ป.ป.ช.ฟัน‘ปราโมช’อดีตอธิบดีกรมประชาฯซุกบัญชีทรัพย์สิน
โดนอีกราย! ป.ป.ช.ชี้มูล‘ปราโมช’อดีตอธิบดีกรมประชาฯ ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินตอนพ้นตำแหน่งผู้ตรวจ หลังถูกย้ายนั่งที่ปรึกษานายกฯฝ่าย ขรก.ยุครัฐบาลสมัคร ศาลฎีกาฯนัด พิจารณา 20 ธ.ค.60
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลนายปราโมช รัฐวินิจ อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กรณีไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. และส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยต่อไป
สำนักข่าวอิศรารายงานว่าล่าสุด ศาลฎีกาฯ นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 20 ธ.ค.2560 (คดีหมายเลขดำที่ อม.204/2560)
นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า นายปราโมชไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ตอนพ้นตำแหน่งผู้ตรวจราชการ และทาง ป.ป.ช.มีหนังสือให้ชี้แจงแล้วแต่ไม่ได้ชี้แจงถึงเหตุผล คณะกรรมการป.ป.ช.จึงส่งเรื่องให้ศาลฎีกาฯวินิจฉัย
จากการตรวจสอบพบว่า นายปราโมช รัฐวินิจ เคยเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ถูกรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ย้ายไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหาร 10 ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2551 ยุคนายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ โดยให้นายเผชิญ ขำโพธิ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมประชาสัมพันธ์แทน ปัจจุบันเป็น นายปราโมชเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทในเครือแกรมมี
-----------------
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี
พ้นจากตำแหน่ง จำนวน 1 ราย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 2 ราย ดังนี้
1. นายปราโมช รัฐวินิจ พ้นจากตำแหน่ง อธิบดี (นักบริหาร 10) กรมประชาสัมพันธ์
และให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหาร 10) สำนักเลขาธิการ
นายกรัฐมนตรี
2. นายเผชิญ ขำโพธิ์ รองอธิบดี (นักบริหาร 9) กรมประชาสัมพันธ์ ดำรงตำแหน่ง อธิบดี
(นักบริหาร 10) กรมประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2551 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
อ่านประกอบ:
ป.ป.ช.ชี้มูล‘เมีย’ที่ปรึกษา‘ขุนค้อน-สมศักดิ์’ เจ้าของ 8 บริษัทพันล. ซุกบัญชีฯทั้งคู่