคพวก? ท่านคิดว่าความมั่นคงของชาตินั้นจะสำเร็จลุล่วงได้ด้วยน้ำมือของผู้นำทหารฝ่ายเดียวหรือต้องมีพลเรือนที่มีฝีมือรวมอยู่ด้วย? การปฏิรูปประเทศของท่านล้มเหลวมาตลอด เพราะใช้คนไม่ถูกกับงานหรือเพราะท่านต้องการอยู่ในอำนาจยาวนานเพื่อปฏิรูปให้เสร็จก่อน? นโยบายปราบคอร์รัปชันของท่านจะไปรอดไหมถ้าท่านปล่อยให้คนสำคัญในรัฐบาลของท่านเป็นหนอนบ่อนไส้? และถ้าท่านยังเป็นผู้นำรัฐบาลที่ท่านมีอำนาจเบ็ดเสร็จ รักษากฎเกณฑ์การเลือกตั้งโดยมีตนเป็นคู่แข่งที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย ประชาชนและชาวโลกจะมองท่าน, ประเทศของท่าน, และประชาชนของท่านอย่างไร ท่านจะมีความสุขในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีหรืออดีตนายกรัฐมนตรีอยู่อีกหรือไม่?
ผมเชื่อว่าประเด็นคำถามเหล่านี้ ถ้าท่านมีเวลาคิด ท่านจะให้คำตอบดีๆ ที่ประชาชนฟังแล้วมีความสุขทุกข้อ ถ้าท่านมีเวลาคิดก่อนพูด ปัญหาอื้อฉาวที่เกิดขึ้นก่อนขึ้นปีใหม่เรื่องการซื้อสุนัขพันธุ์บางแก้ว 3 ตัว ที่จังหวัดพิษณุโลกก็คงจะไม่เกิด เมื่อผมทราบข่าวจากโทรทัศน์ ผมคิดเอาเองว่า ท่านลืมตัวไปว่าท่านมิใช่เป็นสามัญชนคนธรรมดาแล้ว ถ้าท่านซื้อมาแล้ว จะเอาไปให้คนใกล้ชิดที่มีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี 2 ท่าน ท่านกำลังจะแกว่งเท้าหาเสี้ยนหรือไร โชคดีที่คุณศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยโวยดังๆ ขึ้นมา ก่อนที่มีการส่งมอบ “น้องหมา” ไปให้ท่าน มิเช่นนั้น ทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคู่ใจทั้งสองจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อข่าวนี้เกิดขึ้นมาบดบังข่าวอื้อฉาวเรื่องนาฬิกาหรูของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ผมผิดหวังเล็กน้อยที่ท่านมิได้ขอโทษประชาชน และฉวยโอกาสนี้โฆษณานโยบายปราบคอร์รัปชันของรัฐบาลนี้ โดยการประกาศต่อสาธารณชนและขอบคุณคุณศรีสุวรรณที่ได้เอาเรื่องนี้ไปร้องเรียนต่อป.ป.ช. ตั้งแต่ความผิดยังไม่สำเร็จ ชมว่าคุณศรีสุวรรณเป็นพลเมืองดี เป็นยามเฝ้าแผ่นดินที่สมควรได้รับยกย่อง ควรคู่แก่การยึดถือเป็นตัวอย่าง เช่นเดียวกับช่างภาพที่ถ่ายเอานาฬิกาหรูและแหวนเพชรเม็ดโตของพลเอกประวิตรไปเผยแพร่ก็ควรได้รับยกย่องด้วย
ถ้าท่านทำเช่นนี้ ความจริงใจและงานปราบคอร์รัปชันของท่านอาจจะช่วยลดรอยด่างของรัฐบาลอันเกิดจากนาฬิกาหรูของขุนพลของท่านได้เล็กน้อย และคนที่เคยมีความศรัทธาท่านก็จะไม่ผิดหวัง
มองไปข้างหน้า ตราบใดที่ท่านเป็นผู้นำของประเทศ ผมอยากเห็นท่านน่ารักดังในยามมีอารมณ์ดี ผมเชื่อว่าท่านทำได้ เปิดใจกว้างขึ้นเล็กน้อย และมองโลกในแง่ดีมากกว่าที่เป็นมา
ถ้าท่านหงุดหงิดบ่อยๆ เพราะถูกตำหนิหรือวิจารณ์ไปในทางร้าย ผมมีส.ค.ส. ฝากมามอบให้ท่านมีความสุขปีใหม่ โดยเปลี่ยนทัศนคติเป็นคนมองโลกในแง่ดี Bernard Shaw นักเขียนบทละครที่โด่งดังของโลก เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมมาแล้ว ท่านเป็นปรมาจารย์ในการสร้างเรื่องขำขันด้วย มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งมีนักข่าวถามท่านว่า คนมองโลกในแง่ดีกับคนมองโลกในแง่ร้ายต่างกันอย่างไร ท่านตอบสวนคำถามโดยไม่ต้องคิดว่า “ถ้ามีเหล้าอยู่ครึ่งขวด คอเหล้าที่มองเห็นแล้วดีใจ คิดว่าดีจัง ยังมีเหลือตั้งครึ่งขวด เขาคือคนมองโลกในแง่ดี ส่วนคนที่ดูแล้วถอนหายใจพูดว่า แย่จัง มีเหล้าเหลือเพียงครึ่งขวดเท่านั้น คนนั้นเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย”
สุดท้าย ด้วยความปรารถนาดี เวลาท่านพูดถึงนักการเมือง หรือตอบคำถามของสื่อมวลชนต่อสาธารณชน ขอให้ท่านคิดเสียว่าดีที่นักการเมืองและสื่อมวลชนดีๆยังมีอีกมาก สื่อมวลชนที่ยึดหลักวิชาชีพบางทีก็ตั้งคำถามแทนเสียงเล่าลือที่ไม่เป็นมิตรต่อท่าน ผมว่านั่นเป็นโอกาสอันดีที่ท่านจะแสดงตนเป็นคนมีใจกว้าง ตอบคำถามเขาไปดีๆ สำหรับสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่ติเพื่อทำลาย ก็ช่างหัวมัน ยังดีที่พวกนี้มีน้อย อย่าบ่นผ่านสื่อมวลชน ซึ่งเป็นสมบัติสาธารณะอีกเลย ข้อนี้ดูเหมือนตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา ท่านเริ่มต้นด้วยดีแล้ว ขอให้ท่านรักษาความดีนี้ต่อๆ ไป ชั่วกาลนานเทอญ