ส่งท้ายปี ขสมก.ลงนาม SCN-CHO ซื้อขาย-ว่าจ้างซ่อมบำรุงเมล์เอ็นจีวี 489 คัน
ขสมก. ลงนามกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ส่งมอบล๊อตเเรก 100 คัน ภายใน มี.ค. 61 ขณะที่ บ.ช ทวี เเจ้ง ตลท. จัดตั้งกิจการร่วมค้า เสนอราคาโครงการฯ
วันที่ 27 ธ.ค. 2560 ที่กระทรวงคมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมในพิธีลงนามสัญญาซื้อขายรถโดยสารสาธารณะปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร จำนวน 489 คัน ระหว่างองค์การขนส่งมวลชนมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท.ช.ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัทสแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (SCN) มูลค่า 4,260,840,375 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ และรักษาการผอ.ขสมก. เปิดเผยว่า การลงนามครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติอนุมัติให้ ขสมก. จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 3,183 คัน โดยเร่งรัดให้จัดหาในระยะแรก จำนวน 489 คัน เพื่อนำมาให้บริการประชาชนทดแทนรถโดยสารเดิมที่มีสภาพทรุดโทรม เนื่องจากมีอายุการใช้งานหลายปี ซึ่ง ขสมก. ได้ดำเนินการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร 489 คัน โดยดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามกระบวนการในพระราชบัญญัติการ (พ.ร.บ.)จัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และเชิญผู้สังเกตการณ์ จากองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยทุกครั้ง ทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดซื้อรถโดยสารในครั้งนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
ด้านดร.ฤทธี กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ‘กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO’ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ และ ช ทวี ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 489 คัน โดยราคาที่เสนอให้แก่ ขสมก. นั้นถือเป็นราคาที่เหมาะสมต่อการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้มีรถโดยสารที่พร้อมให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการดำเนินโครงการนี้ SCN ได้ให้การสนับสนุนทางด้านเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี และซ่อมแซมบำรุงรักษารถโดยสาร ให้แก่กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีศักยภาพ พร้อมทั้งจะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร ที่เป็นรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและได้รับการยอมรับในภูมิภาคอาเซียน เข้ามาสนับสนุนในด้านองค์ความรู้ด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับระบบเชื้อเพลิง NGV ในโครงการนี้ทั้งหมด เช่น เทคนิคการประกอบติดตั้งเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงในรถโดยสาร รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านเทคนิคด้านการซ่อมบำรุงรักษารถโดยสาร เพื่อให้ได้ ขสมก. มีรถโดยสารที่มีคุณภาพเข้ามาวิ่งให้บริการแก่คนกรุงเทพฯ ภายใต้มาตรฐานการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น
ขณะที่ นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งเป็นผู้ผสานเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบราง และโลจิสติกส์เข้ากับการจัดการอย่างมืออาชีพ กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในทุกๆ ด้านที่จะรับงานดังกล่าว ทั้งทีมงาน โรงงาน และซัพพลายเออร์จากทั้งในและต่างประเทศที่มีความพร้อมจะสนับสนุนการจัดหาตัวถัง คัสซี และชิ้นส่วนสำคัญอื่น ๆ ตามแผนงานที่เราวางไว้อย่างเต็มที่ ประกอบกับบริษัทฯ ได้เคยรับงานในลักษณะใกล้เคียงกันมาแล้ว ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีได้ตามกำหนดเวลา โดยระยะเวลาส่งมอบงานล็อตแรกจำนวน 100 คัน ภายในมี.ค. 2561 และส่งมอบอีก 120 คัน ภายใน 100 วัน และอีก 100 คันส่งมอบภายใน 120 วัน และที่เหลือ 189 คันจะส่งมอบได้ภายใน 180 วัน ตามสัญญา หรือภายในมิ.ย. 2561
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกัน CHO ได้ส่งหนังสือแจ้งความคืบหน้าต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับการจัดตั้งกิจการค้าร่วม (Consortium) เพื่อเสนอราคาโครงการซื้อรถเมล์เอ็นจีวี พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร มีรายละเอียดว่า กลุ่มร่วมทํางาน SCN-CHO ที่ร่วมจัดตั้งโดย บริษัท สแกน อินเตอร์ จํากัด(มหาชน) และ บริษัท ช ทวี จํากัด (มหาชน) ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายและว่าจ้างซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ(NGV) จํานวน 489 คัน กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2560 โดยมีมูลค่าโครงการทั้งโครงการรวมทั้งสิ้น 4,261 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แบ่งเป็นมูลค่ารถโดยสาร 1,891 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และว่าจ้างซ่อมแซมและบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 10 ปี รวม 2,370 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัท แต่งตั้งตัวแทนของตน บริษัทละ 1 ท่าน เพื่อร่วมกันลงนามในข้อตกลง และเอกสารต่าง ๆ อันเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของโครงการ เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีมูลค่าโครงการที่เป็นสาระสำคัญและเพื่อให้นักลงทุนได้ทราบโดยทั่วถึงกัน จึงเห็นสมควร เปิดเผยข้อมลูผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่ก่อนลงนามในสัญญาเพียง 1 วัน บริษัท แม่โขง เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นเอกชนที่เคยสนใจเข้าร่วมประมูล ยื่นหนังสือร้องเรียนกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบผลการพิจารณาคัดเลือกครั้งล่าสุดส่อเอื้อต่อบริษัทเอกชนหรือไม่ โดยหนึ่งในข้อร้องเรียนระบุถึงผลการรับรองมติที่ประชุมคณะกรรมการบอร์ด ขสมก. 6:4 ที่เห็นชอบให้บริษัทเอกชนรายดังกล่าวเป็นผู้ผ่านการพิจารณา ส่อเป็นการปั้นผลมติ เนื่องจาก เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2560 มีกรรมการบอร์ด ขสมก. เข้าร่วมเพียง 7 ราย ขาดประชุม 3 ราย คือ นายธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ พลโทวราห์ บุญญะสิทธิ์ และนายชัยชนะ มิตรพันธ์ จึงเรียกร้องให้ ป.ป.ช. เร่งตรวจสอบบันทึกการประชุม อย่างไรก็ตาม นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบอร์ด ขสมก. ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว .
อ่านประกอบ:ขสมก.อ้างเรื่องมันยาว ปัดตอบปมถูกร้องมติส่อเก๊ คัดเลือก SCN-CHO คว้าจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี
ป.ป.ช.สอบ ขสมก.ซื้อรถเมล์ ส่อพบพิรุธทั้งคุณสมบัติและปั้นโหวต