ขยายออกไป 6 เดือน รัฐผ่อนปรนแรงงานต่างด้าวพิสูจน์สัญชาติถึง 30 มิ.ย.61
รัฐผ่อนปรนแรงงานต่างด้าวพิสูจน์สัญชาติออกไปถึง 30 มิ.ย.61 วอนนายจ้างและแรงงานต่างด้าวทำความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎกติกา พร้อมร่วมมือแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
วันที่ 29 ธันวาคม 2560 พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 33/2560 เรื่อง มาตรการชั่วคราวเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ได้ผ่อนปรนให้แรงงานต่างด้าวได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศและทำงานได้จนถึง 31 ธ.ค.60 โดยแรงงานต่างด้าวต้องพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จในช่วงเวลาดังกล่าว นั้น
“รัฐบาลรับทราบถึงความจำเป็นที่จะต้องผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวราว 900,000 คน ที่กำลังดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแต่ยังไม่แล้วเสร็จ และแรงงานที่ไม่มีเอกสารใด ๆ ให้ได้ขึ้นทะเบียนประวัติ จัดทำฐานข้อมูล และพิสูจน์สัญชาติให้เรียบร้อย จึงได้ขยายเวลาดำเนินการออกไปอีก 6 เดือน จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.61 ตามมติ ครม.เมื่อ 19 ธ.ค.60 และขณะนี้ คสช.อยู่ระหว่างการพิจารณาใช้ ม.44 ในการผ่อนผัน”
สำหรับแนวทางการดำเนินงานนับจากนี้ แต่ละจังหวัดจะจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงาน เพื่อทำหน้าที่จัดตั้งและกำกับดูแลการดำเนินการของศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) ให้บรรลุเป้าหมาย
โดยแรงงานต่างด้าวที่ยังไม่ได้พิสูจน์สัญชาติกว่า 900,000 คน ต้องไปขึ้นทะเบียนประวัติจัดทำฐานข้อมูล ณ ศูนย์ OSS ในพื้นที่ที่แรงงานต่างด้าวทำงานอยู่ภายใน 31 มี.ค.61 และไปพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิ.ย.61
ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารใด ๆ ให้นายจ้างพาไปขึ้นทะเบียนประวัติและจัดทำฐานข้อมูลภายใน 30 วัน นับจากวันที่ รมว.แรงงานกำหนด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด จากนั้นให้พิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิ.ย.61 เช่นกัน
“นายกฯ อยากให้ทุกหน่วยสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ โดยยกตัวอย่างกระแสข่าวเรื่องโรงไฟฟ้ากระบี่จะใช้น้ำมันปาล์มเพื่อแก้ปัญหาราคาตก หวังปลุกกระแสให้ประชาชนติดตามทวงถามจากรัฐบาล และ กฟผ.ว่า ไม่เป็นความจริง ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลมีมาตรการอื่นในการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เป็นต้น”
ทั้งนี้ นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่อง ขอความร่วมมือของแผนการดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีกับ แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา
ในหนังสือระบุว่า ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่อ้างถึง ได้ผ่อนผันการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มาตรา 101 มาตรา 102 มาตรา 119 และมาตรา 122 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 นั้น
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 คณะรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้รับทราบถึงความจำเป็นที่จะต้องผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวที่กำลังดำเนินการพิสูจน์สัญชาติยังไม่แล้วเสร็จโดยขยายระยะเวลาดำเนินการออกไปอีก 6 เดือน จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาใช้มาตรา 44 ในการผ่อนผัน
ฉะนั้นเพื่อป้องกันมิให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวเกิดความตื่นตระหนกและเพื่อให้การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงแรงงานจึงขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติผ่อนผันการดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีกับแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ในห้วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561