ยกฟ้องคดีขึ้นค่าเช่า ‘ตลาดนัดจตุจักร’ ชี้ผู้บริหารไม่ได้ใช้อำนาจตัดสินใจฝ่ายเดียว
ศาลปกครองสูงสุดยืนตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ยกฟ้องคดีเรียกเก็บค่าธรรมเนียบแผง ‘ตลาดนัดจตุจักร’ ชี้ผู้ถูกฟ้องคดีคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบเเล้ว ไม่ได้ตัดสินใจฝ่ายเดียว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.929/2557 คดีหมายเลขแดงที่ อ.1264/2560 คดีพิพาทระหว่าง นายสงวน ดำรงค์ไทย ที่ 1 กับพวกรวม 37 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ ผู้อำนวยการตลาดนัด ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) โดยผู้ฟ้องคดีอ้างว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณตลาดนัดได้เรียกเก็บค่าเช่าที่ดินเพิ่มเติม เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นเจ้าของแผงค้าในตลาดนัดได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ศาลมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ยกฟ้อง คดีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้สถานที่ในตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (ตลาดนัดจตุจักร) ที่เพิ่มเติมจากเดิม 120 บาท เป็น 8,100 บาท
เนื่องจากศาลเห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ ไม่ได้ดำเนินการในเรื่องนี้โดยอาศัยอำนาจของตนแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น หากแต่ได้มีการประชุมพบปะหารือร่วมกันสามฝ่ายระหว่างผู้บริหารตลาดนัดกรุงเทพมหานคร หัวหน้าตัวแทนผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร และผู้แทนจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (ประธานคณะกรรมการควบคุมการจัดตลาดนัดกรุงเทพมหานคร) เพื่อร่วมกันพิจารณาและทำความเข้าใจกับตัวแทนผู้ประกอบการแล้ว
โดยหัวหน้าตัวแทนผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรมีมติเห็นชอบให้มีการเรียกเก็บค่าเช่าที่ค้างชำระแผงค้าละ 8,100 บาท และจะประสานกับผู้ค้าภายในโครงการในเรื่องดังกล่าว จึงเห็นได้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ได้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรที่ได้รับผลกระทบในลักษณะเช่นเดียวกันกับผู้ฟ้องคดีแล้ว อุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีจึงฟังไม่ขึ้น การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย.