ศาลฎีกาฯฟัน 11 ราย ซุกบัญชีฯ-ยื่นเท็จ นักการเมือง 9 จว.-ปรับเงิน รอลงโทษจำคุก
ลอตล่าสุด ศาลฎีกาฯ ฟันนักการเมืองท้องถิ่น 9 จว. จงใจซุกบัญชีฯ-ยื่นเท็จ 11 ราย พ้นทันที 3 คน ปรับ 4,000-8,000 บาท คุก 1-2 เดือน รอลงโทษรวด นครสวรรค์ สุราษฎร์ฯ อุบลฯ สตูล จันทบุรี ปทุมฯ อุดรฯ ชลบุรี ด้าน ส.อบจ.บึงกาฬ ไม่แจ้งหนี้ 5 แสน
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2560 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน จำนวน 11 ราย ศาลพิพากษาให้มีความผิดทั้งหมด จำแนกเป็น
จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 10 ราย ได้แก่
1.นายเชิดพันธุ์ มาศรี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ (อบจ.นครสวรรค์)
2. นายอนุวัตร ศรียาเทพ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) พ่วงพรมคร อ. เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี
3. นายเจษฎา พรหมดี นายกองค์การบริหาร ส่วนตำบล (อบต.) คูเมือง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
4. นายสุมาตรา แซะอาหลี รองนายก นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล
5. นางภูริดา หรือเฉลียว จันพินิจ หรือโคคา รองนายกนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
6.น.ส.ทิพากร บำเพ็ญศรี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี)
7.นายพูนทรัพย์ บุญอภัย รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองหลัก อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี
8.นายวินัย ลิ้มเจริญ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี
9. นายสวรรค์ กลมเกลียว รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองหลัก อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี
10. นายเนตรชนก จันทร์สว่าง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองปลิง อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์
และ จงใจยื่นบัญชีเท็จ 1 ราย ได้แก่ นายประสิทธิ์ชัย แสงสว่าง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ (ส.อบจ.บึงกาฬ)
ทั้ง 11 คนห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ,3 คนพ้นตำแหน่งที่ดำรงอยู่ทันที,10 คนมีโทษปรับ 4,000-8,000 บาท จำคุก 1 -2 เดือน โทษจำคุกรอการลงโทษคนละ 1 ปี
มีรายละเอียดดังนี้
จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 10 ราย
1.นายเชิดพันธุ์ มาศรี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ (อบจ.นครสวรรค์) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งเลขานุการนายก อบจ.นครสวรรค์ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 2 ก.ย.2557 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลา ที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี การกระทำ ของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุก มาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 157/2560- 20 ก.ย. 2560) http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/122/3.PDF
2. นายอนุวัตร ศรียาเทพ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) พ่วงพรมคร อ. เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายก อบต. พ่วงพรมคร ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 20 ก.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 191/2560- 20 ก.ย. 2560) http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/122/8.PDF
3. นายเจษฎา พรหมดี นายกองค์การบริหาร ส่วนตำบล (อบต.) คูเมือง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งนายก อบต.คูเมือง ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 ธ.ค.2556 อันเป็นวันที่ ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 192/2560- 20 ก.ย. 2560) http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/122/12.PDF
4. นายสุมาตรา แซะอาหลี รองนายก นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ปากน้ำ ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 15 ก.พ.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 193/2560- 20 ก.ย. 2560) http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/122/16.PDF
5. นางภูริดา หรือเฉลียว จันพินิจ หรือโคคา รองนายกนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ขุนซ่อง ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 31 ส.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 194/2560- 20 ก.ย. 2560) http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/122/20.PDF
6.น.ส.ทิพากร บำเพ็ญศรี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งเลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี ห้ามมิให้ ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 22 ก.ค.2554 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง ข้อหาอื่นจากนี้ให้ยก
(คดีหมายเลขแดงที่ อม. 195/2560- 20 ก.ย. 2560) http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/122/24.PDF
7.นายพูนทรัพย์ บุญอภัย รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองหลัก อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.หนองหลัก ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 31 ส.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 197/2560- 20 ก.ย. 2560) http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/122/28.PDF
8.นายวินัย ลิ้มเจริญ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.หนองหงษ์ ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 31 ส.ค.2555 ซึ่งเป็น วันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 198/2560- 20 ก.ย. 2560)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/122/32.PDF
9. นายสวรรค์ กลมเกลียว รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองหลัก อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว เป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.หนองหลัก ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 31 ส.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้าน พ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 199/2560- 20 ก.ย. 2560)
10. นายเนตรชนก จันทร์สว่าง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองปลิง อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.หนองปลิง ครั้งที่ ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 29 ก.ย.2554 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้าน พ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.หนองปลิง ครั้งที่ 1 และให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.หนองปลิง ครั้งที่ 2 ที่ดำรงอยู่ในวันที่ 20 ก.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุก มาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 201/2560- 20 ก.ย. 2560)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/122/44.PDF
จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ
1.นายประสิทธิ์ชัย แสงสว่าง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ (ส.อบจ.บึงกาฬ) จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ อันมาจากไม่แสดงรายการหนี้สินกรณีหนี้กู้ยืมเงินอันมีหลักฐานเป็นหนังสือจาก นางอนงค์ ไวมงคุณ จำนวน 500,000 บาท ตามคดีหมายเลขดำที่ 314/2558 หมายเลขแดงที่ 409/2558 ของศาลจังหวัดบึงกาฬ กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.อบจ.บึงกาฬ ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ส.อบจ. บึงกาฬที่ดำรงอยู่ในวันที่ 20 ก.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย และห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 20 ก.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 200/2560- 20 ก.ย. 2560) http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/122/40.PDF
อ่านประกอบ:
ซุกเงินฝาก รถ หนี้! ศาลฎีกาฯฟันนักการเมืองราชบุรี - 6 คนไม่ยื่นบัญชีฯ รอลงโทษจำคุก
เผยชื่อ 14 นักการเมืองลอตใหม่ ศาลยกคำร้อง ซุกบัญชีฯ เหตุ ป.ป.ช.ยกเลิกตำแหน่ง
กรณีศึกษา นักการเมืองสตูล ซุกหนี้ สตรี 2 คน 1.5 ล - เมีย 7 แสน ‘แยกอยู่คนละบ้าน’
ศาลฎีกาฯฟัน 7 นักการเมืองไม่ยื่นบัญชีฯ-ให้นายก อบจ.ชุมพร พ้น ตน.ทันที จำคุก รอลงโทษ