53 บช.แบงก์ ที่ดิน12แปลง 4ห้องชุด รถ4คัน! ป.ป.ช.แพร่มติ 'วีระวุฒิ' รวยผิดปกติ 896ล.
ป.ป.ช. แพร่มติชี้มูล วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการบุญทรง ร่ำรวยผิดปกติ 896ล. เป็นทางการ ส่งอัยการฟ้องศาลฎีกาฯ ยึดทรัพย์ 53บัญชีธนาคาร-เงินลงทุน ที่ดิน12แปลง 4 ห้องชุด รถ 4 คัน ระบุขอให้บังคับคดีเอาทรัพย์สินอื่นได้ภายในอายุความ 10 ปี
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูล พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ หรือ ‘หมอโด่ง’ อดีต เลขานุการนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องในการคดีทุจริตขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติประมาณ 800 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศ อาทิ อสังหาริมทรัพย และอยู่ในชื่อของคนใกล้ชิด จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป ป.ป.ช.จะแถลงรายละเอียดในวันที่ 30 พ.ย.นี้ (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ฟัน ‘วีระวุฒิ’ อดีตเลขาฯ ‘บุญทรง’ รวยผิดปกติ 800 ล.- อายัดได้ 90 ล.)
ล่าสุด สำนักงานป.ป.ช. ได้เผยแพร่ข่าวแถลงมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูล พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ในคดีร่ำรวยผิดปกติเป็นทางการ รวมวงเงินทรัพย์สิน 896,554,760.28 บาท แยกเป็นเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ในชื่อ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ และอดีตคู่สมรส บุตร เครือญาติและผู้ใกล้ชิด จำนวน 53 บัญชี เป็นเงิน 567,715,461.37 บาท , เงินลงทุนในชื่อ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ และอดีตคู่สมรส บุตร เครือญาติและผู้ใกล้ชิด 6 แห่ง มูลค่า 260,142,651 บาท , ที่ดินในชื่ออดีตคู่สมรส บุตร เครือญาติ 12 แปลง ในท้องที่กทม. มูลค่า 57,066,828 บาท , 4 ห้องชุดในชื่อเครือญาติ ศาลาแดง โคโลเนต ตำบลสีลม อำเภอบางรัก กทม. 1 ห้อง มูลค่า 6,200,000 บาท และรถยนต์ 4 คัน ในชื่อเครือญาติผู้ใกล้ชิด มูลค่า 6,309,000 บาท พร้อมส่งเรื่องให้อัยการสูงสูด ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษายึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป และขอให้อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อจัดให้มีวิธีคุ้มครองตามกฎหมายแพ่ง และหากไม่สามารถบังคับคดีเอาทรัพย์สินได้ ขอให้บังคับคดีเอาทรัพย์สินอื่นได้ภายในอายุความ 10 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินไปแล้ว วงเงิน 99,203,133.17 บาท
ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ช.ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบนักการเมืองจำนวน 5 คนและข้าราชการระดับผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีก 3 คน พบว่าบางส่วนมีความผิดปกติในเรื่องของบัญชีทรัพย์สิน จึงได้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาความชัดเจนต่อไป