ที่เดิมสกปรก-ไม่เป็นมงคล!'ปธ.คตง.'แจงปมย้ายพระพุทธรูปคนในสตง.ทำกันเอง-ปัดรู้เห็น
'พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ' ปธ.คตง. แจง 'อิศรา' ไม่ได้เป็นคนต้นคิดสั่งย้ายที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำสตง. ระบุผู้บริหารภายในชงเรื่องเสนอมาเอง เผยมีพระเคยเตือนที่ตั้งเดิมสกปรก เป็นบ่อ ไม่เป็นมงคล ทำให้มีแต่ข่าวไม่ดี ทำอะไรไม่ก้าวหน้า ยันทุกคนเข้าใจหมด คุยกับผู้บริหารทุกระดับแล้ว ส่วนกรณีออกบันทึกแจ้งเวียนขู่ลงโทษคนเปิดเผยผลสอบ เหตุต้องจัดระเบียบใหม่ การให้ข่าวต่อสื่อมวลชนต้องครบถ้วนมากที่สุด ไม่เช่นนั้นจะมีความผิด
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรณีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภายหลังจากที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ชุดใหม่ ที่มี พลเอก ชนะทัพ อินทามระ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เข้ามาบริหารงานเป็นทางการ พร้อมปรากฎชื่อ นายพรชัย จํารูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้มีอาวุโสสูงสุดในตําแหน่งรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน) เข้ามารับหน้าที่เป็นผู้รักษาการตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ว่าไม่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุก เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบปัญหาการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน อันเป็นปรัชญาขั้นพื้นฐานที่สำคัญในการทำงานของข้าราชการสตง. ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบปกป้องรักษาผลประโยชน์เงินแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชน อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งล่าสุดมีการออกบันทึกแจ้งเวียนคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ เปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบของ สตง. ให้สาธารณชนทราบโดยมิได้รับมอบหมายจาก คตง. หรือผู้ว่าฯ สตง. นอกจากนี้ยังมีการออกคำสั่งโยกย้ายข้าราชการระดับผู้อำนวยการสำนักที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการสอบสวนหลายตำแหน่ง รวมไปถึงการย้ายที่ประดิษฐานพระพุทธธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำ สตง.ด้วย นั้น (อ่านประกอบ : สั่งย้ายทั้งคน-พระ! โวยนโยบายบิ๊กคตง. ล้วงลูกฝ่ายบริหารใช้อำนาจคุม 'สตง.' เบ็ดเสร็จสดจากสตง.! ว่าด้วยยุคมืดแห่งการตรวจสอบทุจริต-เมื่อจนท.ถูกขู่เล่นงานโทษวินัยปมเอกสารหลุด, สั่งย้ายทั้งคน-พระ! โวยนโยบายบิ๊กคตง. ล้วงลูกฝ่ายบริหารใช้อำนาจคุม 'สตง.' เบ็ดเสร็จ)
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2560 ได้ติดต่อไปยัง พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว
พล.อ.ชนะทัพ ชี้แจงว่า เรื่องการย้ายพระพุทธรูปประจำสตง.นั้น ตนไม่ได้เป็นคนสั่งการ ไม่รู้เรื่องนี้เลย และไม่ได้เป็นแนวคิดของตนด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ทางผู้บริหารภายในสตง.ส่งเรื่องขึ้นมาให้พิจารณา ตนก็ดำเนินการตามที่เสนอมา โดยได้ย้ายพระพุทธรูปออกไปประดิษฐานที่อื่นก่อน จากนั้นจะสร้างที่ประดิษฐานให้ใหม่ เพื่อให้เหมาะสมในทุกด้าน
“ผู้บริหารสตง.บอกกับผมว่ามีพระท่านเคยเตือนไว้ว่าที่ตั้งเดิมของพระพุทธรูป เป็นที่สกปรก เป็นบ่อ ไม่เป็นมงคล ทำให้สตง.มีแต่ข่าวไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ก้าวหน้า ทุกคนเขาเข้าใจหมด ผมคุยกับผู้บริหารระดับสูง และระดับล่าง ทุกคนเห็นด้วยหมดเลย ผมไม่เห็นมีใครพูด มีแต่พวกคนทำที่จะพูด ผมไม่รู้ว่าใครทำ ซึ่งเขาอาจจะพูด แต่คนอื่นเขาไม่พูดหรอก ผมคุยกันแล้วทุกคนเห็นพ้องกันหมด” พล.อ.ชนะทัพระบุ
ส่วนกรณีที่นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รักษาการผู้ว่าฯสตง. ออกบันทึกแจ้งเวียนคำสั่งเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวการตรวจสอบของสตง. โดยห้ามไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบของสตง. ให้สาธารณชนทราบ พร้อมอ้างว่าการเปิดเผยข้อมูลผิดตามกฎหมายระเบียบของสตง.นั้น
พล.อ.ชนะทัพ กล่าวต่อว่า "เราอยากจัดระเบียบการทำงานใหม่ทั้งหมด เพราะอยากให้การให้ข่าวต่อสื่อมวลชนมีข้อมูลที่ครบถ้วนมากที่สุด ดังนั้น เราต้องให้ข่าวภายหลังที่คดีถึงที่สิ้นสุดก่อน ไม่เช่นนั้นจะมีความผิด เราก็แจ้งเตือนไปแล้ว เพราะเกรงว่าจะเสียหาย"
“ทางผู้ตรวจระดับภาคสอบถามมายังผมเกี่ยวกับการให้ข่าว ซึ่งเขาท้วงติงมาว่าหากมีการนำเสนอข่าวออกมาก่อนอาจจะถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจน เราจึงต้องยึดตามกฎหมาย ผมหารือผู้รับผิดชอบทั้งหมดแล้ว เขาเห็นด้วย เพราะเขาเกรงว่าระหว่างหน่วยงานจะทะเลาะกัน หากมีการนำเสนอข่าวไปก่อนที่จะมีข้อเท็จจริงสรุปออกมา ซึ่งสื่อต้องเข้าใจว่าเรามีกระบวนการอยู่ เหมือนกับกรณีที่หากนำผลสรุปทางคดีมาเปิดเผยก่อน ทั้งที่ เขายังไม่ถูกตัดสินว่าผิดเลย มันจะถูกต้องหรือไม่ เพราะจะทำให้เขาเกิดความเสียหาย” พล.อ.ชนะทัพระบุ