กว่า 2 ปีในตุรกี...ทางวิบาก "วรรณา" ผู้ต้องหาบึ้มราชประสงค์
มีข้อมูลอีกด้านจากปากคำของญาติสนิทและผู้ใหญ่บ้าน เกี่ยวกับ วรรณา หรือ ไมซาเราะ สวนสัน ที่แม้วันนี้เธอจะถูกควบคุมตัวในฐานะผู้ต้องหาร่วมกันวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ เมื่อ 17 ส.ค.58 แต่ดูเหมือนรายละเอียดในชีวิตของเธอตลอดกว่า 2 ปีที่ผ่านมา จะเป็นคนละเรื่องกับที่ตำรวจให้ข่าวและสังคมรับรู้
โดยเฉพาะการควบคุมตัวเธอในฐานะผู้ต้องหา ไม่ใช่การจับกุม แต่คล้ายๆ จะยอมมอบตัวเองมากกว่าหรือไม่
อิบรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า รู้จัก วรรณา มาตั้งแต่เด็กๆ ถือเป็นเด็กที่โตมาในชนบท กรีดยางมาตั้งแต่เล็กๆ จนมาทราบว่ามีสามีเป็นชาวตุรกี เคยเจอกันตอนจัดงานแต่งงาน ทราบว่าทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ และพูดไทยไม่ได้ วันแต่งงานมีเพื่อนชาวต่างชาติมาด้วย แต่ไม่ทราบว่าเป็นบุคคลในหมายจับหรือไม่
"ผมเจอวรรณากับสามีครั้งสุดท้าย เมื่อเดือน พ.ค.58 เพราะปกติเขาอยู่กรุงเทพฯ ช่วงนั้นเขาเดินทางกลับไปที่พังงาเพื่อทำเอกสารเดินทางออกนอกประเทศ ไปตุรกี และเดินทางออกไปเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ขึ้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ต"
ผู้ใหญ่บ้านอิบรอเหม บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ วรรณา ถูกออกหมายจับ โดยตัวอยู่ที่ตุรกี ทราบว่ามีการติดต่อพูดคุยกับทางบ้านที่พังงามาโดยตลอด เพื่อขอให้ช่วยเหลือ โดย วรรณา ยืนยันว่าไม่ได้ร่วมกระทำผิด ทางบ้านก็พยายามเดินเรื่องช่วยเหลือให้เดินทางกลับไทย มีการยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประสานงานเดินเรื่องให้กลับมา โดยคุยกันว่าเราคนไทยด้วยกัน ถึงอย่างไรก็ให้กลับมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยวันนี้ก็มีตำรวจมาประสานงาน ดำเนินการเพื่อให้ วรรณาได้มอบตัวตามความตั้งใจของเจ้าตัว
ขณะที่ เอมอร สวนสัน อายุ 40 ปี พี่สะใภ้ของวรรณา บอกทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวดีใจที่ วรรณา เดินทางกลับประเทศ จึงเดินทางจากพังงาเพื่อมารอรับ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อปี 58 การกลับมาครั้งนี้เป็นความตั้งใจของวรรณาเอง เพื่อมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพราะยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด นับตั้งแต่เกิดเหตุและถูกออกหมายจับ เธออยู่ต่างอยู่ที่ประเทศตุรกีตลอด ที่ผ่านมาก็ตั้งใจเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ระหว่างนั้นถูกควบคุมตัวและถูกกักบริเวณในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งตนไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นที่ใดในประเทศตุรกี
"น้องถูกจับตัวไว้พร้อมสามีตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อปี 58 กระทั่งล่าสุดได้เดินทางกลับมาประเทศไทย ครอบครัวรู้สึกดีใจมากที่ได้เจอน้องและได้พบหลานอีก 2 คน คนหนึ่งอายุ 3 ขวบอีกคนขวบครึ่ง" เอมอร ระบุ และว่าตั้งแต่ถูกออกหมายจับเมื่อปี 58 ก็ได้พูดคุยกับวรรณามาตลอด เธอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด อยากจะกลับประเทศ แต่กลับไม่ได้ ครั้งนี้กลับมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ก็ต้องรอดูว่าความบริสุทธิ์ใจของเธอ จะส่งผลต่อรูปคดีแค่ไหน และอย่างไร?
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข่าว : อนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์ เนชั่นทีวี
บรรยายภาพ : บรรยากาศช่วงที่ วรรณา ได้พบหน้าครอบครัว