ทรัมป์ถูกเมิน ไม่ได้รับเชิญร่วมประชุมสุดยอดผู้นำโลกร้อนที่ปารีสสัปดาห์นี้
ทรัมป์ถูกเมิน ไม่ได้รับเชิญร่วมประชุมสุดยอดผู้นำโลกร้อนที่ปารีส ผู้เชี่ยวชาญชี้ นี่คือตัวอย่างแรกของการออกจากข้อตกลงปารีส ด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศส ลั่นจะทำให้โลกกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 60 นิวยอร์กไทม์ รายงานว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีผู้นำจาก 50 ประเทศชั้นนำทั่วโลกเข้าร่วมโดยประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครงคาดว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นแรงขับสำคัญครั้งใหม่ในการจัดการปัญหาการเปลี่ยนของสถาวะภูมิอากาศหรือโลกร้อน
ในรายงานข่าวครั้งนี้ระบุว่า การประชุมที่ปารีสไม่มีผู้นำของสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ทรัมป์
ด้านมาครอง ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ไทม์เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์จะได้รับการเชิญแน่นอนหากเขาไม่ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกปารีส
“วันนี้คุณไม่มีทางที่จะกลับมาเจรจากลับอีก 180-190 ประเทศได้เเล้ว เมื่อคุณไม่เห็นด้วยกับข้อตกลง แล้วแผนบีของคุณคืออะไร ผมไม่รู้”
ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศ มองว่าการที่ผู้นำสหรัฐฯได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกปารีส ซึ่งถือเป็นข้อตกลงสำคัญที่ทุกประเทศทั่วโลกร่วมนั้น ทำให้สถานะของสหรัฐฯขณะนี้ถูกตัดขาดจากประชาคมโดยเฉพาะในกระบวนการแก้ปัญหาโลกร้อน ซึ่งการไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำที่ปารีสครั้งนี้คือตัวอย่างหนึ่ง
สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำในประเด็นโลกร้อนครั้งนี้จะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็น ทางด้านเศรษฐกิจและการเงินในการเปลี่ยนผ่านจากการใช้พลังงานฟอซซิลและการพัฒนามาตรการแหละเครื่องมือในการเดินไปสู่พลังงานทางเลือกเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน
ในข้อตกลงปารีสเมื่อสองปีที่เเล้วนั้น ได้ตกลงกันว่าให้ประเทศที่พัฒนาเเล้วจัดสรรงบประมาณรวมกันให้ได้ 100 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้ากองทุนโลกร้อนโดยจะเริ่มในปี 2020 นี้ อ้างอิงจากข้อมูลขององค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ระบุว่าตัวเลขที่ว่านั้นยังห่างไกล รัฐบาลทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการเข้าร่วมในข้อตกลงนี้ เพราะต้องรับภาระจ่ายเงินเข้ากองทุนเป็นจำนวน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยังกล่าวถึงกองทุนนี้ว่า จะช่วยให้โลกกลับมาดีอีกครั้ง “Make Our Planet Great Again” โดยจะอุดหนุนนักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯที่ทำงานวิจัยในฝรั่งเศส
ทรัมป์ได้กล่าวถึงเงินทุนที่ต้องจัดสรรว่า ภายใต้ข้อตกลงปารีส เงินพันล้านเหรียญจะต้องเอามาลงทุนที่นี่ ที่สหรัฐฯ เราจะเอาโรงงานของเรากลับมา เอางานของเรากลับมา
แต่อย่างไรก็ตาม ทางด้านผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายโลกร้อน กลับมองว่า ประเทศที่ลุกขึ้นมาจัดการปัญหาโลกร้อนนั้น ช่วยทำให้เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้น เช่นการลงทุนในตลาดโซล่าร์ฟาร์ม พลังงานลม เป็นต้น