บึ้มราชประสงค์ยังไม่จบ ดักรวบ "วรรณา" แจ้งข้อหาหนักส่งศาลทหาร
มีความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ กลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.58 โดยตำรวจสามารถจับกุมหญิงสาวชาวจังหวัดพังงาได้แล้ว หลังจากพยายามมานานกว่า 2 ปี โดยเธอผู้ต้องหาเพียงหนึ่งเดียวจาก 17 คนในคดีนี้ที่เป็นคนไทย
ผู้ต้องหาหญิงรายนี้ คือ น.ส.วรรณา หรือ ไมซาเราะ สวนสัน อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 6 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา ถูกจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจากตำรวจสืบทราบว่า น.ส.วรรณา กำลังเดินทางเข้าประเทศไทย โดยผ่านช่องทางสนามบินสุวรรณภูมิ และมาพร้อมกับลูกน้อย 2 คน วัย 3 ขวบและ 1 ขวบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว น.ส.วรรณา ไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีครอบครัวของเธอมารอรับ เมื่อพบหน้าทั้งสองฝ่ายพากันร้องไห้และโผเข้ากอดกัน ตำรวจได้คุมตัว น.ส.วรรณา โดยไม่มีการพันธนาการ ไปตรวจร่างกาย จากนั้นได้แจ้งข้อหาให้ทราบ โดยมี นายบดีศร เผ่าสุทอ ทนายจากสภาทนายความ นายอีฉา สวนสัน พี่ชาย และ นายอิบรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.คุระ ร่วมเป็นสักขีพยานและสังเกตการณ์อยู่ด้วย
คดีลอบวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ส.ค.58 แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย บาดเจ็บกว่าร้อย ถือเป็นเหตุรุนแรงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ร่วมกันสืบสวนหาพยานหลักฐาน จนสามารถจับกุม นายบิลาล เติร์ก มูฮัมหมัด หรือ นายอาเดม คาราดัก ได้ที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งย่านมีนบุรี หนองจก และตามรวบตัว นายเมอไรลี ยูซุฟู ได้ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ขณะนี้คดีอยู่ในศาลทหาร
ผู้ต้องหาในคดีนี้มี 17 คน ที่เหลืออีก 15 คน รวมทั้ง น.ส.วรรณา และ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สามีชาวตุรกี ได้หลบหนีไป โดยตำรวจมีหลักฐานว่า น.ส.วรรณา เป็นผูู้ที่ไปเปิดห้องพักให้กลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้พักและหลบซ่อนตัว ตลอดมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า น.ส.วรรณา พำนักอยู่ที่ประเทศตุรกีกับสามี จึงได้พยายามประสานติดตามตัวทุกช่องทาง กระทั่งสุดท้ายก็จับกุมได้ขณะ น.ส.วรรณา พาลูกกลับไทย
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง, พาอาวุธ (วัตถุระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธรณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหาทั้งหมดเป็นไปตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ เลขที่ 84/2558 ลงวันที่ 25 ก.ย.58 โดย น.ส.วรรณา ยืนยันเพียงว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) กล่าวว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด17 คน จับได้แล้ว 3 คน น.ส.วรรณา คือรายที่ 3 โดยการจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่เป็นการจับกุมตามหมายจับเมื่อสืบทราบว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย ส่วนเรื่องการประสานงานกับทางตุรกีตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของต่างประเทศ และเป็นเรื่องของอัยการสูงสุด ส่วนครั้งนี้ น.ส.วรรณา เดินทางมาจากประเทศใด ตนก็ไม่ทราบ คดีนี้สรุปสำนวนส่งอัยการศาลทหารไปนานแล้ว กระบวนการหลังจากนี้ตำรวจจะส่งตัว น.ส.วรรณา ให้อัยการศาลทหารเพื่อควบคุมตัวตามกระบวนการยุติธรรมต่อ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ข่าว : อนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์ เนชั่นทีวี
บรรยายภาพ :
1, 2 น.ส.วรรณา สวนสัน (สวมฮีญาบสีขาว)
3 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ขณะรับตัว น.ส.วรรณา